การขอสินเชื่อบ้านถือเป็นก้าวสำคัญของชีวิตที่ต้องการการเตรียมตัวอย่างรอบคอบ ถึงแม้ว่าหลายคนจะมั่นใจว่าตนเองพร้อมแล้ว แต่กลับพบว่าการยื่นขอสินเชื่อไม่ผ่านการอนุมัติ บทความนี้จะรวบรวมสาเหตุสำคัญที่มักทำให้การขอสินเชื่อบ้านไม่ผ่าน พร้อมแนวทางแก้ไขในการขอสินเชื่อไม่ผ่านทําไงดี และการเตรียมตัวเพื่อให้การยื่นกู้ครั้งต่อไปผ่านฉลุย
9 เหตุผลขอสินเชื่อไม่ผ่านเพราะอะไร
สถาบันการเงินมีเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อที่เข้มงวดเพื่อลดความเสี่ยงในการปล่อยกู้ โดยพิจารณาจากหลายปัจจัย ทั้งด้านคุณสมบัติผู้กู้ ประวัติการเงิน ภาระหนี้สิน ไปจนถึงมูลค่าหลักประกัน มาดูกันว่า 9 เหตุผลขอสินเชื่อบ้านไม่ผ่านเพราะอะไร แต่ละสาเหตุมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง และการขอสินเชื่อบ้านไม่ผ่านทําไงดี
1. คุณสมบัติผู้กู้ไม่ครบถ้วน
คุณสมบัติพื้นฐานเป็นด่านแรกที่ธนาคารจะพิจารณา โดยปัญหาที่พบบ่อยคือ อายุของผู้กู้ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด บางคนอายุน้อยเกินไป หรือบางคนอายุมากจนระยะเวลาผ่อนชำระจะเกินอายุเกษียณ นอกจากนี้ อายุงานที่น้อยกว่าที่ธนาคารกำหนด (มักต้องการอย่างน้อย 6 เดือนถึง 2 ปี) หรือสถานะการทำงานที่ไม่มั่นคง ก็เป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้การขอสินเชื่อไม่ผ่าน
2. ที่มาของรายได้ไม่ชัดเจน
กลุ่มอาชีพอิสระมักประสบปัญหานี้บ่อยที่สุด เนื่องจากมีรายได้ไม่แน่นอน ขึ้นลงตามฤดูกาลหรือสภาวะเศรษฐกิจ การไม่มีหลักฐานรายได้ที่ชัดเจน หรือไม่มีการเดินบัญชีที่สม่ำเสมอ ทำให้ธนาคารไม่สามารถประเมินความสามารถในการผ่อนชำระได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะหากรายได้ส่วนใหญ่เป็นเงินสดที่ไม่ผ่านระบบบัญชี
3. ติด Blacklist เครดิตบูโร
ประวัติการเงินที่ไม่ดีเป็นอุปสรรคสำคัญในการขอสินเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นการมีประวัติค้างชำระเกิน 90 วัน การเคยถูกฟ้องร้องดำเนินคดี หรือมีการผิดนัดชำระหนี้บ่อยครั้ง รวมถึงการมีประวัติเช็คเด้งหรือเช็คคืน ซึ่งล้วนส่งผลให้ธนาคารขาดความเชื่อมั่นในความสามารถการชำระหนี้
4. มีภาระหนี้สินที่ต้องผ่อนชำระมากเกินไป
ธนาคารจะพิจารณาภาระหนี้รวมต่อรายได้ต่อเดือน โดยทั่วไปไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ การมีภาระผ่อนหลายทาง ทั้งบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล ผ่อนรถ หรือการค้ำประกันผู้อื่น ล้วนนับเป็นภาระหนี้ที่ธนาคารนำมาพิจารณา และอาจเป็นเหตุให้การขอสินเชื่อไม่ผ่าน
5. คะแนนเครดิตไม่เพียงพอ
คะแนนเครดิตเป็นตัวชี้วัดความน่าเชื่อถือทางการเงิน การไม่มีประวัติการใช้สินเชื่อ การชำระหนี้ล่าช้าบ่อยครั้ง การใช้วงเงินบัตรเครดิตเต็มตลอด หรือการขอสินเชื่อบ่อยในระยะเวลาสั้นๆ ล้วนส่งผลให้คะแนนเครดิตต่ำกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด
6. ปัญหาจากผู้กู้ร่วม
การมีผู้กู้ร่วมที่มีประวัติการเงินไม่ดี หรือมีภาระหนี้สินมาก อาจส่งผลกระทบต่อการพิจารณาสินเชื่อ นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้กู้และผู้กู้ร่วมที่ไม่ใกล้ชิดพอ หรือรายได้รวมที่ไม่เพียงพอ ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้การขอสินเชื่อไม่ผ่าน
7. วินัยทางการเงินและประวัติการชำระหนี้
พฤติกรรมทางการเงินที่ไม่เหมาะสม เช่น การไม่มีเงินออม การเบิกเงินสดจากบัตรเครดิตบ่อย การชำระหนี้ขั้นต่ำเป็นประจำ หรือมีประวัติการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แสดงถึงการขาดวินัยทางการเงินและอาจส่งผลต่อการพิจารณาสินเชื่อ
8. หลักประกันไม่สอดคล้อง
ทำเลที่ตั้งของหลักประกันที่มีความเสี่ยง ราคาประเมินที่ต่ำกว่าราคาซื้อขายมาก สภาพทรัพย์ที่ไม่เหมาะสม หรือเอกสารสิทธิ์ที่มีปัญหา เป็นปัจจัยสำคัญที่ธนาคารใช้ประกอบการพิจารณา และอาจเป็นเหตุให้การขอสินเชื่อไม่ผ่าน
9. ทรัพย์สินน้อย
สถานะทางการเงินที่ไม่มั่นคง ไม่มีสินทรัพย์อื่นนอกจากเงินเดือน มีเงินในบัญชีหมุนเวียนน้อย ไม่มีการลงทุนระยะยาว หรือไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันอื่น สะท้อนถึงความเสี่ยงในการผ่อนชำระในระยะยาว
วิธีขอสินเชื่อกู้บ้านอย่างไรให้ผ่านฉลุย
- เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
- สร้างประวัติการเงินที่ดี
- ลดภาระหนี้สินที่มีอยู่
- เก็บออมเงินดาวน์อย่างน้อย 10-20%
- ตรวจสอบและปรับปรุงเครดิตบูโร
- เลือกวงเงินกู้ที่เหมาะสมกับความสามารถ
สรุปบทความเหตุผลที่กู้บ้านไม่ผ่าน
การขอสินเชื่อบ้านให้ผ่านนั้นไม่ใช่เรื่องยาก หากมีการเตรียมตัวที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโอกาสพิเศษนี้ ธอส. ได้จัดโครงการ “สินเชื่อบ้าน 71 ปี ธอส.” ที่มาพร้อมดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้นเพียง 0.71% ต่อปีในช่วง 6 เดือนแรก พร้อมระยะเวลาผ่อนนานสูงสุด 40 ปี และทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาและช่วยวางแผนทางการเงินเพื่อให้คุณมีบ้านได้ง่ายขึ้น สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สาขา ธอส. ทั่วประเทศ
หากคุณสนใจขอสินเชื่อบ้านจาก ธอส. สามารถทำการกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำด้านสินเชื่อ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่
หรือติดต่อได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center : 0-2645-9000
ที่มา : https://www.apthai.com/th/blog/know-how/home-loan-not-approved