อยากปรึกษาสินเชื่อบ้าน เรียนรู้ขั้นตอนเหล่านี้ เริ่มปรึกษาได้เลย

/
/
อยากปรึกษาสินเชื่อบ้าน เรียนรู้ขั้นตอนเหล่านี้ เริ่มปรึกษาได้เลย

ในบทความนี้ จะแนะนำสิ่งที่คุณสามารถเตรียมตัวก่อนได้ และแนะนำสิ่งที่ควรสอบถามหรือปรึกษาสินเชื่อบ้านกับธนาคาร โดยรวมแล้วมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

การกู้สินเชื่อบ้านเป็นหนทางที่ช่วยให้คนสามารถเป็นเจ้าของบ้านได้จริง ถึงแม้ว่าจะขาดกำลังเรื่องเงิน โดยธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อให้ จะรับเอาบ้านหรือสินทรัพย์ที่จะซื้อหรือจะสร้างไว้เป็นหลักประกัน และคิดดอกเบี้ยในการกู้ยืมในอัตราที่ต่ำและสามารถผ่อนชำระได้ยาวนานถึงกว่า 30 ปี  

เมื่อคิดจะมีบ้าน หลายคนจึงเลือกที่จะปรึกษาสินเชื่อบ้านกับธนาคารว่า จะต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อที่จะได้รับสินเชื่อมาสานฝันให้เป็นจริง 

ในบทความนี้ จะแนะนำสิ่งที่คุณสามารถเตรียมตัวก่อนได้ และแนะนำสิ่งที่ควรสอบถามหรือปรึกษาสินเชื่อบ้านกับธนาคาร เพื่อให้คุณไม่พลาดและขยับเข้าใกล้ความฝันของการมีบ้านได้เร็วข้ึนอีกก้าวหนึ่ง

3 ขั้นตอนในการปรึกษาสินเชื่อบ้านกับธนาคาร 

1. เตรียมตัวก่อนปรึกษาสินเชื่อบ้าน

ในขั้นตอนแรก ขอแนะนำให้คุณเตรียมตัวและเตรียมความพร้อมในส่วนที่คุณสามารถทำได้ก่อนอย่างมั่นใจ โดยไม่จำเป็นต้องขอคำปรึกษากับธนาคารให้เสียเวลา โดยสิ่งที่คุณสามารถ/ควรเตรียมตัวก่อนมี 4 ข้อด้วยกัน

1.1)  รู้จักประเภทของสินเชื่อเบื้องต้นและเข้าใจจุดประสงค์ในการกู้

“สินเชื่อบ้าน” หรือ “สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย” หมายถึง เงินกู้ที่ธนาคารปล่อยให้กับผู้ขอสินเชื่อเพื่อการอยู่อาศัย ซึ่งโครงการสินเชื่อแต่ละโครงการจะมีจุดประสงค์ระบุไว้แตกต่างกันออกไป ไม่สามารถขอสินเชื่อบ้านได้ทุกสินเชื่อ โดยจุดประสงค์หลัก ๆ จะแบ่งได้หลากหลาย เช่น 

  • เพื่อซื้อบ้าน (บ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์/ทาวน์โฮม อาคารพาณิชย์ ฯลฯ) 
  • เพื่อซื้อบ้านและที่ดิน 
  • เพื่อก่อสร้างบ้านใหม่ 
  • เพื่อซ่อมแซมและต่อเติม 
  • เพื่อซื้อบ้านมือสอง 

โดยก่อนที่คุณจะติดต่อธนาคารเพื่อขอปรึกษาสินเชื่อบ้าน คุณควรสามารถตอบให้ได้ว่า คุณต้องการใช้เงินกู้ไปเพื่อจุดประสงค์อะไร เพื่อซื้อ เพื่อสร้าง หรือเพื่อต่อเติม เป็นต้น เพื่อที่ว่าเจ้าหน้าที่จะได้ให้คำปรึกษาแก่คุณได้ถูกจุด หรือคุณสามารถศึกษารายละเอียดของสินเชื่อที่สนใจได้ถูกต้อง

