การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจอย่างยิ่งในปัจจุบัน แต่หนึ่งในวิธีที่นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ควรให้ความสนใจ คือ การเลือกอสังหาริมทรัพย์ตามแนวเส้นทางของรถไฟฟ้า เพราะนอกจากราคาจะสูงขึ้นในอนาคตแล้ว อสังหาที่ใกล้แนวรถไฟฟ้าและมีการเดินทางที่สะดวกนั้น เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักในการเลือกอสังหาริมทรัพย์
ในบทความนี้เราจะแนะนำทำเลน่าสนใจในปี 2025 ที่มีเส้นทางรถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT ตัดผ่าน เพื่อให้คุณสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปประกอบการตัดสินใจ ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนหรืออยู่อาศัยด้วยตนเอง บทความนี้จะมีประโยชน์กับคุณอย่างแน่นอน
อัปเดตเส้นทางรถไฟฟ้า BTS และ MRT ปี 2025 ทำเลไหนน่าลงทุน
ในยุคที่ระบบการคมนาคมเป็นปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวัน การเลือกที่อยู่อาศัยหรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์จึงต้องคำนึงถึงความสะดวกในการเดินทางเป็นอันดับต้น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่รถไฟฟ้า BTS และ MRT กำลังขยายเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นเรื่อย ๆ
โดยในปี 2025 คาดว่าจะมีเส้นทางครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นกว่าเดิมถึง 50% ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง แผนที่รถไฟฟ้าในอนาคตจะแสดงให้เห็นถึงการเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ต่าง ๆ ที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น ทำให้การเดินทางในเมืองสะดวกสบายยิ่งขึ้น ต่อไปนี้จะเป็นการวิเคราะห์แต่ละเส้นทางรถไฟฟ้าและแนวโน้มการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ปี 2025
รถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-คูคต
เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวเป็นเส้นทางหลักที่เชื่อมต่อ 3 จังหวัดสำคัญ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ และปทุมธานี โดยแนวโน้มการลงทุนในพื้นที่รังสิต-คูคต เหมาะสำหรับการลงทุนในคอนโดมิเนียมระดับกลาง และบ้านแฝด เนื่องจากราคาที่ดินยังไม่สูงมากนัก ส่วนย่านลาดพร้าว-พหลโยธิน ยังคงเป็นทำเลทองสำหรับคอนโดมิเนียมระดับกลางถึงบน และจังหวัดสมุทรปราการก็ยังมีศักยภาพสำหรับการลงทุนในบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์
รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน บางซื่อ-หัวลำโพง
รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเชื่อมต่อย่านธุรกิจสำคัญหลายแห่ง เช่น สีลม สาทร พระราม 9 และรัชดาภิเษก โดยแนวโน้มการลงทุนย่านพระราม 9 – รัชดาภิเษก เหมาะสำหรับการลงทุนในคอนโดมิเนียมระดับกลางถึงบน และอาคารสำนักงาน ย่านห้วยขวางมีศักยภาพสูงสำหรับคอนโดมิเนียมสำหรับคนทำงาน และบางซื่อกำลังพัฒนาเป็นศูนย์กลางคมนาคมแห่งใหม่ เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว
รถไฟฟ้าสายสีม่วง เตาปูน-คลองบางไผ่
เส้นทางนี้เชื่อมต่อพื้นที่ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ กับจังหวัดนนทบุรี โดยแนวโน้มการลงทุนในย่านบางใหญ่ – บางบัวทอง เหมาะสำหรับการลงทุนในบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ส่วนย่านเตาปูน – บางซ่อนมีโอกาสสำหรับการลงทุนในคอนโดมิเนียมระดับกลาง
รถไฟฟ้าสายสีทอง กรุงธนบุรี-สะพานพุทธ
แม้จะเป็นเส้นทางสั้น แต่เป็นเส้นทางสำคัญที่เชื่อมต่อฝั่งธนบุรีกับใจกลางเมือง โดยแนวโน้มการลงทุนในย่านคลองสาน มีศักยภาพสูงสำหรับคอนโดมิเนียมระดับบนและโรงแรม ซึ่งพื้นที่โดยรอบสถานีเหมาะสำหรับการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์
รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม บางซื่อ-รังสิต
เส้นทางนี้เชื่อมต่อศูนย์กลางการคมนาคมแห่งใหม่อย่างสถานีกลางบางซื่อ ไปยังพื้นที่ชานเมืองอย่างรังสิต โดยแนวโน้มการลงทุนในย่านดอนเมือง – หลักสี่ เหมาะสำหรับคอนโดมิเนียมระดับกลางและอาคารสำนักงาน ส่วนย่านรังสิตยังคงมีศักยภาพสูงสำหรับบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม
รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง
เส้นทางนี้จะช่วยเชื่อมต่อพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ โดยแนวโน้มการลงทุนในย่านลาดพร้าว – บางกะปิ เหมาะสำหรับคอนโดมิเนียมระดับกลางถึงบน ส่วนพื้นที่ศรีนครินทร์ – สำโรง มีโอกาสสำหรับการลงทุนในบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม
รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน หมอชิต-ตลิ่งชัน
เส้นทางนี้จะช่วยเชื่อมต่อพื้นที่ฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรี โดยแนวโน้มการลงทุนในย่านบางซ่อน – บางบำหรุ เหมาะสำหรับคอนโดมิเนียมระดับกลาง ส่วนย่านตลิ่งชัน ยังคงมีศักยภาพสำหรับบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมระดับกลางถึงบน
รถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี
เส้นทางนี้จะเชื่อมต่อพื้นที่ชานเมืองฝั่งเหนือและตะวันออกของกรุงเทพฯ โดยแนวโน้มการลงทุนในย่านแจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด เหมาะสำหรับคอนโดมิเนียมและอาคารสำนักงาน ส่วนพื้นที่ย่านรามอินทรา – มีนบุรี มีโอกาสสำหรับบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียมระดับกลาง
รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์
เส้นทางนี้เชื่อมต่อสนามบินสุวรรณภูมิกับใจกลางเมือง โดยแนวโน้มการลงทุนในพื้นที่รอบสถานีมักกะสัน เหมาะสำหรับโรงแรมและอาคารสำนักงาน ส่วนย่านลาดกระบังยังคงมีศักยภาพสำหรับคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า
เส้นทางรถไฟฟ้า BTS และ MRT ที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา
นอกจากเส้นทางรถไฟฟ้า BTS และ MRT ที่เปิดให้บริการแล้ว ยังมีโครงการรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีกหลายเส้นทาง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความครอบคลุมของระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่
- รถไฟฟ้าสายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี (ระยะที่ 1)
- รถไฟฟ้าสายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางขุนนนท์ (ระยะที่ 2)
- รถไฟฟ้าสายสีม่วง เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ
- รถไฟฟ้าสายสีเทา วัชรพล-ทองหล่อ
- รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล แคราย-ลำสาลี
- รถไฟฟ้าสายสีเงิน บางนา-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เส้นทางเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับแผนที่รถไฟฟ้าในอนาคต ทำให้การเดินทางในเมืองสะดวกสบายยิ่งขึ้น และเปิดโอกาสใหม่ ๆ สำหรับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับการพัฒนามากนัก
2 เส้นทางรถไฟฟ้าน่าสนใจ แนวโน้มราคาอสังหาสูงขึ้น
1. โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู เส้นทาง แคราย – มีนบุรี
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ตอนนี้กำลังเข้าสู่ช่วงทดลองวิ่งเส้นทาง เขตแครายถึงเขตมีนบุรี โครงการที่ถูกแบ่งออกเป็น 3 เฟสสำคัญ คือ
- ระยะทางจากมีนบุรีถึงศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ รวมทั้งหมด 21 กิโลเมตร (ขณะนี้ให้บริการฟรี ยกเว้นสถานีนพรัตน์และสถานีโทรคมนาคมแห่งชาติ ที่ยังไม่เปิดให้ทดลองวิ่ง ค่าโดยสารจะเริ่มเก็บในเดือนกรกฎาคม 2566)
- ขยายเส้นทางไปถึงบริเวณ กรมชลประทาน รวมทั้งหมด 29 กิโลเมตร
- เปิดบริการเต็มรูปแบบตลอดเส้นทาง จนถึงศูนย์ราชการนนทบุรี และสี่แยกแคราย
แนวโน้มราคาและผลตอบแทนของแนวโครงการสายสีชมพู
ตามเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพู ซึ่งมีลักษณะเป็นชานเมืองของกรุงเทพฯ ทั้งที่เป็นพื้นที่ของรัฐบาลและเอกชน โครงการอุตสาหกรรม สถานศึกษา และสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง รวมถึงห้างสรรพสินค้า เช่น
- ศูนย์ราชการ
- เมืองทองธานี
- มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
ทำให้มีอาคารพาณิชย์และที่อยู่อาศัยมากมายที่ตั้งอยู่ตามเส้นทางของรถไฟฟ้าสายนี้ ส่งผลให้มีอัตราการเติบโตความเจริญค่อนข้างสูง
โดยมีการสำรวจการลงทุนอสังหาริมทรัพย์พบว่า Rental Yield (ผลตอบแทนในการปล่อยเช่า) สำหรับแนวเส้นรถไฟฟ้าสายสีชมพูฝั่งรามอินทราอยู่ที่ 5.5% และฝั่งแจ้งวัฒนะจะอยู่ที่ 5-6% นี้เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าการลงทุนในพื้นที่ที่มีระบบรถไฟฟ้าสายสีชมพูคือการตัดสินใจที่ดีและมีศักยภาพในการทำกำไรอย่างน่าสนใจอย่างแน่นอน
2. โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เส้นทาง ลาดพร้าว – สำโรง
รถไฟฟ้าสายสีเหลืองเป็นหนึ่งในโครงการรถไฟฟ้าที่กำลังจะเปิดให้บริการในปีนี้ โครงการนี้มีแนวเส้นทางตั้งแต่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตกที่ลาดพร้าว และสามารถเดินทางไปถึงสำโรง ในจังหวัดสมุทรปราการ
โดยรถไฟฟ้าสายเหลืองนี้จะเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ที่สถานีรัชดา และรถไฟฟ้า Airport Rail Link ที่สถานีพัฒนาการ ทำให้ระยะทางรวมทั้งหมดของรถไฟฟ้าสายเหลืองมีความยาว 30 กิโลเมตร โดยการเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป
แนวโน้มราคาและผลตอบแทนของแนวโครงการสายสีเหลือง
ทำเลที่อยู่อาศัยริมเส้นทางรถไฟฟ้า MRT ระหว่างลาดพร้าวถึงสำโรงเป็นที่ที่ค่อนข้างหนาแน่นด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย ทั้งที่เป็นพื้นที่ชุมชนและพื้นที่ธุรกิจ รวมถึงรวมทั้งที่ที่ตั้งของสถานที่สำคัญ เช่น
- โรงเรียน
- มหาวิทยาลัย
- โรงพยาบาล
- ห้างสรรพสินค้า
ซึ่งการเปิดให้บริการของรถไฟฟ้าสายเหลืองทำให้ทำเลนี้เป็นจุดศูนย์กลางของการเดินทางที่สะดวกสบาย โดยเฉพาะในโซนโชคชัย 4 ลาดพร้าว บางกะปิ พัฒนาการ และศรีนครินทร์ ซึ่งส่งผลให้มีอัตราการเติบโตของทำเลที่อยู่อาศัยค่อนข้างสูง โดยมีการสำรวจการลงทุนอสังหาริมทรัพย์พบว่า Rental Yield (ผลตอบแทนในการปล่อยเช่า) สำหรับแนวเส้นรถไฟฟ้าสายเหลืองฝั่งลาดพร้าวอยู่ที่ 6%
วิเคราะห์ผังเมืองปี 2025 จะเป็นอย่างไร
การพัฒนาระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑลไม่เพียงแต่จะส่งผลต่อการเดินทางเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบอย่างมากต่อการพัฒนาเมืองและการใช้ประโยชน์ที่ดินในอนาคต สำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร ได้วางแผนการพัฒนาเมืองภายใต้แนวคิด “เมืองกระชับ” หรือ Compact City โดยมีรายละเอียดดังนี้
- การพัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้า (Transit-Oriented Development: TOD)
- การพัฒนาศูนย์ชุมชนชานเมือง
- การกำหนดพื้นที่พัฒนาพิเศษ
- การปรับปรุงการแบ่งโซนสี
- การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมแบบบูรณาการ
โดยผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ มีการวิเคราะห์ว่าโครงการแบบ Mixed-use จะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งคาดว่าจะมีโครงการที่ผสมผสานที่อยู่อาศัย พื้นที่พาณิชยกรรม และสำนักงานมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้า และการเพิ่มขึ้นของโครงการ Smart City ที่คาดว่าจะมีการพัฒนาโครงการที่นำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการเมืองมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่พัฒนาใหม่
รวมทั้งการขยายตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อผู้สูงอายุ เนื่องจากสังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ คาดว่าจะมีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการคมนาคมสะดวก
ธอส. ช่วยให้คุณมีอสังหาริมทรัพย์ที่เหมาะสมกับความต้องการ
การขอสินเชื่อบ้านกับ ธอส. สามารถทำได้ง่าย และอนุมัติง่าย เพียงแค่เราจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการขอสินเชื่อ ตั้งแต่การเตรียมเอกสารเพื่อขอสินเชื่อ ไปจนถึงข้อมูลต่าง ๆ ที่สำคัญ เพื่อให้เราสามารถขอวงเงินได้ตรงตามความต้องการ
หากคุณกำลังพิจารณาซื้อบ้าน และมองหาธนาคารที่ให้สินเชื่อบ้านที่ตอบโจทย์ และคุ้มค่ากับคุณได้มากที่สุด ที่ ธอส. เรามีโครงการสินเชื่อที่ครอบคลุมกับคนไทยทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นบุคคลทั่วไป ที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง หรือบุคคลเฉพาะกลุ่มอย่างกลุ่มผู้สูงอายุ ก็สามารถขอสินเชื่อเพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินได้เช่นเดียวกัน แถมยังสามารถกู้ร่วมได้อีกด้วย
สนใจขอสินเชื่อบ้านกับ ธอส. ได้ผ่านช่องทางบริการดังนี้
- ยื่นขอสินเชื่อด้วยตนเองผ่าน GHB ALL GEN คลิก https://bit.ly/42bftBa
- ให้เจ้าหน้าที่ของธนาคารติดต่อกลับ เพื่อแนะนำสินเชื่อคลิก https://bit.ly/45KbcG9
- แชทสอบถามปรึกษาสินเชื่อคลิก m.me/GHBank
- ข้อเสนอดีๆ เพื่อคนอยากมีบ้านจาก ธอส. เพิ่มเติมคลิก : https://www.ghbank.co.th/product/loan
แหล่งข้อมูลอ้างอิง