รวมทุกเรื่องสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับภาษีขายบ้าน

/
/
รวมทุกเรื่องสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับภาษีขายบ้าน

รวมทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับภาษีขายบ้าน ทั้งภาษีเงินได้ ภาษีธุรกิจเฉพาะ อากรแสตมป์ และค่าธรรมเนียมโอน พร้อมวิธีประหยัดภาษี

การขายอสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นภาษีขายบ้านหรือภาษีขายคอนโด ล้วนมีภาระทางภาษีที่ผู้ขายจำเป็นต้องรู้และเข้าใจ เพื่อวางแผนการเงินได้อย่างถูกต้อง บทความนี้จะรวบรวมทุกสาระสำคัญเกี่ยวกับการขายบ้านต้องเสียภาษีอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีธุรกิจเฉพาะ อากรแสตมป์ และค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์นอกจากนี้ เรายังมีคำแนะนำเกี่ยวกับการคิดภาษีเงินได้จากการขายบ้านอย่างละเอียด พร้อมเทคนิคการประหยัดภาษีที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้คุณสามารถวางแผนการขายอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่ายสูงสุด

ขายบ้านต้องเสียภาษีและค่าธรรมเนียมอะไรบ้าง

ขายบ้านต้องเสียภาษีและค่าธรรมเนียมอะไรบ้าง

เมื่อคุณตัดสินใจขายบ้านหรือคอนโด สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงคือขายบ้านเสียภาษีอะไรบ้าง โดยภาษีและค่าธรรมเนียมหลักที่เกี่ยวข้องมี 4 ประเภท ได้แก่

  • ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
  • ภาษีธุรกิจเฉพาะ
  • อากรแสตมป์
  • ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์

ผู้ขายจำเป็นต้องเข้าใจรายละเอียดของแต่ละประเภท เพื่อวางแผนการเงินได้อย่างเหมาะสม และเตรียมเอกสารให้พร้อมสำหรับการทำธุรกรรม

1. ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย

การคิดภาษีเงินได้จากการขายบ้านเป็นขั้นตอนแรกที่ผู้ขายต้องดำเนินการ โดยคำนวณจากราคาประเมินทุนทรัพย์ที่กรมที่ดินกำหนด การคำนวณจะพิจารณาจากระยะเวลาการถือครองทรัพย์สิน ซึ่งมีผลต่อการหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมา ดังนี้

  • ถือครอง 1 ปี หักค่าใช้จ่าย 92%
  • ถือครอง 2 ปี หักค่าใช้จ่าย 84%
  • ถือครอง 3 ปี หักค่าใช้จ่าย 77%
  • ถือครอง 4 ปี หักค่าใช้จ่าย 71%
  • ถือครอง 5 ปี หักค่าใช้จ่าย 65%
  • ถือครอง 6 ปี หักค่าใช้จ่าย 60%
  • ถือครอง 7 ปี หักค่าใช้จ่าย 55%
  • ถือครอง 8 ปี หักค่าใช้จ่าย 50%

2. ภาษีธุรกิจเฉพาะ

ภาษีขายบ้านประเภทที่สองคือภาษีธุรกิจเฉพาะ ซึ่งจัดเก็บในอัตรา 3.3% ของราคาขายหรือราคาประเมินแล้วแต่ราคาใดสูงกว่า โดยจะต้องเสียในกรณีที่

  • ขายอสังหาริมทรัพย์ภายใน 5 ปีนับจากวันที่ได้มา
  • ไม่มีชื่อในทะเบียนบ้านเกิน 1 ปี
  • ได้รับอสังหาริมทรัพย์มาโดยไม่ใช่ทางมรดกหรือให้โดยเสน่หา

ขายคอนโดเสียภาษีอะไรบ้าง ก็เช่นเดียวกับบ้าน ต้องพิจารณาระยะเวลาการถือครองและวัตถุประสงค์การถือครองเป็นสำคัญ