อ่านเพิ่มเติม: เข้าใจ 10 คำศัพท์ต้องเข้าใจเกี่ยวกับสินเชื่อบ้านได้ในบทความนี้

1.2) กำหนดงบประมาณก่อสร้าง/วงเงินที่ต้องการ

หากคุณมีความต้องการขอสินเชื่อบ้าน แน่นอนว่าคุณกำลังต้องการสร้างหรือซื้อบ้านอยู่แน่ ๆ สำหรับในขั้นตอนนี้ คุณสามารถประมาณการคร่าว ๆ ถึงวงเงินที่คุณต้องการสำหรับซื้อหรือก่อสร้างบ้านไว้ เพื่อที่จะได้นำไปปรึกษาและสอบถามกับธนาคารว่าสามารถให้วงเงินสูงสุดกับคุณได้เท่าไร ทั้งนี้ การตั้งงบประมาณสำหรับบ้านใหม่ควรมาพร้อมกับการสำรวจความพร้อมในการขอสินเชื่อในข้อต่อไปด้วย เพื่อให้งบประมาณของคุณใกล้เคียงกับสิ่งที่ธนาคารน่าจะอนุมัติให้คุณได้ที่สุด

1.3) สำรวจความพร้อมในการกู้สินเชื่อ 

ขั้นตอนการสำรวจความพร้อมหรือความสามารถในการกู้ คือ ขั้นตอนที่สำคัญมากๆ คุณสามารถคำนวณได้ว่า ธนาคารน่าจะให้วงเงินสินเชื่อบ้านแก่คุณได้สูงสุดประมาณเท่าไร เพื่อคุณจะได้วาง/ปรับแผนการก่อสร้างหรือซื้อบ้านของคุณ โดยสิ่งที่คุณสามารถตรวจสอบได้ก่อน มี 3 เรื่องด้วยกัน

  • วงเงินที่สามารถกู้ได้ 

วิธีการคำนวณเพื่อหาวงเงินที่สามารถกู้ได้ คือ ให้นำรายได้ต่อเดือนของคุณมาลบด้วยค่าใช้จ่ายรายเดือนจากนั้นให้หาความสามารถในการผ่อนต่อเดือน (ธนาคารระบุไว้ที่ 40% ของรายได้ต่อเดือนหลังจากหักค่าใช้จ่าย) ตามสูตร ดังนี้

วิธีการคำนวณเพื่อหาวงเงินที่สามารถกู้ได้

(รายได้ต่อเดือน – ค่าใช้จ่ายรายเดือน) x อัตราความสามารถในการผ่อนต่อเดือน

จากนั้น ให้คูณด้วย 150 คุณก็จะได้ วงเงินสูงสุดที่ธนาคารสามารถให้คุณได้จากการพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระของคุณ

ยกตัวอย่างเช่น คุณมีรายได้ 20,000 บาท มีค่าใช้จ่าย 4,000 บาทต่อเดือน แทนสูตรได้ ดังนี้

ความสามามารถในการผ่อนชำระต่อเดือน: (20,000 – 4,000) x 40% = 6,400 บาท

วงเงินที่ธนาคารสามารถอนุมัติให้ได้สูงสุด: 6,400 x 150 = 960,000 บาท*

เท่านี้คุณก็จะได้วงเงินสูงสุดโดนประมาณการแล้ว 

อ่านเพิ่มเติม: ศึกษาวิธีคำนวณวงเงินกู้บ้านเพิ่มเติมในบทความนี้ 

*หมายเหตุ: วงเงินสูงสุดที่คำนวณในตัวอย่างเป็นเพียงการพิจารณาจากความสามารถในการผ่อนชำระต่อเดือนเท่านั้น ซึ่งโครงการสินเชื่อแต่ละโครงการของแต่ละธนาคารอาจมีเงื่อนไขและวิธีการพิจารณาที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงมีการพิจารณาราคาของสินทรัพย์ที่นำมาจำนอง (บ้านที่จะซื้อ) อีกด้วย

  • ค่างวดที่ต้องชำระต่อเดือนจากวงเงินและอัตราดอกเบี้ย

คุณสามารถคำนวณหาค่างวดที่ต้องชำระต่อเดือนได้จากวงเงินสูงสุดที่สามารถขอได้ โดยคำนวณกับระยะเวลาในการผ่อนชำระและอัตราดอกเบี้ยโดยเฉลี่ย ได้ผ่านเครื่องมือคำนวณสินเชื่อบ้านของ ธอส. เครื่องมือนี้ 

ยกตัวอย่างเช่น กู้วงเงิน 2,000,000 บาท โดยผ่อนชำระ 30 ปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 5.5% = ต้องผ่อนชำระงวดละ 12,700 บาท

