วิธีรีไฟแนนซ์บ้านให้คุ้มค่า [ทำตามนี้ลดค่าใช้จ่ายไปอีกเยอะ]

/
/
วิธีรีไฟแนนซ์บ้านให้คุ้มค่า [ทำตามนี้ลดค่าใช้จ่ายไปอีกเยอะ]

สำหรับผู้ที่กำลังผ่อนบ้าน และกำลังมองหาวิธีการรีไฟแนนซ์บ้านให้คุ้มค่า มาดูกันว่ามีเทคนิคในการยื่นขอรีไฟแนนซ์ที่ช่วยให้ได้อัตราดอกเบี้ยถูกลง

วิธีรีไฟแนนซ์บ้าน มีเทคนิคหลากหลายที่ช่วยให้การขอสินเชื่อบ้านครั้งใหม่ กับธนาคารแห่งใหม่ สามารถลดวงเงินสินเชื่อได้เยอะ ประหยัดค่าใช้จ่ายรายเดือน และในบางกรณีก็ยังสามารถกู้ได้เกินวงเงินที่นำไปใช้จ่ายอเนกประสงค์ได้อีกด้วย

สำหรับผู้ที่กำลังผ่อนบ้าน และกำลังมองหาวิธีการรีไฟแนนซ์บ้านให้คุ้มค่า มาดูกันว่ามีเทคนิคในการยื่นขอรีไฟแนนซ์กับธนาคารแห่งใหม่อย่างไรบ้าง ที่ช่วยให้คุณประหยัดเงิน ได้อัตราดอกเบี้ยถูกลงและคุ้มค่ามากที่สุด

การรีไฟแนนซ์บ้านคุ้มค่าอย่างไรกับผู้ขอสินเชื่อ

การรีไฟแนนซ์บ้านคุ้มค่าอย่างไรกับผู้ขอสินเชื่อ

วัตถุประสงค์หลักของการรีไฟแนนซ์บ้าน ก็เพื่อทำให้อัตราดอกเบี้ยบ้านหลังจากการผ่อนในปีที่ 3 ลดลงได้ เนื่องจากหลังจากผ่านปีที่ 3 ไปแล้ว อัตราดอกเบี้ยบ้านของธนาคารส่วนใหญ่จะลอยตัวสูงขึ้น ทำให้ดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายในทุกเดือนต่อจากนั้นแพงขึ้น 

แม้ว่าคุณจะชำระค่าบ้านทุกเดือนเท่าเดิม แต่ส่วนเงินต้นจะลดช้าลง และไปชำระในส่วนดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น จึงทำให้การผ่อนชำระค่าบ้านต้องจ่ายแพงขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี การรีไฟแนนซ์บ้านไปยังธนาคารแห่งใหม่ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คนขอสินเชื่อบ้านเลือก เพื่อให้การผ่อนชำระค่าบ้านประหยัดมากขึ้นได้

ความคุ้มค่าจากการรีไฟแนนซ์ไปยังธนาคารแห่งใหม่

  • อัตราดอกเบี้ยใหม่ที่ถูกลงกว่าเดิม ตามวัตถุประสงค์หลักของการรีไฟแนนซ์ไปยังธนาคารแห่งใหม่ จะทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลงได้เยอะ และเมื่อนำไปคำนวณกับวงเงินสินเชื่อใหม่แล้ว ก็ยิ่งช่วยให้ค่าใช้จ่ายต่อเดือนลดลงได้มาก
  • การยืดระยะเวลาผ่อนออกไป สำหรับระยะเวลาผ่อนที่เพิ่มขึ้น ช่วยให้จำนวนเงินที่ต้องชำระค่าบ้านต่อเดือนลดลงได้ ทำให้คุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้มากขึ้น
  • เปลี่ยนการกู้ร่วมเป็นกู้คนเดียว สำหรับผู้กู้ที่ต้องการถอดถอนผู้กู้ร่วม ในการขอรีไฟแนนซ์ก็สามารถยื่นกู้เพียงคนได้ แต่ก็ต้องพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ เครดิตทางการเงิน ของตนเองให้ดีก่อน

7 วิธีรีไฟแนนซ์บ้านให้คุ้มค่า ประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะ

1. เลือกรีไฟแนนซ์บ้านเมื่อครบเงื่อนไขสัญญาเงินกู้เดิมแล้ว

วิธีรีไฟแนนซ์บ้านให้คุ้มค่า สิ่งแรกที่ต้องตรวจสอบก่อนเลยนั่นคือ สัญญาเงินกู้ซื้อบ้านกับธนาคารเดิม โดยปกติแล้วในสัญญาจะกำหนดเงื่อนไข ที่ผู้กู้จะต้องทำการผ่อนชำระให้ครบกำหนด 3-5 ปีก่อน จึงจะสามารถยื่นขอรีไฟแนนซ์ได้ 

