ภาษีที่ดินใหมปี 2567 กับข้อควรรู้ทั้งหลายที่ต้องเตรียมรับมือ

/
/
ภาษีที่ดินใหมปี 2567 กับข้อควรรู้ทั้งหลายที่ต้องเตรียมรับมือ

อย่างที่ทราบกันดีว่า ในปี 2563 เป็นปีที่เริ่มต้นการเก็บภาษีที่ดินใหม่ หรือที่เรียกกันอย่างเป็นทางการว่า พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2562 (พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง) โดยในครั้งแรกประกาศให้เริ่มจัดเก็บไปเป็นเดือนสิงหาคม 2563 แทน แต่เนื่องจากกฎหมายในพ.ร.บ. ที่กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการคลังรับผิดชอบยังไม่เสร็จเรียบร้อย จึงทำให้กำหนดการเสียภาษีถูกเลื่อนออกไป ทำให้ในปี 2566 ได้มีการลดหย่อนภาษีที่ดินให้ 15% ของจำนวนภาษีที่คำนวณได้ 

แต่ในปี 2567 นี้ กระทรวงมหาดไทยมีแนวทางในการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแบบเต็มอัตรา 100% ไม่มีการลดหย่อน แต่ขยายระยะเวลาการชำระภาษีออกไป ดังนั้น หากคุณเป็นผู้ถือครองที่ดินหรือเข้าข่ายจะต้องเตรียมรับมือหรือจ่ายภาษีอย่างไร รวมถึงมีโอกาสได้รับการลดหย่อนจากอะไรบ้าง ทำความเข้าใจข้อมูลเหล่านี้ได้ในบทความฉบับนี้เลย

ภาษีที่ดินใหม่คืออะไร

เพื่อให้คุณได้ศึกษาและทำความเข้าใจกับข้อมูลได้ง่ายขึ้น อันดับแรกจะต้องเริ่มจากการทำความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับภาษีที่ดินใหม่ เพื่อเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่ตามมา ด้วยองค์ความรู้พื้นฐาน ดังต่อไปนี้

1. นิยามของภาษีที่ดินใหม่

ภาษีที่ดิน หรือภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เป็นภาษีที่ดินใหม่ที่มาแทนการจัดเก็บภาษีบำรุงท้องที่ ภาษีโรงเรือนและที่ดินซึ่งถูกยกเลิกไป โดยผู้ที่เคยเสียภาษีดังกล่าว ตั้งแต่ปี 2563 จะไม่ต้องเสียภาษีเหล่านี้ซ้ำอีก แต่จะเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแทนตามพ.ร.บ. ฉบับใหม่

ซึ่งภาษีที่ดินใหม่ ปี 2567 นี้ จะทำการจัดเก็บภาษีตามมูลค่าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีอยู่ในครอบครอง โดยจะทำการจัดเก็บเป็นรายปี โดยแบ่งทรัพย์สินที่ต้องเสียภาษีออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้

  • ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม
  • ที่เพื่อการอยู่อาศัย
  • ที่ดินเพื่อพาณิชยกรรม 
  • ที่ดินรกร้างว่างเปล่า

2. องค์ประกอบภาษีที่ดินใหม่

สำหรับสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษีที่ดินใหม่ตามพ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับนี้จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ส่วนหลักๆ ด้วยกัน คือ

  • ฐานภาษี : เป็นจำนวนเงินที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณภาษี ได้แก่ มูลค่าทั้งหมดของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง โดยเป็นราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจากกรมธนารักษ์ 
  • ผู้เสียภาษี : เจ้าของที่ดิน เจ้าของสิ่งปลูกสร้าง เจ้าของห้องชุด หรือผู้ครอบครองทรัพย์สินที่ทำประโยชน์ในส่วนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของรัฐ ทั้งนี้ ผู้เสียภาษีต้องเสียภาษีทุกปี และต้องชำระภายในเดือนเมษายนของปีนั้นๆ เหมือนกับการชำระภาษีบำรุงท้องที่และภาษีโรงเรือนและที่ดินซึ่งถูกยกเลิกไป (ยกเว้นปี 2567 มีกำหนดการชำระภาษีเต็ม 100% และขยายระยะเวลาออกไปอีก 2 เดือน จากเดิมต้องชำระภายในเดือนเมษายน 2567 ภาษีที่ดินใหม่ ปี 2567 สามารถชำระได้ภายในเดือนมิถุนายน 2567)
  • ผู้จัดเก็บภาษี : หน่วยงานผู้รับผิดชอบในการจัดเก็บภาษี ได้แก่ สำนักงานเขตเทศบาล, สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบล, สำนักงานเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และศาลาว่าการเมืองพัทยา