จากตัวอย่างนี้ ลองคิดว่า ถ้าบ้านที่คุณต้องการซื้อราคา 2,000,000 บาท และคุณสมบัติของคุณสามารถขอวงเงินได้เต็มจำนวน 100% จากรายได้ของคุณ คุณผ่อนบ้านเดือนละ 12,700 บาท ไหวหรือไม่ (เงินที่ผ่อนไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน)

  • ตรวจเครดิตบูโร

ควรตรวจประวัติการชำระหนี้ของคุณกับ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือเครดิตบูโร (NCB: National Credit Bureau) เพื่อดูว่าเครดิตของคุณมีปัญหาอะไรหรือไม่ เช่น ค้างชำระ ติดแบล็คลิสต์ ประวัติชำระไม่ตรงเวลา ถ้าหากมีประวัติข้างต้น ธนาคารอาจไม่อนุมัติสินเชื่อให้คุณ 

และคุณควรเริ่มต้นแก้ไขประวัติเครดิตไม่ดีหรือติดแบล็กลิสต์ รักษาวินัยในการชำระหนี้ต่างๆ ให้ตรงเวลา รวมถึง เตรียมตัวพร้อมสำหรับชี้แจงและขอคำปรึกษาสินเชื่อบ้านกับธนาคาร

การเตรียมตัวอื่น ๆ ที่สามารถทำได้ทันที สำหรับปรึกษาสินเชื่อบ้าน

1.4) การเตรียมตัวอื่น ๆ ที่สามารถทำได้ทันที

ตั้งแต่ที่คุณมีความคิดอยากซื้อบ้านหรือสร้างบ้านก็มีสิ่งที่คุณสามารถเริ่มต้นทำได้ทันที โดยที่ไม่จำเป็นต้องปรึกษาธนาคารหรือนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เช่น 

  • ออมเงินตั้งแต่ 5% – 20% ของราคาบ้าน เพื่อเป็นค่าดาวน์บ้านหรือสำรองไว้หากไม่ได้รับวงเงินเต็มจำนวน หรือออมเงินตั้งแต่ 20% ขึ้นไปสำหรับกรณีขอสินเชื่อเพื่อก่อสร้างบ้านใหม่ (ซึ่งต้องมีเงินก้อนแรกในการวางรากฐานอาคารก่อน ธนาคารจึงจะพิจารณาให้สินเชื่อ)
  • เตรียมรายการเดินบัญชี (Statement) ก่อนขอสินเชื่อ 6 เดือน – 1 ปี ให้มีรายรับตลอด และรายรับที่ควรมากกว่าจำนวนเงินที่ต้องผ่อนต่องวด เพราะรายการเดินบัญชีคือสิ่งที่ธนาคารจะใช้พิจารณาความน่าเชื่อถือทางการเงินของผู้กู้ 
  • ลดภาระหนี้สินอื่น ๆ หรือปิดสินเชื่อประเภทอื่นให้หมด เพื่อที่ความสามารถในการผ่อนต่องวดของคุณจะได้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้สามารถได้วงเงินอนุมัติสูงขึ้นได้อีก อีกทั้ง ยังช่วยให้ธนาคารมั่นใจว่าคุณมีศักยภาพในการผ่อนชำระหนี้

2. ปรึกษาสินเชื่อบ้านเพื่อพิจารณาเลือกธนาคาร

สำหรับขั้นตอนนี้ จะเป็นขั้นตอนที่คุณจะได้ศึกษาสินเชื่อและเงื่อนไขต่างๆ จากธนาคารแต่ละแห่งเพื่อเปรียบเทียบว่า คุณจะเลือกขอสินเชื่อบ้านกับธนาคารไหน โดยเกณฑ์ที่แนะนำให้คุณปรึกษาสินเชื่อบ้านกับธนาคารเพื่อพิจารณาก็มี 3 เรื่องด้วยกัน ดังนี้

2.1) อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่เท่าไหร่ มีวิธีคิดอย่างไร

หาข้อมูลหรือปรึกษาอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อและวิธีคิดอัตราดอกเบี้ยเป็นอย่างไร โดยอัตราดอกเบี้ยอาจมีทั้ง 

  • อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed rate loan) ซึ่งไม่ปรับตัวตามสภาวะตลาดการเงิน เท่าไรเท่านั้น 
  • อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (Floating rate loan) ซึ่งปรับตัวและมีความผันผวนตามตลาดการเงินขึ้นกับ MRR เป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของธนาคาร หรือในแต่ละปีจะคิดอัตราดอกเบี้ยทั้งสองแบบผสมกัน เช่น คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปี แรก และคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัวในปีถัดไป เป็นต้น

