บทความนี้ ธอส. จะมาตอบคำถามที่ว่า ในการขอสินเชื่อบ้านนั้นแต่ละรายสามารถได้วงเงินกู้บ้านเท่าไร? และสามารถคำนวณได้อย่างไรบ้าง!
บ้าน คือหนึ่งในทรัพย์สินที่ใคร ๆ ต่างก็หมายปองเพื่อความมั่นคงในวันข้างหน้าของชีวิต ทว่าด้วยมูลค่าที่สูงทำให้การซื้อบ้านด้วยเงินสดนั้นเป็นไปได้ยาก
ดังนั้น การขอสินเชื่อเพื่อกู้เงินซื้อบ้านจึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ใครหลายๆ คน
ซึ่งในขั้นตอนการขอสินเชื่อนั้น หลาย ๆ คนอาจเกิดข้อสงสัยในเรื่องของวงเงินกู้บ้าน ว่าสามารถกู้ได้สูงสุดเท่าไหร่กันแน่ โดยคุณสามารถหาคำตอบได้ภายในบทความนี้เลย!
วงเงินกู้บ้านสูงสุดสามารถคำนวณได้อย่างไร?
วงเงินกู้บ้านสามารถทำการคำนวณได้โดยคำนึงถึง รายได้ของผู้ที่ยื่นกู้ 3 ปัจจัย ได้แก่ รายรับ รายจ่าย และประวัติการชำระหนี้ โดยแต่ละปัจจัยมีรายละเอียดดังนี้!
ประเมินรายรับ
ก่อนที่จะประเมินวงเงินกู้สูงสุดนั้น เราต้องย้อนกลับมามองก่อนว่าตนเองมีรายรับประจำ (เช่น เงินเดือนประจำ) เข้ามาเท่าไร ซึ่งธนาคารนั้นจะกำหนดอัตราการผ่อนชำระรายเดือนคร่าวๆ เฉลี่ยอยู่ที่ 40% ของรายรับในแต่ละเดือน
ตัวอย่างเช่น หากคุณมีรายรับเดือนละ 20,000 บาท เท่ากับว่าความสามารถในการผ่อนชำระสูงสุดของคุณคือ 8,000 บาทนั่นเอง
หากธนาคารคำนวณแล้วว่าบ้านหลังที่คุณต้องการมีมูลค่าสูงเกินกว่าจะชำระเงินงวดรายเดือนได้ ก็อาจทำให้การอนุมัติเป็นไปได้ยาก
หมายเหตุ: หากคุณมีบ้านในฝันที่กำลังหมายปอง สามารถนำมาลองคำนวณการผ่อนชำระคร่าวๆ ได้ที่ เครื่องมือคำนวณสินเชื่อโดย ธอส.
ประเมินหนี้สินและรายจ่าย
โดยปกติ ที่ธนาคารกำหนดคร่าว ๆ ไว้ว่าอัตราการผ่อนชำระรายเดือนต้องไม่เกิน 40% นั้น เป็นเพราะต้องการให้อีก 60% เป็นรายได้ช่วยในการดำรงชีพ แต่ถ้าหากผู้ยื่นกู้มีหนี้สิน ก็มีส่วนที่ทำจะให้วงเงินกู้ลดลงเช่นเดียวกัน
สมมติว่า คุณมีรายรับเดือนละ 20,000 บาท แต่มีหนี้สินที่ต้องจ่ายเดือนละ 4,000 บาท ธนาคารจะทำการหักรายจ่ายแล้วประเมินรายรับที่เหลือ
ทำให้รายรับของผู้กู้เหลือเพียง 16,000 บาทเท่านั้น
เท่ากับว่า คุณจะมีกำลังผ่อนชำระสูงสุดเพียง 40% ของ 16,000 = 6,400 บาทนั่นเอง
ตรวจสอบประวัติการชำระหนี้ที่ไม่ปกติ
ประวัติการชำระหนี้นั้นนอกจากจะมีผลต่อการอนุมัติการขอสินเชื่อจากธนาคาร ยังมีผลต่อวงเงินกู้สูงสุดอีกด้วย หากคุณมีประวัติการชำระหนี้ไม่ปกติบ่อยครั้ง แต่ในปัจจุบันมีรายรับที่มั่นคง ธนาคารก็อาจผ่อนผันอนุมัติสินเชื่อให้ได้ แต่อาจได้วงเงินที่ต่ำลงกว่าปกติ
สำหรับใครที่กำลังมีปัญหาด้านประวัติการชำระหนี้หรือติดแบล็กลิสต์ แต่เกิดข้อสงสัยว่าจะสามารถกู้บ้านได้อย่างไร? สามารถทำความเข้าใจเพิ่มเติมได้ที่ บทความนี้!
