เกริ่นนำ

ที่พักอาศัยเป็นหนึ่งในปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับมนุษย์ แต่ก็นับว่าเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าค่อนข้างสูงเช่นเดียวกัน ทำให้ก่อนการตัดสินใจซื้อนั้นต้องมีการไต่ตรองเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการเลือกระหว่าง บ้าน หรือ ทาวน์เฮ้าส์ ที่ยังคงเป็นปัญหาสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อว่าแบบไหนที่ดีกว่ากัน?

บทความนี้จะช่วยหาคำตอบให้กับคุณว่า ทั้งบ้านและทาวน์เฮ้าส์นั้นมีข้อแตกต่างกันอย่างไร ควรเลือกแบบไหนถึงจะตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่สุด

บ้าน vs ทาวน์เฮ้าส์ แบบไหนดีกว่ากัน

บ้านถือเป็นทรัพย์สินขนาดใหญ่ที่หลายๆ คนมีเป้าหมายที่อยากจะครอบครอง แต่ปัญหาหนึ่งที่เถียงกันอย่างไม่จบไม่สิ้นว่าระหว่างบ้านกับทาวน์เฮ้าส์นั้น ควรซื้อแบบไหนถึงจะดีกว่ากันแน่

ความจริงแล้วเมื่อดูจากภายนอกทั้ง 2 ประเภทนี้ก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ โดยคนส่วนใหญ่อาจคำนึงถึงทำเลที่ตั้งและราคาเป็นหลัก แต่หากลองดูปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วยแล้ว จะเห็นได้ว่าทั้ง 2 ประเภทนี้มีข้อแตกต่างกันพอสมควร

เพื่อให้เห็นภาพและตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด เรามาดูกันว่าที่พักอาศัยทั้ง 2 ประเภทนี้มีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

ทาวน์เฮ้าส์

ทาวน์เฮ้าส์ จะมาในรูปแบบของบ้านที่สร้างติดกันเป็นแนวยาว โดยจะแชร์พื้นที่กำแพงร่วมกัน มีลักษณะคล้ายตึกแถวเป็นแนวยาว ส่วนมากจะมีความสูงไม่เกิน 2-3 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยและสวนหน้าบ้านไม่มากนัก โดยจะมีบ้านส่วนติดมุมที่มีพื้นที่สวนมากกว่า แต่ราคาก็จะสูงกว่าบ้านในจุดอื่นๆ ตามไปด้วย

โดยข้อดีและข้อด้อยของการมีบ้านในรูปแบบทาวน์เฮ้าส์ มีดังนี้

ข้อดีของทาวน์เฮ้าส์

• ราคาไม่สูงมาก

มีราคาที่ไม่สูงมากหากเปรียบเทียบกับบ้านเดี่ยวในทำเลที่ใกล้เคียงกัน คนทั่วไปสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ไม่ยาก

• มีทำเลอยู่ภายในตัวเมือง

เนื่องจากใช้พื้นที่ไม่เยอะมาก และแชร์พื้นที่ผ่านโครงสร้างเดียวกัน ทำให้มีโครงการทาวเฮ้าส์อยู่ในบริเวณตัวเมืองมากกว่าโครงการบ้านเดี่ยว

ข้อด้อยของทาวน์เฮ้าส์

• ขาดความเป็นส่วนตัว

ทาวน์เฮ้าส์นั้นจะแชร์พื้นที่กำแพงร่วมกัน อาจทำให้เกิดปัญหาด้านเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้าน ความเป็นส่วนตัวลดน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการเจาะ เคลื่อนย้าย หรือต่อเติมบ้าน อาจมีปัญหาเรื่องส่งเสียงดังไปทั่วทั้งตึกได้

• พื้นที่ใช้สอยน้อย

โดยเฉพาะบ้านที่ไม่ได้อยู่ฝั่งหัวมุมจะมีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างน้อย ไม่มีสวนหน้าบ้าน ประกอบกับทาวเฮ้าส์จะมีตำแหน่งในการรับลมที่ไม่ค่อยดี อาจทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกอึดอัดหรือคับแคบได้

