ไขข้อสงสัย สินเชื่อกู้ซื้อบ้านมือสอง vs มือหนึ่ง แตกต่างกันอย่างไร?

/
/
ไขข้อสงสัย สินเชื่อกู้ซื้อบ้านมือสอง vs มือหนึ่ง แตกต่างกันอย่างไร?

ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จัก “สินเชื่อบ้านมือสอง” กัน ว่าสินเชื่อบ้านมือสองคืออะไร มีความแตกต่างจากสินเชื่อบ้านมือหนึ่งหรือไม่ อย่างไร

สินเชื่อบ้านมีหลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะแตกต่างกันไปตามจุดประสงค์ของการใช้สินเชื่อและเงื่อนไขของธนาคาร สำหรับสินเชื่อบางประเภทอาจครอบคลุมการซื้อ สร้าง และซ่อมแซม บางประเภทเป็นสินเชื่อที่ตั้งขึ้นมาเพื่อนักลงทุนหรือผู้ประกอบการ และบางสินเชื่อก็เป็นสินเชื่อบ้านมือสองโดยเฉพาะ


ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จัก “สินเชื่อบ้านมือสอง” กัน ว่าสินเชื่อบ้านมือสองคืออะไร มีความแตกต่างจากสินเชื่อบ้านมือหนึ่งหรือไม่ อย่างไร พร้อมกับคำแนะนำและข้อควรรู้ในการกู้สินเชื่อบ้านมือสองกัน

สินเชื่อบ้านมือสอง คืออะไร

สินเชื่อบ้านมือสอง คือ เงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยจากธนาคารสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้านมือสอง ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์/ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม และอาคารพาณิชย์ เพียงแต่ต้องเป็น “สินทรัพย์มือสอง” ทั้งซื้อผ่านเจ้าของสินทรัพย์โดยตรงหรือผ่านนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ โดยลักษณะการกู้และชำระจะเหมือนกับสินเชื่อบ้านโดยทั่วไป กล่าวคือ เป็นการกู้ระยะยาว ผ่อนชำระเป็นงวด และมีทรัพย์ที่ซื้อเป็นหลักประกันเช่นเดียวกัน 

สินเชื่อบ้านมือสอง vs สินเชื่อบ้านมือหนึ่ง แตกต่างกันอย่างไร

แนวคิดของสินเชื่อกู้ซื้อบ้านมือสองไม่ได้แตกต่างอะไรกับสินเชื่อบ้านมือหนึ่ง ซึ่งถูกเรียกรวมกันว่า “สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย” อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อแตกต่างระหว่างสินเชื่อกู้ซื้อบ้านมือสองและสินเชื่อบ้านมือหนึ่งอยู่ ได้แก่

  • จุดประสงค์ สินเชื่อบ้านมือหนึ่ง คือ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเพื่อซื้อบ้านมือหนึ่ง ซื้อที่ดิน หรือเพื่อก่อสร้างบ้านใหม่ ในขณะที่สินเชื่อบ้านมือสองก่อตั้งขึ้นสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้านมือสองเท่านั้น 
  • วงเงินอนุมัติสูงสุด สินเชื่อบ้านมือหนึ่งส่วนใหญ่แล้ว จะมีโอกาสขอสินเชื่อได้ 100% ของราคาประเมินหรือตามรายการค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง (BOQ: Bill of Quantity) ในกรณีกู้เพื่อสร้าง ในขณะที่สินเชื่อบ้านมือสองอาจขอวงเงินสูงสุดได้ไม่เกิน 80 – 90% ของราคาประเมินหรือราคาขาย (ธนาคารมักจะเลือกราคาที่ต่ำกว่า) ตามความสามารถและคุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อ

โดยสรุปแล้ว สินเชื่อกู้ซื้อบ้านมือสองและสินเชื่อบ้านปกติจะต่างกันที่จุดประสงค์ว่าจะซื้อสินทรัพย์มือหนึ่งหรือมือสองและวงเงินที่ธนาคารจะอนุมัติให้ที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ ก็มีอีกคำถามที่หลาย ๆ คนสงสัย นั่นคือ

สามารถซื้อบ้านมือสองด้วยสินเชื่อบ้านมือหนึ่งได้หรือไม่?