วิธีคำนวณวงเงินกู้บ้านสูงสุดของธนาคาร
เมื่อทราบวิธีการคำนวณความสามารถในการผ่อนชำระรายเดือนกันแล้ว เรามาคำนวณกันเลยว่าวงเงินกู้บ้านสูงสุดนั้นจะได้เท่าไร!
ซึ่งการคำนวณคร่าวๆ นั้นสามารถทำได้โดยง่าย เพียงนำความสามารถในการผ่อนชำระรายเดือนมาคูณกับ 150 ก็จะสามารถประมาณวงเงินกู้สูงสุดได้!
ตัวอย่างเช่น ผู้ยื่นกู้มีรายรับประจำ 30,000 บาท เท่ากับสามารถผ่อนชำระได้เดือนละ 12,000 บาท หมายความว่าจะสามารถขอวงเงินกู้สูงสุดได้ที่ 12,000 x 150 = 1,800,000 บาทนั่นเอง
โดย ธอส. ได้ทำการเปรียบเทียบวงเงินกู้สูงสุดเงินเดือนคร่าวๆ ดังนี้!
หมายเหตุ: สูตรการคำนวณดังกล่าวเป็นเพียงการประมาณการเท่านั้น หากผู้ยื่นกู้ต้องการทราบข้อมูลแบบละเอียดชัดเจน แนะนำให้ทำการติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่จากธนาคาร ธอส.
เคล็ดลับน่ารู้เพื่อให้การกู้ผ่านฉลุย!
บางคนอาจเป็นกังวลหรือสงสัยว่า ทั้งๆ ที่ตนเองก็มีรายได้เยอะ แต่ทำไมขอสินเชื่อไม่ผ่านเสียทีนะ? ความจริงแล้วในการอนุมัตินั้นไม่ได้คำนึงว่าผู้ยื่นกู้มีรายได้มากแค่ไหนเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ความมั่นคงและน่าเชื่อถือเป็นหลัก!
เพื่อให้การขอสินเชื่อได้รับการอนุมัติ ธอส. ขอแนะนำให้คุณดำเนินการตาม 2 ข้อแนะนำ ดังนี้
รายการเดินบัญชี
ข้อแนะนำแรก คือ รายการเดินบัญชี เนื่องจากธนาคารจะต้องทำการตรวจสอบแหล่งที่มาของรายได้ เพื่อพิจารณาสถานะทางการเงินของคุณ สำหรับผู้ที่มีเงินเดือนประจำนั้นอาจจะไม่ลำบากในเรื่องนี้เท่าไร แต่หากคุณเป็นฟรีแลนซ์ หรือเจ้าของธุรกิจ จะต้องคำนึงเรื่องนี้ให้ดีๆ
นอกจากนี้ รายการในบัญชีไม่ควรแสดงให้เห็นถึงการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินรายรับในแต่ละเดือนหรือไม่เป็นเหตุเป็นผล โดยเฉพาะการถอนเงินจนหมดบัญชีในทุกๆ เดือน เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง!