3. อากรแสตมป์

อากรแสตมป์เป็นค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บในอัตรา 0.5% ของราคาประเมินทุนทรัพย์ แต่จะได้รับยกเว้นในกรณีที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ดังนั้น ผู้ขายจะเสียอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น ระหว่างภาษีธุรกิจเฉพาะ หรืออากรแสตมป์

4. ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์

ค่าธรรมเนียมการโอนคิดในอัตรา 2% ของราคาประเมินทุนทรัพย์ ซึ่งการขายบ้านต้องเสียภาษีอะไรบ้างในส่วนนี้ สามารถตกลงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายได้ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้รับผิดชอบ

วิธีการคำนวณภาษี

การคิดภาษีเงินได้จากการขายบ้านมีขั้นตอนดังนี้

  • คำนวณระยะเวลาถือครอง (นับตามปีปฏิทิน)
  • หาราคาประเมินทุนทรัพย์
  • หักค่าใช้จ่ายตามระยะเวลาถือครอง
  • คำนวณภาษีตามอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
  • ตรวจสอบภาษีธุรกิจเฉพาะหรืออากรแสตมป์
  • คำนวณค่าธรรมเนียมการโอน

2 วิธีช่วยประหยัดภาษีขายบ้าน

2 วิธีช่วยประหยัดภาษีขายบ้าน

สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนขายอสังหาริมทรัพย์ การเข้าใจวิธีประหยัดภาษีขายบ้านอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นสิ่งสำคัญ โดยมี 2 วิธีหลักที่สามารถช่วยลดภาระภาษีได้ ดังนี้

ถือครองให้ครบตามเงื่อนไข

การถือครองอสังหาริมทรัพย์ให้ครบตามเงื่อนไขเป็นวิธีประหยัดภาษีขายบ้านที่ดีที่สุด เพราะจะช่วยลดภาระภาษีธุรกิจเฉพาะจาก 3.3% เหลือเพียงอากรแสตมป์ 0.5% เท่านั้น โดยต้องถือครองเกิน 5 ปี หรือมีชื่อในทะเบียนบ้านเกิน 1 ปี

ซื้อบ้านใหม่แล้วขายบ้านเก่า

การซื้อบ้านใหม่ก่อนขายบ้านเก่าสามารถช่วยประหยัดภาษีได้ โดยมีเงื่อนไขดังนี้

  • ต้องมีชื่อในทะเบียนบ้านทั้งหลังเก่าและใหม่รวมกันไม่น้อยกว่า 1 ปี
  • ต้องซื้อบ้านใหม่ก่อนขายบ้านเก่า
  • สามารถขอคืนภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายได้

สรุปบทความภาษีขายบ้าน

สินเชื่อบ้าน

การทำความเข้าใจเรื่องภาษีขายบ้านและภาษีขายคอนโดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่วางแผนขายอสังหาริมทรัพย์ โดยต้องคำนึงถึงภาษีและค่าธรรมเนียมทั้ง 4 ประเภท ได้แก่ ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภาษีธุรกิจเฉพาะ อากรแสตมป์ และค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พร้อมให้คำปรึกษาและบริการสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยใหม่ บ้านมือสอง การปลูกสร้าง หรือการรีไฟแนนซ์

สำหรับใครที่กำลังต้องการขอสินเชื่อบ้าน ธนาคารอาคารสงเคราะห์มีสินเชื่อที่หลากหลาย เพื่อออกแบบมาให้เหมาะสมกับเงื่อนไขของทุกคน พร้อมเปิดกว้างให้กับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยหลากหลายกลุ่ม

หากคุณสนใจขอสินเชื่อบ้านจาก ธอส. สามารถทำการกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำด้านสินเชื่อ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่

หรือติดต่อได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center :  0-2645-9000

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
-

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ค้นหาตาม Keyword เช่น การเงิน, การลงทุน, สินเชื่อ, บ้าน