สำหรับคำถามนี้ ต้องทำความเข้าใจว่า จริง ๆ แล้ว ไม่มี “สินเชื่อบ้านมือหนึ่ง” หากแต่เป็น “สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย” เท่านั้น ซึ่งแต่ละสินเชื่อจากแต่ละธนาคารจะระบุเงื่อนไขและจุดประสงค์ของสินเชื่อไว้ ว่าครอบคลุมการซื้อบ้านมือสองหรือไม่ และอาจใช้เกณฑ์ในการพิจารณาวงเงินอนุมัติต่างกันไป

ดังนั้น จึงตอบได้ว่า “ทั้งทำได้และทำไม่ได้” หากต้องการขอสินเชื่อสำหรับซื้อบ้านมือสอง ผู้ขอสินเชื่อควรศึกษาเงื่อนไขของสินเชื่อจากธนาคารให้รอบคอบ ดูว่าครอบคลุมจุดประสงค์การซื้อบ้านหรือไม่

7 ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้านมือสอง

สำหรับผู้ที่ต้องการขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้านมือสอง เนื่องจากมีบางรายละเอียดที่แตกต่างจากการขอสินเชื่อบ้านทั่วไป ทำให้การเตรียมตัวบางขั้นตอนแตกต่างกันออกไปด้วย ต่อไปนี้ คือ ข้อควรรู้พร้อมคำแนะนำก่อนที่คุณจะตัดสินใจของสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านมือสอง 

1. สินเชื่อบ้านมือสองไม่ได้วงเงินเต็ม 100%

สินเชื่อบ้านมือสองไม่ได้วงเงินเต็ม 100%

สำหรับสินเชื่อบ้านมือสอง ธนาคารส่วนใหญ่จะให้วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 80 – 90% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมินเท่านั้น แตกต่างจากสินเชื่อบ้านมือหนึ่งที่มีโอกาสได้วงเงินเต็มจำนวน 100% ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและความสามารถในการผ่อนชำระของผู้ขอสินเชื่อด้วย 

โดยสาเหตุอาจมาจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ค่าเสื่อมสภาพ ทำเลที่ตั้ง และนโยบายการรับจำนองบ้านมือสองของแต่ละธนาคาร เป็นต้น ดังนั้นผู้ที่ต้องการซื้อบ้านมือสอง จึงควรสำรองเงินส่วนที่ขาดจากสินเชื่อไว้

อย่างไรก็ตาม สำหรับสินเชื่อบ้านมือสองของบางธนาคารอาจให้วงเงินได้สูงถึง 100% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมิน แต่อาจจะมีเพดานของวงเงินสูงสุด เช่น ไม่เกิน 3,000,000 บาท เป็นต้น และอาจมีข้อจำกัดคุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อเพิ่มเติม เช่น เป็นผู้มีรายได้ 20,000 บาท ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 35,000 บาท เป็นต้น

2. การซื้อบ้านมือสองไม่สามารถผ่อนดาวน์ได้

หลังจากที่หาบ้านที่ถูกใจจากแหล่งบ้านมือสองได้แล้ว เมื่อผู้ซื้อและผู้ขายตกลงจะซื้อจะขายบ้านเรียบร้อย ขั้นตอนต่อมาคือการวางเงินดาวน์เพื่อรับประกันสัญญาและเพื่อโอนกรรมสิทธิ์ สำหรับกรณีการผ่อนดาวน์บ้าน มักจะเกิดจากการตกลงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโครงการที่ยังสร้างบ้านหรือคอนโดมิเนียมไม่เสร็จ ซึ่งอาจผ่อนได้นานตั้งแต่ 6 เดือน – 1 ปี หรือนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสัญญา 

แต่สำหรับการซื้อบ้านมือสองนั้น ผู้ซื้อจะไม่สามารถผ่อนดาวน์ได้ ดังนั้นหากต้องการซื้อบ้านมือสอง จึงต้องเตรียมเงินดาวน์บ้านไว้ก่อน ตั้งแต่ 5 – 20 % ของราคาซื้อขายบ้าน สำหรับวันที่นัดไปทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์

