ในยุคปัจจุบันนี้ เรื่องการบริหารจัดการหนี้สินให้มีประสิทธิภาพถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมคือการ “รีไฟแนนซ์บ้านขอวงเงินเพิ่ม” หลายคนอาจสงสัยว่าสามารถทำได้จริงหรือไม่? บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับวิธีการนี้อย่างละเอียด พร้อมเผยเทคนิคสำหรับคนที่อยากลดดอกเบี้ยบ้านไปพร้อมกัน
ทำความรู้จักการรีไฟแนนซ์บ้านขอวงเงินเพิ่ม
การรีไฟแนนซ์บ้านขอวงเงินเพิ่ม เป็นการรวมสองแนวคิดเข้าด้วยกัน นั่นก็คือ การรีไฟแนนซ์บ้าน และการขอวงเงินกู้เพิ่ม
- การรีไฟแนนซ์บ้าน คือ การนำสินเชื่อบ้านที่มีอยู่กับสถาบันการเงินหนึ่งไปขอสินเชื่อใหม่กับอีกสถาบันการเงินหนึ่ง โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดภาระดอกเบี้ย หรือปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการกู้ให้เหมาะสมกับสถานะทางการเงินในปัจจุบัน
- การขอวงเงินกู้เพิ่ม คือ การขอเพิ่มวงเงินกู้จากมูลค่าบ้านที่เพิ่มขึ้น หรือจากส่วนต่างระหว่างมูลค่าบ้านกับยอดหนี้คงเหลือ
เมื่อนำสองแนวคิดนี้มารวมกัน “การรีไฟแนนซ์บ้านขอวงเงินเพิ่ม” จึงหมายถึง การย้ายสินเชื่อบ้านไปยังสถาบันการเงินใหม่ พร้อมกับขอเพิ่มวงเงินกู้ในคราวเดียวกัน
ตัวอย่างเช่น หากคุณซื้อบ้านราคา 5 ล้านบาทเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ปัจจุบันผ่อนชำระไปแล้ว 1 ล้านบาท เหลือยอดหนี้ 4 ล้านบาท แต่มูลค่าบ้านปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 6 ล้านบาท คุณสามารถรีไฟแนนซ์บ้านพร้อมขอวงเงินเพิ่มได้ประมาณ 1-1.5 ล้านบาท (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละสถาบันการเงิน)
การรีไฟแนนซ์ขอวงเงินเพิ่มสามารถทำได้จริง และเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากให้ประโยชน์หลายด้านแก่ผู้กู้ ซึ่งเราจะกล่าวถึงในหัวข้อถัดไป
ข้อดีของการรีไฟแนนซ์บ้านขอวงเงินเพิ่ม

การรีไฟแนนซ์บ้านขอวงเงินเพิ่มมีข้อดีหลายด้าน ซึ่งทำให้วิธีนี้เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน มาดูกันว่าข้อดีของการรีไฟแนนซ์บ้านขอวงเงินเพิ่มมีอะไรบ้าง
1. วงเงินกู้สูง
หนึ่งในข้อดีที่สำคัญที่สุดของการรีไฟแนนซ์ขอวงเงินเพิ่มคือ โอกาสในการได้รับวงเงินกู้ที่สูงขึ้น เมื่อเทียบกับการขอสินเชื่อประเภทอื่น เช่น สินเชื่อส่วนบุคคลหรือสินเชื่อบัตรเครดิต เหตุผลที่เป็นเช่นนี้เพราะการใช้บ้านเป็นหลักประกัน ทางธนาคารมองว่ามีความเสี่ยงต่ำกว่าการให้กู้แบบไม่มีหลักประกัน หากราคาบ้านของคุณเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา คุณสามารถนำส่วนต่างนี้มาขอวงเงินกู้เพิ่มได้
ตัวอย่างเช่น หากคุณมีบ้านราคา 5 ล้านบาท และผ่อนชำระมาแล้ว 3 ปี เหลือยอดหนี้ 4 ล้านบาท แต่ปัจจุบันบ้านมีมูลค่า 6 ล้านบาท คุณอาจขอวงเงินกู้เพิ่มได้ถึง 1-1.5 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าวงเงินที่คุณอาจได้รับจากสินเชื่อส่วนบุคคลทั่วไป
2. อัตราดอกเบี้ยพิเศษ
อีกหนึ่งข้อดีที่สำคัญของการรีไฟแนนซ์บ้านขอวงเงินเพิ่มคือ โอกาสในการได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าเดิม ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในระยะยาว เช่น อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าสินเชื่อประเภทอื่น เนื่องจากมีบ้านเป็นหลักประกัน ทำให้ธนาคารมองว่ามีความเสี่ยงต่ำ จึงสามารถเสนออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินเชื่อไม่มีหลักประกันอื่น ๆ
3. ยอดผ่อนชำระต่อเดือนสบาย
การรีไฟแนนซ์ขอวงเงินเพิ่มยังอาจช่วยให้คุณมียอดผ่อนชำระต่อเดือนที่สบายขึ้น เพราะอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง ยอดผ่อนต่อเดือนของคุณก็จะลดลงด้วย แม้ว่าวงเงินกู้จะเพิ่มขึ้น คุณอาจเลือกที่จะขยายระยะเวลาการผ่อนชำระออกไป ซึ่งจะช่วยลดยอดผ่อนต่อเดือนลง รวมทั้งความยืดหยุ่นในการเลือกแผนการผ่อนที่สามารถเลือกแผนการผ่อนที่เหมาะสมกับสถานะทางการเงินของคุณได้มากขึ้น
4. สะดวกในการทำเรื่อง
การรีไฟแนนซ์บ้านและขอวงเงินเพิ่มยังมีข้อดีในแง่ของความสะดวกในการทำเรื่อง เมื่อเทียบกับการขอสินเชื่อแยกกันหลายรายการ
- ทำเรื่องครั้งเดียว คุณสามารถทำเรื่องรีไฟแนนซ์และขอวงเงินเพิ่มในคราวเดียวกัน ลดความยุ่งยากในการยื่นเอกสารหลายครั้ง
- ใช้เอกสารชุดเดียวกัน เอกสารที่ใช้ในการรีไฟแนนซ์สามารถใช้ในการขอวงเงินเพิ่มได้ด้วย ทำให้ไม่ต้องเตรียมเอกสารซ้ำซ้อน
- ประเมินหลักประกันครั้งเดียว การประเมินมูลค่าบ้านจะทำเพียงครั้งเดียว ซึ่งใช้ได้ทั้งสำหรับการรีไฟแนนซ์และการขอวงเงินเพิ่ม
- ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ เนื่องจากทำธุรกรรมครั้งเดียว คุณอาจประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการได้มากกว่าการแยกทำรายการ
ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้านขอวงเงินเพิ่ม