• ที่จอดรถน้อย

โดยมากแล้วทาวน์เฮ้าส์จะมีพื้นที่ให้จอดรถหน้าบ้านแบบพอดิบพอดีประมาณ 1 คัน ซึ่งบางโครงการอาจให้ได้มากถึง 2 คันแต่ก็แลกมาด้วยราคาที่สูงขึ้นไปอีก รวมถึงอาจเกิดปัญหาสำหรับผู้ที่มีรถยนต์ขนาดใหญ่ที่ตัวบ้านอาจมีความลึกไม่เพียงพอให้จอด อย่างเช่น รถกระบะ รถครอบครัว หรือรถตู้

• ถนนหน้าบ้านแคบ

ปกติทาวน์เฮ้าส์จะอยู่ในรูปแบบของบ้านติดกันแนวยาว โดยจะคั่นด้วยซอยเล็กๆ สำหรับเดินทางเข้าออก ซึ่งอาจเกิดปัญหาสำหรับผู้ที่มีรถยนต์ส่วนตัวได้ เนื่องจากซอยนั้นอาจกว้างไม่เพียงพอที่จะกลับรถ หรืออาจจะทำได้ลำบาก

บ้าน

บ้าน หรือที่มักจะเรียกกันว่าบ้านเดี่ยวนั้น จะมีลักษณะเป็นหลังโดยแบ่งบริเวณโดยรอบบ้านแต่ละหลังเอาไว้อย่างชัดเจน มีพื้นที่ใช้สอยภายในค่อนข้างมาก ให้ความรู้สึกที่เป็นส่วนตัวมากกว่า

โดยข้อดีและข้อด้อยของการซื้อบ้านเดี่ยวเป็นของตัวเองนั้น มีดังนี้

ข้อดีของบ้าน

• มีความเป็นส่วนตัว

เนื่องจากไม่ได้มีส่วนใดของบ้านที่อยู่แนบชิดติดกับเพื่อนบ้าน ทำให้สามารถทำกิจกรรมภายในบ้าน หรือตกแต่งต่อเติมภายในได้อย่างอิสระ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงรบกวนเหมือนทาวน์เฮ้าส์

• พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง

บ้านเดี่ยวนั้นจะมีการแบ่งพื้นที่ของแต่ละหลังเอาไว้อย่างชัดเจน ซึ่งโดยรวมแล้วถือว่าค่อนข้างเหลือเฟือ สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างอิสระ สามารถเลี้ยงสัตว์ได้โดยมีพื้นที่ให้วิ่งเล่นได้อย่างเต็มที่ รวมถึงมีโครงสร้างบ้านแบบเปิด ทำให้มีแสงแดดและลมพัดผ่านมาตลอด

• ที่จอดรถเพียงพอ

โดยปกติแล้วบ้านเดี่ยวนั้นจะแบ่งเนื้อที่เผื่อไว้สำหรับจอดรถประมาณ 2-3 คันอยู่แล้ว อีกทั้งยังไม่ต้องกังวลในเรื่องของรถที่ความยาวมากกว่าปกติอย่างรถกระบะอีกด้วย

ข้อด้อยของบ้าน

• ทำเลในเมืองหาได้ยาก และมีราคาสูง

เนื่องจากมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า จึงเป็นธรรมดาที่บ้านจะมีราคาสูงกว่าทาวน์เฮ้าส์ แต่ประกอบกับที่ต้องใช้พื้นที่ในการสร้างต่อหลังมากกว่าทาวน์เฮ้าส์ อาจทำให้หาบ้านเดี่ยวที่มีทำเลในตัวเมืองได้ค่อนข้างยาก หรือมีราคาสูงกว่าทาวน์เฮ้าส์ในทำเลเดียวกันหลายเท่าตัว