ข้อดีของการยื่นขอรีไฟแนนซ์หลังจากครบกำหนดตามเงื่อนไข จะช่วยให้ผู้กู้ไม่ต้องเสียค่าปรับจากการขอไถ่ถอนหนี้ก่อนกำหนดให้กับธนาคารเดิม ที่อาจมีอัตราค่าปรับ 1-3% ของวงเงินกู้ และเมื่อนำมาคำนวณกับวงเงินกู้ที่มียอดสูงๆ แล้ว ก็อาจจะไม่คุ้มค่าต่อการดำเนินการได้

เช่น วงเงินขอสินเชื่อ 1,500,000 บาท เมื่อรีไฟแนนซ์ก่อนกำหนด ต้องเสียค่าปรับ 3% หรือ 45,000 บาท ซึ่งก็ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงในการดำเนินการ

แต่หากว่าคุณอยากรีไฟแนนซ์ก่อนกำหนด เพื่อให้ได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงมากๆ ในช่วงโปรโมชันของธนาคาร หรือต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายแบบเร่งด่วน ก่อนยื่นขอรีไฟแนนซ์ก็ต้องคำนวณยอดเงิน ค่าปรับ และโปรโมชันของธนาคารแห่งใหม่ให้ประหยัดและคุ้มค่ามากที่สุดก่อนตัดสินใจ

2. เลือกธนาคารที่ให้อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง

ในการเลือกรีไฟแนนซ์ของแต่ละธนาคาร จะให้อัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งการเลือกอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่คุ้มค่า ควรเลือกอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงกว่าเดิม หรือลดลงจากเดิมได้ 2% หรือมากกว่า เพื่อให้การชำระค่าบ้านในแต่ละเดือนประหยัดเงินได้มากขึ้น 

นอกจากนี้ ให้คำนวณอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่ปีแรก ไปจนถึงปีสุดท้ายของสัญญา ว่าเฉลี่ยออกมาแล้วที่ไหนผ่อนชำระถูกที่สุด ก็จะช่วยให้การรีไฟแนนซ์บ้านไปยังธนาคารแห่งนั้นคุ้มค่ามากที่สุด

3. เลือกโครงการสินเชื่อรีไฟแนนซ์ที่มีโปรโมชัน

การรีไฟแนนซ์บ้านจะมีค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ต้องชำระ ไม่ต่างจากการขอสินเชื่อบ้านครั้งแรกเลย ซึ่งได้แก่

  • ค่าประเมินหลักประกัน 2,000-3,000 บาท
  • ค่าธรรมเนียมการจดจำนอง 1% ของวงเงินประเมิน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มเติม

ซึ่งถ้าหากว่าคุณต้องการรีไฟแนนซ์ให้คุ้มค่ามากที่สุด ก็ต้องหาข้อมูลโปรโมชันและติดตามข่าวสารของแต่ละธนาคารก่อนตัดสินใจ เพราะโปรโมชันในแต่ละช่วงเวลาที่ออกมา จะมอบความคุ้มค่าที่ช่วยให้ค่าใช้จ่ายในระหว่างการดำเนินการถูกลงได้เยอะ และยังช่วยลดภาระทางการเงินของคุณได้มากยิ่งขึ้นด้วย

4. เลือกยืดเวลาผ่อนบ้านเหมาะสม

ระยะเวลาในการผ่อนบ้านสำหรับการขอรีไฟแนนซ์ คุณจะสามารถเลือกได้เองว่า ต้องการผ่อนให้หมดเร็วๆ หรือจะผ่อนสบายๆ แบบประหยัดไปก่อน โดยทั้งสองแบบก็มีจุดเด่นที่มอบความคุ้มค่าได้แตกต่างกัน คือ

  1. เลือกลดระยะเวลาผ่อน เหมาะกับผู้กู้ที่มีความพร้อมในการผ่อนบ้านเพิ่มขึ้น หรือมียอดกู้ที่ไม่สูงมาก ด้วยการเพิ่มยอดชำระค่าบ้านในแต่ละเดือนให้มากขึ้น เพื่อให้ระยะเวลาในการผ่อนลดลงได้มากขึ้น และการผ่อนบ้านก็จะสิ้นสุดได้เร็วขึ้น 
  2. เลือกยืดระยะเวลาผ่อน เหมาะกับผู้กู้ที่อยากประหยัดค่าใช้จ่ายต่อเดือนให้ลดลง โดยสามารถเลือกโครงการสินเชื่อรีไฟแนนซ์ที่ให้ระยะเวลาในการผ่อนนานขึ้น และชำระค่าบ้านรายเดือนตามยอดที่ธนาคารแจ้งเอาไว้ (อาจเลือกโปะในบางเดือนที่มีรายได้พิเศษเข้ามา) จะช่วยให้การผ่อนบ้านไม่สร้างภาระค่าใช้จ่ายมากเกินไป 

