ค่าธรรมเนียมการโอนบ้าน 2567 คำนวณอย่างไร? [มีอะไรที่ควรรู้บ้าง?]

/
/
ค่าธรรมเนียมการโอนบ้าน 2567 คำนวณอย่างไร? [มีอะไรที่ควรรู้บ้าง?]

คนที่กำลังจะซื้อบ้านในปี 2567 มาทำความรู้จักกับค่าธรรมเนียมโอนบ้าน พร้อมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องรู้ เพื่อให้สามารถเตรียมตัวและเตรียมค่าใช้จ่าย

คนที่กำลังจะซื้อบ้านในปี 2567 มาทำความรู้จักกับค่าธรรมเนียมโอนบ้าน พร้อมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ต้องรู้ เพื่อให้สามารถเตรียมตัวและเตรียมค่าใช้จ่าย

ในขั้นตอนของการซื้อ-ขายที่อยู่อาศัย จะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่าง ๆ และหนึ่งในค่าธรรมเนียมที่ต้องรู้นั่นคือ ค่าธรรมเนียมในการโอนบ้าน ที่จะมีวิธีคิดแตกต่างกันออกไปตามราคาซื้อ-ขายบ้าน และขึ้นอยู่กับมาตรการที่รัฐกำหนดในแต่ละปีด้วย

คนที่กำลังจะซื้อหรือขายบ้านในปี 2567 มาทำความรู้จักกับค่าธรรมเนียมโอนบ้าน พร้อมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ต้องรู้ เพื่อให้สามารถเตรียมตัวและเตรียมค่าใช้จ่ายให้พร้อม

คำนวณค่าธรรมเนียมโอนบ้าน [ก่อนซื้อบ้านต้องรู้]

คำนวณค่าธรรมเนียมโอนบ้าน [ก่อนซื้อบ้านต้องรู้]

ในวันทำการโอนบ้านที่สำนักงานที่ดิน จะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นนั่นคือ ค่าธรรมเนียมโอนบ้าน หรือค่าโอนกรรมสิทธิ์ ที่จะมีอัตราเรียกเก็บตามราคาประเมินที่ดินที่กำหนดเอาไว้

โดยในปี 2567 มีกำหนดค่าธรรมเนียมการโอนอยู่ที่ 1% ของราคาประเมิน (จากปกติ 2%) โดยอัตรานี้เป็นมาตรการปรับลดเพื่อกระตุ้นให้มีการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ และสนับสนุนให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง

จะได้ปรับลดค่าธรรมเนียมการโอน มีข้อกำหนดอะไรบ้าง?

  • เป็นบุคคลธรรมดา สัญชาติไทย
  • ซื้อขายที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นมือหนึ่งหรือมือสอง ได้ทั้งบ้านเดี่ยว ห้องชุด บ้านแฝด บ้านแถว อาคารพาณิชย์
  • ราคาซื้อขาย ราคาประเมิน และวงเงินจำนองต้องไม่เกิน 3 ล้านบาท
  • การได้ลดอัตราค่าธรรมเนียมดังกล่าว จะต้องทำการโอนและจดจำนองในคราวเดียวกัน

ค่าโอนบ้านคืออะไร

ค่าโอนบ้าน คือค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในกระบวนการโอนกรรมสิทธิ์บ้านจากผู้ขายไปยังผู้ซื้อ ซึ่งจะเกิดขึ้น ณ สำนักงานที่ดินในวันที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ ค่าโอนบ้านไม่ได้หมายถึงเพียงแค่ค่าธรรมเนียมการโอนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการโอนกรรมสิทธิ์ด้วย

วิธีการคำนวณค่าธรรมเนียมโอนบ้าน

วิธีการคำนวณค่าธรรมเนียมโอนบ้าน

จะคำนวณโดยคิด 1% ของราคาประเมิน 

เช่น ซื้อบ้านราคา 3 ล้านบาท แต่มีราคาประเมิน 2 ล้านบาท มีค่าธรรมเนียมการโอน 1% จะต้องเตรียมค่าธรรมเนียมในการโอนจำนวน 20,000 บาท 