ดังนั้น ถ้าหากคุณต้องการบ้านราคาดีๆ ที่ตอบโจทย์ อาจจะต้องทำใจเอาไว้ว่าต้องอยู่ห่างจากตัวเมืองระดับหนึ่ง

พิจารณาความเหมาะสม แบบไหนกันแน่ที่เหมาะกับคุณ

เมื่อได้ทราบข้อแตกต่างของบ้านและทาวน์เฮ้าส์ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว คราวนี้เรามาลองพิจารณาความเหมาะสมของตัวผู้อยู่อาศัยกันบ้าง ว่าสำหรับคุณแล้ว อยู่ที่ไหนจึงจะเหมาะสมกว่ากันแน่

โดยจะแนะนำให้คำนึงจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้

• ทำเลที่อำนวยการประกอบอาชีพ

หากคุณมีอาชีพหลักที่ต้องเดินทางไปทำงานในเมืองทุกวัน แนะนำให้เลือกซื้อจากทำเลมากกว่า เนื่องจากในเมืองนั้นการจราจรค่อนข้างติดขัด อาจทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าที่ต้องเสียเวลาหลายชั่วโมงในการเดินทาง จึงแนะนำให้เลือกซื้อจากทำเลเป็นหลัก

• จำนวนผู้อยู่อาศัย

โดยปกติแล้วทาวน์เฮ้าส์จะแบ่งพื้นที่ภายในบ้านประมาณ 2-3 ห้องนอน แต่หากเป็นบ้านเดี่ยวจะมีมากถึง 3-4 ห้องนอนขึ้นไปเลยทีเดียว หากคุณมีครอบครัวใหญ่ หรือตั้งใจว่าจะรับพ่อแม่ หรือมีลูกหลานในอนาคต แนะนำว่าการซื้อบ้านเดี่ยวจะคุ้มค่ามากยิ่งกว่าในอนาคต

• สำรวจฐานะทางการเงิน

อย่างที่ทราบกันดีว่าบ้านเดี่ยวนั้นมีราคาที่สูงกว่ามากเมื่อเทียบกับทาวน์เฮ้าส์ เพราะฉะนั้นปัจจัยเรื่องเงินนั้นถือว่าสำคัญที่สุด เพราะต้องไม่ลืมว่าคุณไม่ได้แบกรับเพียงค่าผ่อนอย่างเดียว แต่รวมไปถึงค่าน้ำค่าไฟ ค่าส่วนกลาง และค่าใช้จ่ายต่างๆ ในชีวิตประจำวันอีกมากมาย

หากคุณมีรายได้ที่ไม่สูงมาก การเลือกทาวน์เฮ้าส์อาจตอบโจทย์ชีวิตของคุณได้มากกว่า เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาด้านการเงินในอนาคต

สรุป

จากข้อมูลที่ได้แนะนำไป คาดว่าหลายๆ ท่านก็น่าจะมีคำตอบในใจกันแล้วว่าจะเลือกซื้อบ้านหรือทาวน์เฮ้าส์กันแน่ แต่อีกปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยเอื้อให้คุณสามารถครอบครองบ้านในฝันได้นั้น ก็คือสินเชื่อบ้านดีๆ นั่นเอง

ธอส. พร้อมสนับสนุนคนไทยทุกคนที่อยากมีบ้าน ด้วยสินเชื่อที่ครอบคลุมทุกวัตถุประสงค์ด้านที่อยู่อาศัย และอัตราดอกเบี้ยที่สมเหตุสมผล ค่างวดที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน ให้การตัดสินใจซื้อบ้านของคุณเป็นเรื่องง่าย เติมเต็มความฝันที่อยากมีบ้านของคุณให้กลายเป็นจริงในไม่ช้า

สอบถามรายละเอียด ปรึกษาเรื่องสินเชื่อบ้านเพิ่มเติมได้ที่นี่ หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร 0-2645-9000