ทั้งนี้ สิ่งที่คุณควรถาม คือ อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 – 5 ปี (เพราะเป็นระยะเวลาที่สามารถรีไฟแนนซ์บ้านได้) ว่าดอกเบี้ยของธนาคารไหนดอกเบี้ยต่ำกว่า 

ยกตัวอย่างเช่น ธนาคาร A มีอัตราดอกเบี้ย 3 ปี คือ 6.5 + 7 + 7.5 = 7% ส่วนธนาคาร B มีอัตราดอกเบี้ย 3 ปี คือ 7.5 + 5 + 6.5 = 6.3% จะเห็นได้ว่า ธนาคาร B ให้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่า  

2.2) วงเงินที่สามารถอนุมัติให้ได้และระยะเวลาชำระ

แต่ละธนาคารมีเกณฑ์ในการพิจารณาให้วงเงินที่แตกต่างกันไป ซึ่งเป็นเรื่องที่คุณสามารถปรึกษาและต่อรองขอวงเงินที่สูงขึ้นไปได้ ดูว่าธนาคารใดสามารถให้วงเงินได้มากกว่า นอกจากนี้ วงเงินที่ได้ยังขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและประเภทสินเชื่อของธนาคารด้วย 

ยกตัวอย่างเช่น ธนาคาร A ให้วงเงินสินเชื่อแก่ข้าราชการได้ 100% แต่ไม่เกิน 2,000,000 บาท ในขณะที่ ธนาคาร B ออกสินเชื่อสำหรับคู่รักโดยให้วงเงินได้ 95% แต่ไม่เกิน 4,000,000 บาท ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับราคาทรัพย์ที่ต้องการด้วย

และนอกจากวงเงินสินเชื่อบ้านที่จะได้ที่ควรนำมาพิจารณาเลือกธนาคารแล้ว ระยะเวลาในการผ่อนชำระ ก็เป็นอีกเรื่องที่ควรนำมาคิด เพราะยิ่งธนาคารให้ระยะเวลาในการผ่อนชำระนานเท่าไร จำนวนเงินผ่อนต่องวดก็จะลดลง 

ลองปรับจำนวนปีในการผ่อนชำระเพื่อหาค่างวดที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนด้วยเครื่องมือคำนวณสินเชื่อบ้าน

2.3) เงื่อนไขในการอนุมัติและคุณสมบัติของผู้กู้

สินเชื่อแต่ละโครงการจากแต่ละธนาคารมีเงื่อนไขในการอนุมัติสินเชื่อที่แตกต่างกัน โดยสินเชื่อก็คือผลิตภัณฑ์ทางการเงินหนึ่งชนิดที่ออกแบบมาเพื่อกลุ่มเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่เฉพาะตัว 

โดยทั่วไปธนาคารจะพิจารณาคุณสมบัติจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อาชีพ ฐานเงินเดือน หลักประกัน และรายการเดินบัญชี อย่างไรก็ตาม สินเชื่อบ้านบางโครงการก็เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ขอสินเชื่อบางกลุ่ม เช่น สินเชื่อที่ออกมาเพื่อพนักงานฟรีแลนซ์โดยเฉพาะ สินเชื่อสำหรับพยาบาล เป็นต้น

ดังนั้น เมื่อปรึกษาสินเชื่อบ้านกับธนาคารต่างๆ จึงควรสอบถามถึงสิทธิประโยชน์หรือข้อจำกัดต่างๆ ของตัวผู้กู้เองว่า สินเชื่อของธนาคารไหนจะช่วยเหลือเราได้มากที่สุด ก่อนตัดสินใจเลือกสินเชื่อจากธนาคารนั้น 

ทั้งนี้ จะเห็นว่าปัจจัยที่เราสามารถเตรียมพร้อมได้ก่อน เช่น การออมเงินและการเดินรายการบัญชี จะช่วยแสดงความมั่นคงและศักยภาพในการชำระหนี้ของผู้กู้ได้ ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารไว้วางใจและอนุมัติผ่านได้ง่ายขึ้นด้วย

3. ปรึกษาธนาคารเพื่อขออนุมัติสินเชื่อ

หลังจากที่คุณปรึกษาสินเชื่อบ้านกับธนาคารต่างๆ แล้วพิจารณาได้แล้วว่าจะเลือกสินเชื่อจากธนาคารใด ในขั้นตอนนี้ ไม่มีอะไรยาก เพียงแค่คุณขอความช่วยเหลือหรือปรึกษาเรื่องการเตรียมตัวและการดำเนินการต่างๆ ให้เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนดเท่านั้น