3. ประเมินการเสียภาษีอย่างไร 

การประเมินการเสียภาษีจะคำนวณเป็นขั้นบันไดตามมูลค่าของฐานภาษีและจะปรับตามรอบบัญชีประเมินราคาทุก 4 ปี ผู้ประเมินการเสียภาษีที่ดินใหม่ คือกรมธนารักษ์ โดยคุณสามารถคำนวณหาจำนวนภาษีที่ต้องจ่ายได้จาก 3 สูตรนี้

1. สูตรคำนวณหาภาษีสำหรับที่ดินที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง

มูลค่าที่ดิน x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย

(โดยมูลค่าที่ดิน = ราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดิน (ต่อ ตร.ว.) x ขนาดพื้นที่ดิน)

ยกตัวอย่าง 

นาย A ครอบครองที่ดินไม่มีสิ่งปลูกสร้างเพื่อใช้ในการเกษตรมูลค่า 70 ล้านบาท อัตราภาษีอยู่ที่ 0.01% 

70,000,000 X 0.01/100 = ภาษีที่ต้องจ่าย 7,000 บาท

2. สูตรคำนวณหาภาษีสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

(มูลค่าที่ดิน + มูลค่าสิ่งปลูกสร้าง) x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย

(โดยมูลค่าสิ่งปลูกสร้าง = (ราคาประเมินทุนทรัพย์โรงเรือนสิ่งปลูกสร้าง (ต่อ ตร.ม.) x ขนาดพื้นที่สิ่งปลูกสร้าง

ยกตัวอย่าง

นาย B ครอบครองที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยมูลค่า 50 ล้านบาท และมีมูลค่าสิ่งปลูกสร้างอีก 10 ล้านบาท อัตราภาษีอยู่ที่ 0.03%

(50,000,000 + 10,000,000) X 0.03/100 = ภาษีที่ต้องจ่าย 18,000 บาท

3. สูตรคำนวณหาภาษีสำหรับห้องชุด

มูลค่าห้องชุด x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย

โดยมูลค่าห้องชุด = ราคาประเมินทุนทรัพย์ห้องชุด (ต่อ ตร.ม.) x ขนาดพื้นที่ห้องชุด (ตร.ม.)

ยกตัวอย่าง

นาย C ครอบครองคอนโดมิเนียมมูลค่า 10 ล้านบาท ตามกฎหมายที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย ในเงื่อนไขบ้านหลังหลัก มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านแต่ไม่ใช้เจ้าของที่ดิน อัตราภาษีที่จะต้องเสียอยู่ที่ 0.02%

10,000,000 X 0.02/100 = ภาษีที่ต้องจ่าย 2,000 บาท

วัตถุประสงค์ในการเก็บภาษีที่ดินใหม่

ภาษีที่ดินใหม่มีวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บเพื่อแก้ไขปัญหาในด้านการใช้ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ดังนี้

  1. แก้ปัญหาเรื่องภาษีบำรุงท้องที่ และภาษีโรงเรือนและที่ดิน 
  2. ลดความเหลื่อมล้ำของความรวยและความจน
  3. แก้ปัญหาที่ดินรกร้าง ให้ทำมาใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น
  4. เพิ่มรายได้ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
  5. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมให้ประชาชนตรวจสอบการทำงานของรัฐว่ามีการเก็บภาษีอย่างเป็นธรรมในท้องถิ่น
รูปภายในบทความภาษีที่ดินใหม่

ใครจำเป็นต้องจ่ายภาษีที่ดินใหม่

บุคคลที่ต้องเสียภาษีที่ดินใหม่ จะต้องเป็นเจ้าของในที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยคำว่าเจ้าของในที่นี้คือการเป็นเจ้าของในกรรมสิทธิ์หรือเจ้าของในโฉนดในที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หรือถ้ามีเจ้าของร่วมกันหลายคน แค่คนใดคนหนึ่งชำระภาษีครบถ้วนก็ถือว่าเรียบร้อยแล้ว ซึ่งรูปแบบที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จะต้องเสียภาษีที่ดินใหม่นี้จะแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท ได้แก่

ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม

เงื่อนไขสำหรับผู้เสียภาษีที่ดินใหม่ กรณีถือครองที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม เช่น ทำไร่ ทำนา เลี้ยงสัตว์ เลี้ยงสัตว์น้ำ และกิจการอื่นๆ สามารถแบ่งได้ 2 กรณี คือ 1. เจ้าของที่ดินเป็นบุคคลธรรมดา และ 2. เจ้าของที่ดินเป็นนิติบุคคล ดังนี้

  1. เจ้าของที่ดินเป็นบุคคลธรรมดา
มูลค่าอสังหาฯ (ล้านบาท) อัตราภาษีที่เรียกเก็บ (%) อัตราภาษีที่เรียกเก็บ
(ตามมูลค่าอสังหาฯ)
ที่ดินมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี ได้รับการยกเว้นภาษี
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 50 – 125 ล้านบาท 0.01% ล้านละ 200 บาท
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 125 – 150 ล้านบาท 0.03% ล้านละ 300 บาท
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 150 – 550 ล้านบาท 0.05% ล้านละ 500 บาท
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 550 – 1,050 ล้านบาท 0.07% ล้านละ 700 บาท
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 1,050 ล้านบาทขึ้นไป

0.1%

ล้านละ 1,000 บาท
  1. เจ้าของที่ดินเป็นนิติบุคคล
มูลค่าอสังหาฯ (ล้านบาท) อัตราภาษีที่เรียกเก็บ (%) อัตราภาษีที่เรียกเก็บ (ตามมูลค่าอสังหาฯ)
ที่ดินมูลค่าไม่เกิน 75 ล้านบาท 0.01% ล้านละ 200 บาท
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 75 – 100 ล้านบาท 0.03% ล้านละ 300 บาท
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 100 – 500 ล้านบาท 0.05% ล้านละ 500 บาท
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 500 – 1,000 ล้านบาท 0.07% ล้านละ 700 บาท
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านบาทขึ้นไป 0.1% ล้านละ 1,000 บาท

ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่อยู่อาศั

เงื่อนไขสำหรับผู้เสียภาษีที่ดินใหม่ ในกรณีถือครองที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่อยู่อาศัย สามารถแบ่งได้ 3 กรณี ดังนี้ 

1. บ้านหลังหลัก มีชื่อในทะเบียนบ้านและเป็นเจ้าของที่ดิน

มูลค่าอสังหาฯ (ล้านบาท) อัตราภาษีที่เรียกเก็บ (%) อัตราภาษีที่เรียกเก็บ
(ตามมูลค่าอสังหาฯ)
ที่ดินมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี ได้รับการยกเว้นภาษี
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 50 – 75  ล้านบาท 0.03% ล้านละ 300 บาท
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 75 – 100 ล้านบาท 0.05% ล้านละ 500 บาท
ที่ดินมูลค่ามากกว่า100 ล้านบาทขึ้นไป 0.1% ล้านละ 1,000 บาท

2. บ้านหลังหลัก มีชื่อในทะเบียนบ้าน แต่ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน

มูลค่าอสังหาฯ (ล้านบาท) อัตราภาษีที่เรียกเก็บ (%) อัตราภาษีที่เรียกเก็บ
(ตามมูลค่าอสังหาฯ)
ที่ดินมูลค่าไม่เกิน 10 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี ได้รับการยกเว้นภาษี
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 10 – 50 ล้านบาท 0.02% ล้านละ 200 บาท
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 50 – 75 ล้านบาท 0.03% ล้านละ 300 บาท
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 75 – 100 ล้านบาท 0.05% ล้านละ 500 บาท
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาทขึ้นไป 0.1% ล้านละ 1,000 บาท
  1. บ้านหลังที่ 2 เป็นต้นไป หรือบ้านที่ไม่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
มูลค่าอสังหาฯ (ล้านบาท) อัตราภาษีที่เรียกเก็บ (%) อัตราภาษีที่เรียกเก็บ
(ตามมูลค่าอสังหาฯ)
ที่ดินมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท 0.3% ล้านละ 3,000 บาท
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 50 – 200 ล้านบาท 0.4% ล้านละ 4,000 บาท
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 200 – 1,000 ล้านบาท 0.5% ล้านละ 5,000 บาท
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 1,000 – 5,000 ล้านบาท 0.6% ล้านละ 6,000 บาท
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 5,000 ล้านบาทขึ้นไป 0.7% ล้านละ 7,000 บาท