3. การซื้อบ้านมือสองมีขั้นตอนมากกว่า

ขั้นตอนการซื้อขายบ้านมือสอง รวมไปถึงการขอสินเชื่อบ้านมือสอง มีขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่าการซื้อบ้านใหม่ที่ต้องทำความเข้าใจ

  • ขั้นตอนก่อนขอสินเชื่อ ผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องเจรจาเพื่อตกลงทำสัญญาจะซื้อจะขายเอง แล้วผู้ขอสินเชื่อจะต้องขอสำเนาโฉนดที่ดินจากผู้ขาย พร้อมนำสัญญาจะซื้อจะขายไปทำเรื่องขอสินเชื่อบ้านมือสองกับธนาคาร หลังจากนั้น ธนาคารจะเข้าไปประเมินราคาบ้านของผู้ขาย ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อ และพิจารณาอนุมัติวงเงิน
  • กรณีบ้านติดจำนองกับธนาคารอื่น เจ้าของสินทรัพย์หรือผู้ขายจะต้องดำเนินเรื่องไถ่ถอนจำนองกับธนาคารที่ติดจำนองอยู่ก่อน เพื่อให้ธนาคารฝั่งผู้ขอสินเชื่อสามารถรับจำนองต่อได้
  • ขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อ ผู้ขาย และธนาคารจะต้องทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดินให้สำเร็จภายในวันเดียว เพื่อที่ผู้ซื้อจะสามารถนำบ้านไปจำนองต่อกับธนาคารที่ขอสินเชื่อได้ รวมไปถึงทำเรื่องย้ายทะเบียนบ้านรวมทั้งมิเตอร์น้ำ – ไฟ ให้เรียบร้อย การซื้อขายจึงจะเสร็จสมบูรณ์

ทั้งนี้ หากผู้ซื้อติดต่อซื้อขายผ่านนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเชี่ยวชาญ นายหน้าฯ จะสามารถให้คำแนะนำ รวมไปถึงอำนวยความสะดวกในการซื้อ-ขายให้ได้ 

4. ควรตกลงค่าใช้จ่ายระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายให้ดี

ควรตกลงค่าใช้จ่ายระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายให้ดี

การซื้อขายบ้าน นอกจากราคาของสินทรัพย์แล้ว ยังมีค่าดำเนินการต่าง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งเป็นภาระของทั้งผู้ซื้อและผู้ขายที่ต้องรับผิดชอบรวมกัน ในขั้นตอนการทำสัญญาจึงควรตกลงให้แล้วเสร็จว่าค่าใช้จ่ายส่วนใดฝ่ายไหนจะเป็นผู้รับผิดชอบ หรือแบ่งชำระกันเท่าไร ค่าใช้จ่ายเหล่านั้น ได้แก่

  • ค่าธรรมเนียมการโอน 2% (แบ่งกันชำระได้ตามตกลง)
  • ค่าอากรแสตมป์ 0.5% หรือภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% (ควรเป็นภาระของผู้ขาย)
  • ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร (ควรเป็นภาระของผู้ขาย)
  • ค่าจดจำนอง 1% ของมูลค่าที่จำนอง (ควรเป็นภาระของผู้ซื้อ)

ทั้งนี้ ฝ่ายผู้ซื้ออาจเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายข้างต้นทั้งหมดโดยบวกกับราคาสินทรัพย์ หรืออาจตกลงชำระค่าใช้จ่ายบางส่วนแทนเพื่อช่วยให้ผู้ซื้อตัดสินใจได้ง่ายขึ้น 

5. ซื้อบ้านมือสองอาจมีปัญหาเรื่องการฟ้องขับไล่

การซื้อบ้านมือสองในบางกรณี บ้านที่ได้อาจเป็นบ้านที่ยังมีคนอาศัยอยู่ซึ่งไม่ใช่เจ้าของทรัพย์ (เช่น ผู้เช่า) หรือในบางกรณีที่ผู้ซื้อได้บ้านราคาถูกมาจากการประมูลบ้านที่ถูกยึดมาจากกรมบังคับคดี ผู้ซื้ออาจเจอปัญหาผู้อาศัยเดิมไม่ยอมย้ายที่อยู่ ทำให้ย้ายเข้ามาอยู่ได้ล่าช้าอาจนำไปสู่การฟ้องขับไล่ได้ และการขอสินเชื่อบ้านมือสองก็จะไม่สามารถทำได้ จนกว่าคดีความจะสิ้นสุดและสามารถทำการโอนกรรมสิทธิ์ได้

