การผ่อนบ้าน นับว่าเป็นภาระทางการเงินระยะยาวที่หนักหนาสาหัสสำหรับหลายคน โดยเฉพาะในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น หากคุณกำลังประสบปัญหาค่างวดบ้านที่สูงจนเกินไป การรีไฟแนนซ์บ้านอาจเป็นทางออกที่จะช่วยให้คุณลดภาระค่าใช้จ่ายได้ และคำถามที่ว่าการรีไฟแนนซ์บ้านก่อนครบสัญญา 3 ปี สามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งคำตอบก็คือสามารถทำได้ แต่จะมีเรื่องของค่าปรับในการรีไฟแนนซ์บ้านก่อนกำหนดเข้ามา ดังนั้น ควรศึกษาและคำนวณค่าปรับให้ดีว่าคุ้มค่ากับการรีไฟแนนซ์บ้านก่อน 3 ปี หรือไม่
รีไฟแนนซ์บ้านก่อน 3 ปี ค่าปรับ ค่าใช้จ่ายเท่าไร?
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นว่าการรีไฟแนนซ์บ้านก่อนครบสัญญา 3 ปี เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ แต่ก็จะมีเรื่องของค่าใช้จ่ายและค่าปรับต่าง ๆ เข้ามาให้พิจารณา โดยค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้านก่อนครบสัญญา 3 ปี ประกอบไปด้วย 3 ส่วน ได้แก่
- ค่าปรับรีไฟแนนซ์บ้านก่อนกำหนด โดยปกติแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 3% ของยอดหนี้คงเหลือ ยกตัวอย่างเช่น ยอดหนี้คงเหลือ 2 ล้านบาท ค่าปรับส่วนนี้จะประมาณ 60,000 บาท
- ค่าจดจำนอง เป็นค่าใช้จ่ายปกติที่ต้องจ่าย หากรีไฟแนนซ์ย้ายธนาคารใหม่ก็ต้องมีการเสียค่าจดจำนองใหม่ 1%
- ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าประเมินหลักประกัน ค่าอากรแสตมป์ ฯลฯ
โดยค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้านอื่น ๆ และค่าจดจำนอง บางธนาคารมาพร้อมกับโปรโมชันพิเศษที่ลูกค้าอาจจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนนี้
3 สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนรีไฟแนนซ์บ้าน
การรีไฟแนนซ์บ้านเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังผ่อนบ้านอยู่ เนื่องจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้คุณได้ในระยะยาว แต่การตัดสินใจรีไฟแนนซ์บ้านนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะยังมีปัจจัยสำคัญหลายประการที่คุณต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ วันนี้เราจะมาดูสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนรีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและคุ้มค่ามากที่สุด
1. ค่าใช้จ่าย
เรื่องแรกที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์บ้านคือค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์ เพราะคุณต้องคำนวณค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องให้ละเอียด เช่น ค่าธรรมเนียมการประเมินราคาบ้าน ค่าจดจำนอง ค่าดำเนินการของธนาคาร เป็นต้น หากค่าใช้จ่ายเหล่านี้สูงจนเกินไป อาจทำให้ไม่คุ้มค่าพอที่จะรีไฟแนนซ์บ้าน
2. การรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารใหม่
ก่อนจะเลือกธนาคารใหม่ที่ถูกใจ คุณควรศึกษาข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญาสินเชื่อธนาคารใหม่ให้ละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามความต้องการที่ครบถ้วน และไม่มีข้อกำหนดที่เป็นภาระมากเกินไป เพราะธนาคารแต่ละที่มีอัตราดอกเบี้ย วงเงินสูงสุด หรือระยะเวลาผ่อนชำระที่แตกต่างกัน ซึ่งจะดูแค่อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยในปีที่ 3 และปีที่ 4 ไปเปรียบเทียบกันเพื่อประกอบการตัดสินใจ
3. ความสามารถในการชำระหนี้