5. เลือกทำประกัน MRTA ไปด้วย

การรีไฟแนนซ์ไปยังธนาคารใหม่ ที่นอกจากความคุ้มค่าที่จะได้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงกว่าเดิมแล้ว หากมีการเลือกทำประกัน MRTA ร่วมไปด้วย ก็จะช่วยให้ผู้กู้ได้รับดอกเบี้ยบ้านในอัตราพิเศษด้วย

ประกัน MRTA หรือประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ เป็นประกันที่ช่วยคุ้มครองความเสี่ยงเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันกับผู้กู้ ที่ทำให้ไม่สามารถผ่อนบ้านต่อได้ ช่วยให้ทายาทของผู้กู้ไม่ต้องรับภาระหนัก โดยประกันสามารถคุ้มครองได้ถึง 100% ของวงเงินกู้ หรือเลือกคุ้มครองบางส่วนได้ตามความต้องการขอผู้กู้

เมื่อทำประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อไปแล้ว จะเป็นเหมือนการช่วยลดความเสี่ยงให้กับทั้งฝ่ายผู้กู้และฝ่ายธนาคาร จึงส่งผลให้ธนาคารสามารถให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษกับผู้กู้ได้ 

6. เริ่มดำเนินการรีไฟแนนซ์ในช่วงเวลาที่เหมาะสม

เพื่อให้การรีไฟแนนซ์บ้านมีความคุ้มค่า จะต้องเลือกช่วงเวลาในการดำเนินการยื่นขอรีไฟแนนซ์ให้ดี เพื่อให้การอนุมัติสินเชื่อรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่ พอดีกับช่วงเวลาที่อัตราดอกเบี้ยบ้านของธนาคารเดิมลอยตัวสูงขึ้น จะช่วยให้ประหยัดค่าผ่อนชำระค่าบ้านได้เร็วขึ้น

โดยคุณสามารถเริ่มดำเนินการยื่นขอสินเชื่อได้ ตั้งแต่ 30-45 วัน ก่อนที่จะครบกำหนดสัญญาเดิมของธนาคารเดิม เนื่องจากการรีไฟแนนซ์บ้านทางธนาคารจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบและอนุมัติสินเชื่อ 

7. เลือกขอวงเงินกู้เพิ่ม

สำหรับการขอรีไฟแนนซ์บ้าน ในบางกรณีผู้กู้จะสามารถขอสินเชื่อได้เกินวงเงินได้ เนื่องจากการประเมินบ้านหรือคอนโดจากธนาคารใหม่ อาจให้วงเงินได้เกินกว่ายอดหนี้เดิมที่ต้องปิดกับธนาคารเดิม 

เช่น ยอดหนี้ที่ต้องปิดกับธนาคารเดิมอยู่ที่ 2 ล้านบาท แต่ได้ราคาประเมินบ้านกับธนาคารที่ขอรีไฟแนนซ์ที่ 3 ล้านบาท ทำให้มีส่วนต่างของราคาประเมินและยอดหนี้คงเหลืออีก 1 ล้านบาท ที่คุณสามารถขอเป็นสินเชื่ออเนกประสงค์ได้

โดยสินเชื่ออเนกประสงค์ที่คุณได้มา สามารถนำไปใช้จ่ายหรือเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินได้หลากหลาย เช่น นำไปตกแต่ง/ต่อเติม/ซ่อมแซมบ้าน เป็นต้น

ทั้งนี้ การขอสินเชื่อเกินวงเงินจะต้องคำนึงถึงความจำเป็น และความคุ้มค่าในการนำไปใช้จ่ายให้ดี เนื่องจากการขอวงเงินกู้เพิ่มเกินวงเงิน จะทำให้การคิดอัตราดอกเบี้ยบ้านเพิ่มขึ้นด้วย

เลือกรีไฟแนนซ์บ้านกับ ธอส.

หากคุณกำลังมองหาสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ธอส. มีผลิตภัณฑ์สินเชื่อสำหรับการขอรีไฟแนนซ์บ้าน โดยเฉพาะ ที่ให้อัตราดอกเบี้ยถูกลงและเลือกยืดระยะเวลาผ่อนได้สูงถึง 40 ปี ช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าผ่อนชำระบ้านได้แบบสบายกระเป๋า และยังผ่อนบ้านให้หมดไวยิ่งขึ้น

หากสนใจขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจาก ธอส. สามารถทำการกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำด้านสินเชื่อ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่

เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ที่คอยให้คำแนะนำ พร้อมเปรียบเทียบและหยิบยื่นข้อเสนอด้านสินเชื่อที่ดีที่สุดให้กับคุณ ติดต่อเราได้ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ

G H BANK Call Center: 0-2645-9000

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
-

บริการของเรา

สนใจผลิตภัณฑ์ธนาคาร

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณ
อาจสนใจ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ค้นหาตาม Keyword เช่น การเงิน, การลงทุน, สินเชื่อ, บ้าน