ที่ดินเพื่อพาณิชยกรรม

เงื่อนไขสำหรับผู้เสียภาษีที่ดินใหม่ กรณีถือครองที่ดินเพื่อการพาณิชย์ หรือการนำที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมาใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ นอกเหนือจากการทำเกษตร และปลูกสร้างเป็นที่อยู่อาศัย เช่น ร้านอาหาร สำนักงาน โรงงาน โรงแรม เป็นต้น โดยมีอัตราภาษีที่ดินที่ต้องจ่าย ดังนี้

มูลค่าอสังหาฯ (ล้านบาท) อัตราภาษีที่เรียกเก็บ (%) อัตราภาษีที่เรียกเก็บ
(ตามมูลค่าอสังหาฯ)
ที่ดินมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท 0.3% ล้านละ 3,000 บาท
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 50 – 200 ล้านบาท 0.4% ล้านละ 4,000 บาท
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 200 – 1,000 ล้านบาท 0.5% ล้านละ 5,000 บาท
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 1,000 – 5,000 ล้านบาท 0.6% ล้านละ 6,000 บาท
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 5,000 ล้านบาทขึ้นไป 0.7% ล้านละ 7,000 บาท

 ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างรกร้างว่างเปล่า

กรณีปล่อยที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างรกร้างว่างเปล่า จำเป็นต้องเสียภาษีที่ดินใหม่ ในอัตราภาษี ดังนี้

มูลค่าอสังหาฯ (ล้านบาท) อัตราภาษีที่เรียกเก็บ (%) อัตราภาษีที่เรียกเก็บ
(ตามมูลค่าอสังหาฯ)
ที่ดินมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท 0.3% ล้านละ 3,000 บาท
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 50 – 200 ล้านบาท 0.4% ล้านละ 4,000 บาท
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 200 – 1,000 ล้านบาท 0.5% ล้านละ 5,000 บาท
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 1,000 – 5,000 ล้านบาท 0.6% ล้านละ 6,000 บาท
ที่ดินมูลค่ามากกว่า 5,000 ล้านบาทขึ้นไป 0.7% ล้านละ 7,000 บาท

ทั้งนี้ ในกรณีทิ้งที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างรกร้าง หรือว่างเปล่าไว้ ไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพเป็นระยะเวลา 3 ปีติดต่อกัน ปีที่ 4 จำเป็นจะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นอีก 0.3% และจะเรียกเก็บเพิ่มอีก 0.3% ทุกๆ 3 ปี แต่อัตราภาษีรวมไม่เกิน 3%

วิธีการลดหย่อนภาษีที่ดินใหม่

หลายคนเห็นเปอร์เซ็นของอัตราภาษีที่ดินใหม่แล้ว อาจทำให้รู้สึกกังวลว่า จะต้องเสียภาษีเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ยิ่งถ้าเป็นนักลงทุนสายซื้ออสังหาฯ หรือที่ดินที่ซื้อหลักทรัพย์เหล่านี้เก็บไว้เป็นจำนวนมากด้วยแล้ว อาจจะต้องศึกษาและหาวิธีการลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมไว้ ซึ่งบทความนี้ได้หยิบยก 4 เทคนิคที่ช่วยทำให้ลดหย่อนภาษีที่ดินใหม่ได้ ดังต่อไปนี้

1. ทำที่ดินว่างเปล่าที่มีให้กลายเป็นที่ดินเกษตรกรรม 

การมีที่ดินเปล่าที่ซื้อเก็บไว้โดยไม่ได้นำมาทำประโยชน์จะต้องเสียภาษีที่ดินใหม่ในจำนวนที่มากกว่าที่ดินที่นำมาทำเกษตรกรรม ดังนั้นการปล่อยที่ดินให้รกร้างจึงจะเป็นการเสียประโยชน์ในด้านการสร้างรายได้และการได้รับการลดหย่อนภาษี 

ดังนั้น จึงควรพลิกผืนดินว่างเปล่านั้นด้วยการเริ่มต้นทำเป็นที่ดินการเกษตรกรรมแทนการปล่อยไว้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าที่ดินผืนนั้นเหมาะที่จะนำมาทำการเกษตรหรือไม่ ถ้าเป็นที่ดินอยู่ในเขตเมืองหรือเขตชุมชนอาจจะต้องหาวิธีการใช้ที่ดินเปล่าด้วยวิธีการอื่นๆ เพื่อสร้างประโยชน์ให้ได้มากยิ่งขึ้นและเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมต่างๆ ด้วย