ก่อนที่จะตัดสินใจรีไฟแนนซ์บ้าน คุณจะต้องประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของตนเองอย่างละเอียด โดยพิจารณาจากรายได้ รายจ่าย และภาระหนี้สินอื่น ๆ ที่มีอยู่ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะสามารถผ่อนชำระได้อย่างสม่ำเสมอตามเงื่อนไขของสัญญาธนาคารใหม่
3 เทคนิค รีไฟแนนซ์บ้านให้คุ้มค่าที่สุด
อย่างไรก็ตาม การรีไฟแนนซ์บ้านมีค่าใช้จ่ายและข้อพิจารณาบางประการที่คุณควรรู้ เพราะถ้าหากทำอย่างถูกวิธี การรีไฟแนนซ์บ้านจะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้เป็นจำนวนมากในระยะยาว วันนี้เราจะมารวบรวมเทคนิคการรีไฟแนนซ์บ้าน ทำอย่างไรให้คุ้มค่ามากที่สุด
1. ศึกษาเรื่องค่าใช้จ่ายการรีไฟแนนซ์
ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้านประกอบไปด้วยหลายรายการ ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ ค่าประเมินราคาบ้าน ค่านายหน้า และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ คุณควรคำนวณค่าใช้จ่ายเหล่านี้ให้ครบถ้วน เพื่อเปรียบเทียบกับการประหยัดดอกเบี้ยที่จะได้รับว่าคุ้มค่าที่จะรีไฟแนนซ์บ้านหรือไม่
2. มองหาดอกเบี้ยที่ต่ำลงกว่าเดิม
จุดประสงค์หลักของการรีไฟแนนซ์บ้านคือการได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงกว่าเดิม ดังนั้น คุณควรเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากหลาย ๆ ธนาคารหรือสถาบันการเงิน เพื่อให้ได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุด นอกจากนี้ ให้พิจารณาทั้งอัตราดอกเบี้ยคงที่และอัตราดอกเบี้ยลอยตัว เพื่อเลือกแบบที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณมากที่สุด
3. กรณีรีไฟแนนซ์แล้วมีแถมด้วยสินเชื่อส่วนบุคคล
บางกรณีเมื่อเราขอรีไฟแนนซ์ใหม่ ทางธนาคารจะเสนอสินเชื่อสำหรับต่อเติมบ้านมาให้เราด้วย หากเจอกับกรณีนี้ควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจรับเงินก้อนส่วนต่างจากวงเงินรีไฟแนนซ์เดิม เนื่องจากวงเงินก้อนใหม่ที่เติมเข้ามาจะเป็นวงเงินสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง หากต้องการรีไฟแนนซ์เพื่อลดดอกเบี้ยก็อาจจะผิดวัตถุประสงค์ที่ตั้งเอาไว้ตั้งแต่ตอนแรก
H2 สรุปการรีไฟแนนซ์บ้านก่อน 3 ปี
สุดท้ายนี้ ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้านอาจไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด แต่อาจจะต้องมีการเตรียมเอกสารให้พร้อม ส่วนใครที่มีความจำเป็นรีไฟแนนซ์บ้านจริง ๆ ก็ควรพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายส่วนต่างให้ละเอียด จะได้ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่ามากที่สุด หากคุณกำลังมองหาสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยคุ้มค่า ที่ ธอส. มีโครงการสินเชื่อบ้านให้เลือกมากมาย และพร้อมวางแผนการผ่อนชำระให้หมดไวได้ เพื่อสานฝันให้คนไทยมีบ้านเป็นของตัวเองได้ตามที่ต้องการ
สำหรับใครที่กำลังต้องการขอสินเชื่อบ้าน ธนาคารอาคารสงเคราะห์มีสินเชื่อที่หลากหลาย เพื่อออกแบบมาให้เหมาะสมกับเงื่อนไขของทุกคน พร้อมเปิดกว้างให้กับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยหลากหลายกลุ่ม
หากคุณสนใจขอสินเชื่อบ้านจาก ธอส. สามารถทำการกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำด้านสินเชื่อ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่
หรือติตด่อได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center : 0-2645-9000