ซึ่งโดยปกติแล้วจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการโอน 2% ของราคาประเมิน จำนวน 40,000 บาท

จากการคำนวณ จะเห็นได้ว่ามาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนนี้ ทำให้เราเสียค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ลดลงได้ครึ่งหนึ่ง ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น

ค่าธรรมเนียมโอนประเภทจดทะเบียนให้ ในกรณีที่เป็นเครือญาติ

สำหรับการโอนบ้านหรืออสังหาต่างๆ ถ้าหากเป็นการโอนให้กันในเครือญาติ จะมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างจากปกติ และมีการคิดที่ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ด้วย โดยแบ่งออกเป็น

โอนให้บุคคลในครอบครัว จะมีการคิดค่าธรรมเนียมการโอน 0.5% ของราคาประเมิน ได้แก่

  • โอนให้บุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย บิดา-มารดาจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
    *หมายเหตุ ชำระอากรแสตมป์ โดยไม่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
  • โอนให้บุตรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย บิดา-มารดาไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
    แยกเป็น 2 กรณีดังนี้
    1. มารดาโอนให้บุตร
    2. บิดาโอนให้บุตร ต้องจดทะเบียนรับรองบุตรพร้อมแสดงเอกสารประกอบการโอน
    *หมายเหตุ ชำระอากรแสตมป์ โดยไม่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
  • โอนให้คู่สมรสตามกฎหมาย โดยเป็นการโอนระหว่างสามี-ภรรยา ที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย
    *หมายเหตุ ชำระอากรแสตมป์ และเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

การโอนให้ญาติพี่น้องนอกเหนือจากที่กล่าวข้างต้น คิดค่าธรรมเนียมการโอน 2% ของราคาประเมิน พร้อมชำระอากรแสตมป์ และเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ขั้นตอนการโอนบ้านมีอะไรบ้าง

การโอนบ้านเป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการซื้อขายบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของการซื้อบ้านมือสอง ซึ่งขั้นตอนการโอนบ้านมีดังนี้

  • นัดหมายวันโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกันเรื่องวันเวลาที่จะไปทำการโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดิน
  • เตรียมเอกสารสำคัญ ทั้งสองฝ่ายต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน โฉนดที่ดิน สัญญาจะซื้อจะขาย และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • แจ้งความประสงค์ที่สำนักงานที่ดิน เมื่อไปถึงสำนักงานที่ดิน ให้แจ้งความประสงค์ในการโอนกรรมสิทธิ์กับเจ้าหน้าที่และรับบัตรคิว
  • ตรวจสอบเอกสาร เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบความถูกต้องและครบถ้วนของเอกสารทั้งหมด
  • ประเมินราคาทรัพย์สินและคำนวณค่าธรรมเนียม เจ้าหน้าที่จะประเมินราคาทรัพย์สินและคำนวณค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ต้องชำระ
  • ชำระค่าธรรมเนียมและภาษี ผู้ซื้อและผู้ขายชำระค่าธรรมเนียมและภาษีตามที่คำนวณไว้
  • จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์และบันทึกข้อมูลในโฉนดที่ดิน
  • รับเอกสารสำคัญ หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการ ผู้ซื้อจะได้รับโฉนดที่ดินฉบับใหม่ที่มีชื่อตนเองเป็นเจ้าของ

ขั้นตอนเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการซื้อบ้านมือสอง ซึ่งผู้ซื้อควรทำความเข้าใจอย่างละเอียดเพื่อให้การซื้อขายเป็นไปอย่างราบรื่น