2. แบ่งแปลงให้เล็กลง

เพราะภาษีที่ดินใหม่จะคิดภาษีเป็นแบบขั้นบันได ทำให้ยิ่งมีพื้นที่ดินเยอะก็ยิ่งเสียภาษีมาก ดังนั้นการแปลงที่ดินออกเป็นแปลงเล็กๆ ก็จะช่วยทำให้ราคาประเมินที่ดินถูกลง ส่งผลให้เสียภาษีน้อยลงด้วย

3. โอนบ้านหลังอื่นๆ ให้เป็นชื่อของลูกหลาน

วิธีนี้จะช่วยลดหย่อนภาษีได้เนื่องจากการโอนบ้านเป็นชื่อลูกหลานจะเป็นฐานภาษี ซึ่งเป็นส่วนที่จะได้รับการยกเว้น เนื่องจากลูกหลานจะได้รับสิทธิบ้านหลังแรก ซึ่งได้รับการยกเว้นภาษี 50 ล้านบาทไปโดยปริยาย

4. การสร้างบ้าน 

หากมีที่ดินแปลงใหญ่จะทำให้ต้องเสียภาษีในฐานภาษีที่สูง ดังนั้นการสร้างบ้านไว้บนที่ดินเพิ่มเติมก็จะทำให้เสียภาษีที่ดินใหม่น้อยลง เนื่องจากที่ดินนั้นกลายเป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่ออยู่อาศัยในทันที

ภาษีที่ดินใหม่ต้องชำระเมื่อไหร่

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับความรู้เรื่องภาษีที่ดินใหม่กันได้แล้ว ในปี 2567 กระทรวงมหาดไทยได้ขยายระยะเวลาในการจัดเก็บภาษีออกไปอีก 2 เดือน จึงสรุปกำหนดระยะเวลาคร่าวๆ เพื่อความเข้าใจง่ายได้ ดังนี้

  • ภายในเดือนมกราคม 2567 องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นส่งจดหมายแจ้งรายการที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จากเดิมเดือนพฤศจิกายน 2566
  • ก่อนวันที่ 1 เมษายน 2567 องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นประกาศราคาประเมิน จากเดิมก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567
  • ภายในเดือนเมษายน 2567 องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งการประเมินภาษีให้ผู้เสียภาษีรับทราบ จากเดิมภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2567
  • ภายในเดือนมิถุนายน 2567 ผู้เสียภาษีดำเนินการชำระภาษีตามแบบแจ้งประเมิน จากเดิมจะต้องชำระภายในเดือนเมษายน 2567

ทั้งนี้ หากอัตราภาษีที่ต้องเสียเกิน 3,000 บาท ผู้จ่ายภาษีสามารถขอผ่อนจ่ายได้ 3 งวด โดยจะเริ่มชำระงวดที่ 1 ในเดือนมิถุนายน งวดที่ 2 ชำระภายในเดือนกรกฎาคมและสิ้นสุดชำระงวดที่ 3 ภายในเดือนสิงหาคม ปี 2567

ในกรณีที่มีการค้างชำระภาษีที่ดิน องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นจะออกหนังสือแจ้งเตือนผู้เสียภาษีที่มียอดค้างภายในเดือนกรกฎาคม 2567 จากเดิมภายในเดือนพฤษภาคม 2567

และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นจะแจ้งรายการภาษีค้างชำระให้แก่สำนักงานที่ดินภายในเดือนสิงหาคม 2567 จากเดิมภายในเดือนมิถุนายน 2567

สรุป 

หลักการวางแผนภาษีที่ดินใหม่ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด ถ้าหากรู้และเข้าใจวิธีการเสียภาษีที่ถูกต้อง รวมไปถึงขั้นตอนการลดหย่อนภาษีในรูปแบบต่างๆ ก็จะช่วยทำให้ผู้มีที่ดินในครอบครองเตรียมตัวนำที่ดินในครอบครองมาสร้างประโยชน์ได้มากยิ่งขึ้น

แต่การลงทุนพลิกพื้นที่ว่างเปล่าให้เป็นพื้นที่ทำเงินได้นั้นต้องอาศัยการลงทุนและการขอสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการ ดังนั้น นอกจากการศึกษาข้อกำหนดและวิธีการลดหย่อนภาษีแล้วก็อย่าลืมเตรียมตัวศึกษาหนทางการลงทุนบนที่ดินทำกินทั้งด้านการลงทุนและการจัดการเอาไว้ด้วยเช่นเดียวกัน

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
-

บริการของเรา

สนใจผลิตภัณฑ์ธนาคาร

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณ
อาจสนใจ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ค้นหาตาม Keyword เช่น การเงิน, การลงทุน, สินเชื่อ, บ้าน