จำนวนเงินเก็บ
ข้อแนะนำต่อมาคือ เงินเก็บ ยิ่งมีมากเท่าไรธนาคารก็ยิ่งอนุมัติสินเชื่อคุณได้ง่ายขึ้นเท่านั้น เนื่องจากเงินเก็บเป็นเหมือนสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงวินัยในการบริหารการเงินของคุณ รวมไปถึง ธนาคารฯ ยังมั่นใจได้ว่าแม้มีวิกฤตทางการเงินเกิดขึ้น คุณก็ยังมีเงินสำรองไว้ใช้จ่ายได้โดยไม่มีปัญหา
แนะนำสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยจาก ธอส.
หากคุณกำลังจะตัดสินใจจะกู้ซื้อบ้าน ธนาคารอาคารสงเคราะห์มีรายละเอียดข้อเสนอสินเชื่อบ้านและคอนโดดีๆ มานำเสนอให้กับคุณ!
เรามีสินเชื่อสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และปานกลาง หรือกลุ่มผู้มีรายได้สูง เราก็มีผลิตภัณฑ์หลากหลายที่สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างเหมาะสม
นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อเพื่อปรึกษา หรือสอบถามวงเงินกู้บ้านได้ ฟรี!
หากคุณสนใจขอสินเชื่อบ้านจาก ธอส. สามารถทำการกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำด้านสินเชื่อ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่
เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ที่คอยให้คำแนะนำ พร้อมเปรียบเทียบและยื่นข้อเสนอด้านสินเชื่อที่ดีที่สุดให้กับคุณ ติดต่อเราได้ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ หรือ
ติดต่อศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์: 02 645 9000
คำถามที่พบบ่อย
กู้บ้าน 1 ล้าน ผ่อนบ้านเดือนละเท่าไหร่
ตัวอย่างค่างวดสำหรับการกู้บ้าน 1 ล้าน ในระยะเวลาต่าง ๆ เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น เรามาดูตัวอย่างค่างวดสำหรับการกู้บ้าน 1 ล้านบาท ที่อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี ดังนี้
- ผ่อน 15 ปี ประมาณ 6,906 บาทต่อเดือน
- ผ่อน 20 ปี ประมาณ 5,546 บาทต่อเดือน
- ผ่อน 25 ปี ประมาณ 4,743 บาทต่อเดือน
- ผ่อน 30 ปี ประมาณ 4,216 บาทต่อเดือน
จะเห็นได้ว่า ยิ่งระยะเวลาผ่อนนานขึ้น ค่างวดต่อเดือนก็จะยิ่งน้อยลง แต่จำนวนดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายตลอดอายุสัญญาก็จะมากขึ้นด้วย
ต้องมีรายได้เท่าไหร่ถึงจะสามารถกู้บ้าน 1 ล้านได้?
โดยทั่วไป ธนาคารมักกำหนดให้ภาระการผ่อนบ้านไม่ควรเกิน 30-40% ของรายได้ต่อเดือน ดังนั้น หากค่างวดอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาทต่อเดือน คุณควรมีรายได้อย่างน้อย 15,000-20,000 บาทต่อเดือน
กู้บ้าน 5 ล้าน ผ่อนบ้านเดือนละเท่าไหร่
ตัวอย่างค่างวดสำหรับการกู้บ้าน 10 ล้านบาท ที่อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี ในระยะเวลาผ่อนต่าง ๆ กัน
- ผ่อน 15 ปี ประมาณ 69,060 บาทต่อเดือน
- ผ่อน 20 ปี ประมาณ 55,460 บาทต่อเดือน
- ผ่อน 25 ปี ประมาณ 47,430 บาทต่อเดือน
- ผ่อน 30 ปี ประมาณ 42,160 บาทต่อเดือน
การกู้บ้านในวงเงินสูงเช่น 10 ล้านบาท จำเป็นต้องมีรายได้ที่มั่นคงและสูงพอสมควร โดยค่างวดบ้านไม่ควรเกิน 30-40% ของรายได้ต่อเดือน หากพบว่าค่างวดอยู่ที่ประมาณ 50,000 บาท คุณควรมีรายได้อย่างน้อย 125,000-166,667 บาทต่อเดือน