เอกสารที่ต้องใช้ในการโอนบ้าน ที่ดิน หรือที่อยู่อาศัยอื่นๆ

สำหรับบุคลธรรมดา ให้เตรียมเอกสารสำหรับการโอนบ้าน ดังนี้

  • บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนา และเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
  • ทะเบียนบ้านตัวจริง พร้อมสำเนา และเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
  • กรณีมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทน ต้องใช้หนังสือมอบอำนาจที่ดิน (ทด.21) หรือ หนังสือมอบอำนาจห้องชุด (อช.21) แล้วแต่กรณี พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ของผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจ
  • หนังสือสำคัญการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลตัวจริง
  • เอกสารอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เช่น หนังสือรับรองปลอดภาระหนี้จากนิติบุคคลอาคารชุด ทะเบียนสมรส ทะเบียนหย่า คำสั่งศาล ฯลฯ (ถ้ามี) ตัวจริง

ค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่ต้องรู้

นอกจากค่าธรรมเนียมการโอนบ้านที่ต้องจ่ายแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องเตรียมจ่ายในวันเดียวกันด้วย ซึ่งได้แก่

ค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์

ค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ หรือ ค่าจดจำนอง จะเรียกเก็บเมื่อ ผู้ซื้อมีการซื้อบ้านหรืออสังหาอื่นๆ ด้วยการขอสินเชื่อจากธนาคาร (สำหรับผู้ที่ซื้อด้วยเงินสดจะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมนี้) โดยปกติจะคิดอัตรา 1% ของมูลค่าจำนอง แต่ในปี 2567 มีการปรับลดเป็น 0.01% ตามเงื่อนไข

โดยอัตราที่ปรับลดนี้ จะมีเงื่อนไข คือ

  • เป็นบุคคลธรรมดา สัญชาติไทย
  • ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นมือหนึ่งหรือมือสอง ได้ทั้งบ้านเดี่ยว ห้องชุด บ้านแฝด บ้านแถว อาคารพาณิชย์
  • วงเงินจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาท
  • ต้องทำการโอนและจดจำนองในคราวเดียวกัน

เช่น ได้รับอนุมัติสินเชื่อบ้านวงเงิน 2 ล้านบาท เสียค่าจดจำนอง 200 บาท (คิดอัตราปรับลด 0.01% ของวงเงินอนุมัติสินเชื่อ) ซึ่งโดยปกติแล้วจะต้องเสียค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินอนุมัติสินเชื่อ จำนวน 20,000 บาท

ค่าอากรแสตมป์

ร้อยละ 0.5% ของราคาซื้อ-ขายหรือราคาประเมิน (คิดจากราคาที่สูงกว่า) ในกรณีที่ผู้ขายต้องชำระค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ ไม่ต้องชำระค่าอากรแสตมป์อีก

ตัวอย่างการคำนวณ ค่าอากรแสตมป์ 

บ้านมีราคาประเมิน 2.5 ล้านบาท แต่ราคาขาย 3.5 ล้านบาท จะยึดจากราคาขาย เพราะราคาสูงกว่า ค่าอากรแสตมป์ ที่ต้องจ่ายจะมียอด 3,500,000 x 0.5% = 17,500 บาท

ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ 

จะเรียกเก็บเมื่อผู้ขายเป็นบุคคลธรรมดาที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านต่อเนื่องไม่เกิน 1 ปี หรือถือครองอสังหาริมทรัพย์ไม่เกิน 5 ปี เสียในอัตรา 3.3% ของราคาซื้อ-ขายหรือราคาประเมิน (คิดจากราคาที่สูงกว่า)

ตัวอย่างการคำนวณ ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ

บ้านมีราคาประเมิน 2.5 ล้านบาท แต่ขายได้ 3.5 ล้านบาท จะยึดจากราคาขาย เพราะราคาสูงกว่า ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ ที่ต้องจ่ายจะมียอด 3,500,000 x 3.3% = 115,500 บาท

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

เรียกเก็บตามหลักเกณฑ์ของกรมที่ดิน ขึ้นอยู่กับการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์นั้นและจำนวนปีที่ถือครอง