3.1) การเตรียมเอกสารขอสินเชื่อบ้าน

เอกสารสำหรับยื่นขอสินเชื่อบ้านจะประกอบไปด้วยเอกสาร 3 ประเภท ด้วยกัน ได้แก่

  • เอกสารส่วนบุคคล เช่น บัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนสมรส / ใบหย่า สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ – สกุล (ถ้ามี) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส (ถ้ามี)
  • เอกสารทางการเงิน เช่น ใบรับรองเงินเดือน สลิปเงินเดือนหรือหลักฐานการรับเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน ซึ่งแต่ละอาชีพอาจขอเอกสารแตกต่างกันไป เป็นต้น
  • เอกสารหลักประกัน เช่น หลักฐานการเป็นเจ้าของอาคาร สำเนาโฉนดที่ดิน ใบอนุญาตปลูกสร้าง ใบแปลน เป็นต้น 

ทั้งนี้ สินเชื่อแต่ละประเภท คนละวัตถุประสงค์ และอาชีพของผู้ขอสินเชื่อที่แตกต่างกัน ธนาคารอาจขอเอกสารมากน้อยไม่เท่ากันเพื่อเพิ่มหลักฐานในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ ยกตัวอย่างเช่น ผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์ จะต้องแสดงหลักฐานการเสียภาษีเงินได้ รูปถ่ายกิจการ สำเนาใบประกอบวิชาชีพ หรือทั้งหมด เป็นต้น

3.2) การดำเนินยื่นเรื่องขอสินเชื่อ

สำหรับข้อนี้เป็นไปตามธนาคารกำหนด ซึ่งคุณสามารถขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ธนาคารได้เลยโดยขั้นตอนที่เหลือมักจะเป็นส่วนของธนาคาร เช่น ธนาคารประเมินราคาทรัพย์ หรือเดินทางไปยังโครงการเพื่อยืนยันว่าจะมีการสร้างบ้าน (ใช้สินเชื่อตามวัตถุประสงค์) จริง และทำการอนุมัติและตกลงให้สินเชื่อเป็นงวดๆ ในกรณีที่เป็นการกู้เพื่อสร้างบ้าน เป็นต้น

สรุปขั้นตอนในการปรึกษาสินเชื่อบ้าน 

การปรึกษาสินเชื่อบ้านกับธนาคารเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อที่คุณจะสามารถเลือกธนาคารที่สามารถช่วยเหลือให้คุณมีบ้านได้จริงมากที่สุดและทำให้การยื่นขอสินเชื่อของคุณราบรื่น 

ซึ่งนอกเหนือจากสิ่งคุณจะปรึกษาธนาคารแล้ว ก็มีบางสิ่งที่คุณสามารถเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการมีบ้านได้เลยตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการออมเงิน การลดภาระหนี้สินอื่นๆ รวมถึงการเดินบัญชีให้มีรายรับเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งถือเป็นก้าวแรกก้าวสำคัญที่คุณสามารถควบคุมได้ด้วยตัวของคุณเอง

แนะนำสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยจาก ธอส.

หากคุณกำลังมองหาสินเชื่อสำหรับการซื้อที่อยู่อาศัย ธนาคารอาคารสงเคราะห์มีรายละเอียดข้อเสนอสินเชื่อบ้านและคอนโดดีๆ มานำเสนอให้กับคุณ!

เรามีสินเชื่อสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และปานกลาง หรือกลุ่มผู้มีรายได้สูง ก็มีผลิตภัณฑ์หลากหลายที่สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างเหมาะสม

หากคุณสนใจขอสินเชื่อบ้านจาก ธอส. สามารถทำการกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำด้านสินเชื่อ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่

เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ที่คอยให้คำแนะนำ พร้อมเปรียบเทียบและยื่นข้อเสนอด้านสินเชื่อที่ดีที่สุดให้กับคุณ ติดต่อเราได้ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ หรือ

ติดต่อศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์: 02 645 9000

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
-

บริการของเรา

สนใจผลิตภัณฑ์ธนาคาร

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณ
อาจสนใจ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ค้นหาตาม Keyword เช่น การเงิน, การลงทุน, สินเชื่อ, บ้าน