6. “ทรัพย์สินรอการขาย” บ้านมือสองจากธนาคาร

“ทรัพย์สินรอการขาย” หรือ NPA (Non-Performing Assets) คือ บ้าน คอนโดมิเนียม หรืออาคารสำหรับอยู่อาศัยอื่นๆ ที่ถูกธนาคารยึดมาจากเจ้าของเดิม เนื่องจากไม่สามารถผ่อนชำระให้กับธนาคารได้ หรือธนาคารซื้อมาจากการขายทอดตลาดจากกรมบังคับคดี 

โดยธนาคารที่มีบ้านมือสองประเภท NPA จะต้องการปล่อยทรัพย์ประเภทนี้ออก จึงมักจะมีราคาย่อมเยากว่าบ้านมือสองทั่วไป นอกจากนี้ หากซื้อบ้านมือสองกับธนาคารก็มักจะได้สิทธิพิเศษ และการอำนวยความสะดวกในการขอสินเชื่อบ้านมือสองอีกด้วย

7. ควรเตรียมเงินสำหรับค่าซ่อมแซมบ้าน

สำหรับการซื้อบ้านมือสอง นอกจากค่าดาวน์ 5 – 20% ที่ควรเตรียมให้พร้อมแล้ว ผู้ซื้อควรเตรียมเงินสำรองสำหรับการปรับปรุง ต่อเติม หรือซ่อมแซมบ้านไว้ด้วย เพราะบ้านที่ได้จะเป็นบ้านในสภาพที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว และสินเชื่อบ้านมือสองไม่รวมวัตถุประสงค์การซ่อมแซมและต่อเติม 

ก่อนตัดสินใจซื้อและทำสัญญาจึงควรสำรวจสภาพของบ้านให้ดีก่อน แต่ถ้าหากตรวจสอบสภาพบ้านดีแล้ว ไม่มีส่วนที่ต้องซ่อมแซม ก็อาจเตรียมค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านมือสอง และเผื่อเงินส่วนนี้ไว้เพียงเล็กน้อยสำหรับกรณีที่จำเป็นเท่านั้น

สินเชื่อบ้านมือสองจาก ธอส. 

ธอส. มีโครงการสินเชื่อต่างๆ ที่ครอบคลุมทุกวัตถุประสงค์เรื่องบ้าน รวมไปถึง “สินเชื่อบ้านมือสอง” ซึ่งสินเชื่อบ้านมือสองของ ธอส. นั้น แตกต่างจากสินเชื่อบ้านมือสองของหลายธนาคาร เพราะสามารถให้วงเงินกู้สูงสุดได้ถึง 100% และให้ระยะเวลากู้ได้ยาวนานถึง 40 ปี ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติผู้กู้

ดูสินเชื่อบ้านเพิ่มเติมจาก ธอส.

หากคุณสนใจขอสินเชื่อบ้านจาก ธอส. สามารถทำการกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำด้านสินเชื่อ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่

เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ที่คอยให้คำแนะนำ พร้อมเปรียบเทียบและยื่นข้อเสนอด้านสินเชื่อที่ดีที่สุดให้กับคุณ ติดต่อเราได้ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ หรือติดต่อศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์: 02 645 9000

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
-

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณ
อาจสนใจ

รวม 15 คอนโดติด BTS 2568 ทำเลดี คุณภาพเยี่ยม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เริ่มต้น 2 ล้านบาท ใกล้รถไฟฟ้าเพียง 0-200 เมตร
แนะนำ 4 เรื่องสำคัญที่ต้องรู้ก่อนรีโนเวทคอนโดเก่า พร้อม 5 เทคนิคการตกแต่งให้ดูกว้าง เพื่อการอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบ
ลงทุนโซลาร์เซลล์คุ้มค่าจริงหรือ? มาดูว่าโซลาร์เซลล์ช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง และจะช่วยประหยัดค่าไฟได้เท่าไหร่

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ค้นหาตาม Keyword เช่น การเงิน, การลงทุน, สินเชื่อ, บ้าน