ใครต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าโอนบ้าน

การรับผิดชอบค่าโอนบ้านเป็นประเด็นที่มักมีการตกลงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยทั่วไปแล้ว การแบ่งความรับผิดชอบมักเป็นไปตามแนวทางดังนี้

  • ค่าธรรมเนียมการโอน มักแบ่งกันคนละครึ่งระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย แต่บางครั้งอาจมีการตกลงให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรับผิดชอบทั้งหมด ในกรณีของบ้านมือสอง บางครั้งผู้ขายอาจเสนอรับผิดชอบค่าธรรมเนียมนี้ทั้งหมดเพื่อจูงใจผู้ซื้อ
  • ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ผู้ขายเป็นผู้รับผิดชอบ เนื่องจากเป็นภาษีที่เกิดจากรายได้จากการขายบ้าน อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อมีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายและนำส่งให้กรมสรรพากร
  • ภาษีธุรกิจเฉพาะ ผู้ขายเป็นผู้รับผิดชอบ หากเข้าเงื่อนไขที่ต้องเสียภาษีนี้ เช่น ขายบ้านภายใน 5 ปีนับจากวันที่ได้มา หรือเป็นการขายเพื่อการค้าหรือหากำไร
  • อากรแสตมป์ โดยปกติผู้ขายเป็นผู้รับผิดชอบ แต่อาจมีการตกลงกันเป็นอย่างอื่น ในกรณีที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ จะไม่ต้องเสียอากรแสตมป์
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้รับผิดชอบ เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อบ้าน ค่าใช้จ่ายนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะกรณีที่ผู้ซื้อใช้สินเชื่อในการซื้อบ้าน

อย่างไรก็ตาม การแบ่งความรับผิดชอบนี้สามารถเจรจาต่อรองกันได้ และอาจแตกต่างกันไปในแต่ละกรณี ผู้ซื้อและผู้ขายควรตกลงกันให้ชัดเจนก่อนทำการซื้อขาย และระบุไว้ในสัญญาจะซื้อจะขายเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง

โครงการสินเชื่อบ้านจาก ธอส. ช่วยให้คนไทยมีบ้านได้ดังใจ

หากคุณอยากมีบ้านเป็นของตัวเองในปี 2567 นี้ และต้องการขอสินเชื่อบ้านกับธนาคาร ที่ ธอส. มีโครงการสินเชื่อบ้าน ที่เหมาะสมกับคนไทยทุกกลุ่ม ช่วยให้การมีบ้านเป็นเรื่องง่าย และสามารถเริ่มต้นการสร้างรากฐานชีวิตที่มั่นคงได้เร็วยิ่งขึ้น

หากคุณสนใจโครงการสินเชื่อบ้าน กับ ธอส. สามารถทำการกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่

เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อบ้านที่คอยให้คำแนะนำ พร้อมเปรียบเทียบและหยิบยื่นข้อเสนอที่ดีที่สุดให้กับคุณ ติดต่อเราได้ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ

หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ www.ghbank.co.th 

ติดต่อ G H BANK Call Center : 02 645 9000

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
-

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณ
อาจสนใจ

เจาะลึก 9 สาเหตุที่ทำให้กู้บ้านไม่ผ่าน พร้อมวิธีแก้และเทคนิคการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนยื่นกู้ เพื่อให้คุณมีบ้านในฝันได้ง่ายขึ้น
รวมข้อมูลสินเชื่อต่อเติมบ้าน ธอส. 2567 ดอกเบี้ยเริ่ม 2.60% ผ่อนนาน 40 ปี พร้อมเงื่อนไขและคุณสมบัติผู้กู้ที่คุณต้องรู้
การออมเงินที่เหมาะสมสำหรับวัยเกษียณ เปรียบเทียบข้อดีระหว่างหวยเกษียณ เงินฝากประจำ และสลากออมทรัพย์ พร้อมคำแนะนำที่ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ค้นหาตาม Keyword เช่น การเงิน, การลงทุน, สินเชื่อ, บ้าน