การรีไฟแนนซ์บ้านและขอวงเงินเพิ่มอาจดูเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน แต่หากเข้าใจขั้นตอนพื้นฐาน คุณจะสามารถดำเนินการได้อย่างมั่นใจ มาดูกันว่าขั้นตอนในการรีไฟแนนซ์บ้านขอวงเงินเพิ่มมีอะไรบ้าง
- ตรวจสอบสถานะทางการเงินของคุณ ตรวจสอบเครดิตบูโร รวบรวมข้อมูลรายได้และค่าใช้จ่ายปัจจุบัน พร้อมประเมินความสามารถในการผ่อนชำระ
- ประเมินมูลค่าบ้านปัจจุบัน ตรวจสอบราคาตลาดของบ้านในพื้นที่เดียวกัน และพิจารณาการปรับปรุงหรือซ่อมแซมที่อาจเพิ่มมูลค่าบ้าน
- เปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายธนาคาร ศึกษาอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขจากธนาคารต่าง ๆ และพิจารณาโปรโมชั่นพิเศษสำหรับการรีไฟแนนซ์
- ยื่นเอกสารขอรีไฟแนนซ์และวงเงินเพิ่ม เตรียมเอกสารสำคัญ เช่น สลิปเงินเดือน, เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์บ้าน
- รอการอนุมัติและประเมินหลักประกัน ธนาคารจะส่งเจ้าหน้าที่มาประเมินมูลค่าบ้าน และรอผลการพิจารณาสินเชื่อ
- ทำสัญญาและโอนสินเชื่อ ลงนามในสัญญาสินเชื่อใหม่ ธนาคารใหม่จะชำระหนี้ให้กับธนาคารเดิม
- เริ่มการผ่อนชำระตามเงื่อนไขใหม่ ปรับการชำระเงินตามยอดและเงื่อนไขใหม่
ค่าใช้จ่ายการรีไฟแนนซ์บ้านขอวงเงินเพิ่ม
แม้ว่าการรีไฟแนนซ์บ้านขอวงเงินเพิ่มจะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องซึ่งคุณควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจ โดยค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ในการรีไฟแนนซ์บ้านขอวงเงินเพิ่ม มีดังนี้
- ค่าประเมินหลักประกัน อาจอยู่ที่ประมาณ 3,000 – 5,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและทำเลที่ตั้งของบ้าน
- ค่าจดจำนองใหม่ คิดเป็นร้อยละ 1 ของวงเงินกู้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท บางธนาคารอาจมีโปรโมชั่นยกเว้นค่าธรรมเนียมนี้
- ค่าอากรแสตมป์ คิดในอัตรา 1 บาท ต่อวงเงินกู้ทุก 2,000 บาท แต่ไม่เกิน 10,000 บาท
- ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย ค่าเบี้ยประกันขึ้นอยู่กับมูลค่าบ้านและเงื่อนไขของธนาคาร
- ค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ (MRTA)
- ค่าธรรมเนียมการชำระหนี้ก่อนกำหนด
สรุปบทความรีไฟแนนซ์บ้านขอวงเงินเพิ่ม

การรีไฟแนนซ์บ้านขอวงเงินเพิ่มสามารถเป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ หากใช้อย่างชาญฉลาดจะสามารถช่วยลดภาระดอกเบี้ย ปรับปรุงกระแสเงินสด และให้เงินทุนสำหรับความต้องการทางการเงินอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและวางแผนการเงินระยะยาวก่อนตัดสินใจ
สุดท้ายนี้ การตัดสินใจรีไฟแนนซ์บ้านขอวงเงินเพิ่มควรสอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินโดยรวมของคุณ และควรทำเมื่อประโยชน์ที่ได้รับมีมากกว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น การปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อบ้านอาจช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับใครที่กำลังต้องการขอสินเชื่อบ้าน ธนาคารอาคารสงเคราะห์มีสินเชื่อที่หลากหลาย เพื่อออกแบบมาให้เหมาะสมกับเงื่อนไขของทุกคน พร้อมเปิดกว้างให้กับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยหลากหลายกลุ่ม
หากคุณสนใจขอสินเชื่อบ้านจาก ธอส. สามารถทำการกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำด้านสินเชื่อ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่
หรือติดต่อได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center : 0-2645-9000