เกริ่นนำ
ปัจจุบันที่พักอาศัยถูกแบ่งออกได้มากมายหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว บ้านจัดสรร ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม ฯลฯ ซึ่งก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป แต่เนื่องจากบ้านเป็นทรัพย์สินที่มีค่าใช้จ่ายในการซื้อค่อนข้างมาก ทำให้ต้องใช้การตัดสินใจอย่างถี่ถ้วนก่อนทำการเลือกซื้อ
โดยบทความนี้จะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับที่พักอาศัยประเภทบ้านจัดสรร แตกต่างจากบ้านแบบธรรมดาอย่างไร มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง และคุ้มค่าแก่การซื้อหรือไม่ บทความนี้มีคำตอบให้คุณ
“บ้านจัดสรร” กับ “บ้านปลูกเอง” ต่างกันอย่างไร?
สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้านนั้นอาจจะเลือกไม่ถูกว่าระหว่าง “บ้านจัดสรร” และ “บ้านปลูกเอง” นั้น มีความแตกต่างกันอย่างไร เพราะหากดูรวมๆ แล้วก็มีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยวแบบเดียวกันทั้งคู่ ควรเลือกซื้อแบบไหนถึงจะดีนะ?
หากพูดในแง่ของรูปแบบบ้านอาจจะไม่แตกต่างกันเท่าไรนัก แต่บ้านจัดสรรนั้นจะมีข้อดีที่มีพื้นที่ส่วนกลางคอยให้บริการ และมีระบบความปลอดภัยที่เพียบพร้อมกว่า แต่ในขณะเดียวกันก็เลือกทำเล วัสดุก่อสร้าง และการออกแบบเองไม่ได้
แต่กลับกัน แม้ว่าบ้านปลูกเองจะสามารถเลือกทำเล การออกแบบ และวัสดุก่อสร้างต่างๆ ได้เอง แต่ก็อาจจะทำให้ผู้ซื้อต้องเสียเวลาในการดำเนินเรื่องต่างๆ ค่อนข้างมากเช่นเดียวกัน
ด้วยความแตกต่างที่ค่อนข้างจะชัดเจนของบ้านจัดสรร เรามาดูกันโดยละเอียดดีกว่าว่า สำหรับการซื้อบ้านจัดสรรนั้นมีข้อดีและข้อควรคำนึงอย่างไรบ้าง
ข้อดีของการซื้อบ้านจัดสรร
มาดูกันว่าสำหรับการซื้อบ้านจัดสรรนั้นมีข้อดีอย่างไรบ้าง
-
ได้เห็นแบบบ้านตัวอย่าง
สำหรับบ้านจัดสรรนั้น ทางโครงการจะมีบ้านตัวอย่างที่สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วให้ผู้ที่สนใจได้เข้าไปเยี่ยมชมก่อนตัดสินใจ ซึ่งจะใช้วัสดุและการออกแบบเช่นเดียวกันกับบ้านตัวจริงที่ขายให้ลูกค้า ทำให้สามารถมองเห็นภาพรวมต่างๆ ของตัวบ้านได้อย่างชัดเจน
ซึ่งข้อดีในจุดนี้ทำให้บ้านจัดสรรได้เปรียบบ้านปลูกเอง ไม่ต้องกลัวว่าบ้านที่สร้างออกมาจะผิดไปจากที่ออกแบบ รวมถึงผู้ซื้อไม่จำเป็นต้องกังวลในส่วนของโครงสร้างต่างๆ เนื่องจากมีทีมวิศวกรของโครงการคอยรับผิดชอบให้ทั้งหมด จึงช่วยให้สบายใจได้ว่า บ้านที่ซื้อมาจะตรงตามแบบที่ต้องการอย่างแน่นอน
-
ได้รับสิทธิประโยชน์และบริการต่างๆ
อีกหนึ่งข้อได้เปรียบสำหรับการซื้อบ้านจัดสรรนั่นก็คือ สิทธิพิเศษต่างๆ ที่โครงการแถมมาให้ อย่างเช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือบิวด์อินต่างๆ รวมไปถึงบริการพิเศษภายในโครงการ เช่น บริการรถรับ-ส่งเข้าออกโครงการ พื้นที่สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ฯลฯ
-
ระบบความปลอดภัยที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี
ภายในโครงการบ้านจัดสรรนั้นจะมีทีมนิติบุคคลคอยบริหารระบบต่างๆ ให้เป็นอย่างดี ซึ่งรวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยที่จะมี รปภ. คอยผลัดเวรยามดูแลอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง จึงสามารถมั่นใจด้านความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง
-
ลดความยุ่งยาก และประหยัดเวลา
อย่างที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่าในการปลูกบ้านเองนั้นจำเป็นจะต้องเดินเรื่องต่างๆ เยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการจ้างสถาปนิกออกแบบ รวมถึงต้องจ้างวิศวกรและผู้รับเหมาก่อสร้างเพื่อจัดการงานต่ออีก ซึ่งต้องดำเนินการด้วยตัวเองทั้งหมด
แต่สำหรับบ้านจัดสรรนั้นจะมีทีมสถาปนิกและวิศวกรจัดการออกแบบบ้านให้อย่างเสร็จสรรพเรียบร้อย ทำให้ผู้ซื้อไม่ต้องเสียเวลาดำเนินเรื่องต่างๆ ด้วยตัวเอง แม้ว่าในขั้นตอนตรวจรับบ้านจะมีปัญหาก็สามารถแจ้งให้ทีมช่างของโครงการจัดการให้ได้ในทันที จึงช่วยลดความยุ่งยากและประหยัดเวลาลงได้เป็นอย่างมาก
ข้อควรคำนึงก่อนซื้อบ้านจัดสรร
เมื่อพูดถึงข้อดีของการมีบ้านจัดสรรไปแล้ว คราวนี้เรามาดูกันว่ามีสิ่งใดบ้างที่ควรคำนึงก่อนที่จะทำการเลือกซื้อ โดยสิ่งที่ควรพิจารณา มีดังนี้
-
ค่าส่วนกลางต้องจ่ายทุกปี
เนื่องจากบ้านจัดสรรนั้นจะตั้งอยู่ภายในโครงการที่มีทีมนิติบุคคลคอยดูแลความสะดวกเรียบร้อยต่างๆ ทำให้ผู้อยู่อาศัย หรือที่เรียกกันว่า “ลูกบ้าน” จำเป็นต้องจ่ายค่าส่วนกลางเพื่อใช้ในการบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนรวมต่างๆ
โดยค่าส่วนกลางสำหรับบ้านจัดสรรนั้นจะมีราคาเฉลี่ยที่เดือนละประมาณ 40-60 บาทต่อตารางวา (อาจมากหรือน้อยกว่านี้ขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการ)
หากสมมติว่าคุณอาศัยอยู่ในบ้านจัดสรรพื้นที่ 50 ตารางวา โดยมีค่าส่วนกลาง 50 บาทต่อตารางวา เท่ากับว่าคุณต้องจ่ายค่าส่วนกลางเฉลี่ยปีละ 30,000 บาทนั่นเอง แต่ก็แลกมาด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่สร้างความสะดวกสบาย และอำนวยความปลอดภัยให้ จึงนับเป็นค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่าทีเดียว
-
ควบคุมทำเลที่ตั้งไม่ได้
ทำเลที่ตั้งของบ้านจัดสรรนั้นจะอยู่ภายในโครงการหมู่บ้านขนาดใหญ่ ทำให้เป็นการยากที่จะหาโครงการที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งอาจจะไม่ติดระบบโดยสารหลักอย่างรถไฟฟ้า ทำให้ผู้อยู่อาศัยที่ต้องเดินทางไปทำงานงานประจำ อาจไม่สะดวกด้านการเดินทางสักเล็กน้อย จึงเป็นอีกหนึ่งข้อด้วยของบ้านจัดสรรที่คุณไม่สามารถควบคุมทำเลที่ตั้งแบบอิสระได้
-
มีข้อจำกัดด้านการต่อเติมบ้าน
แน่นอนว่าการซื้อบ้านจัดสรรนั้นคุณไม่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของบ้านได้เนื่องจากหลายโครงการได้ทำการออกแบบและสร้างไว้เสร็จสรรพแล้ว แต่อีกหนึ่งสิ่งที่บ้านจัดสรรไม่สามารถทำได้นั่นก็คือไม่สามารถทำการต่อเติมบ้านเพิ่มเติมได้
ปัจจุบันบ้านจัดสรรจำนวนมากใช้วิธีการสร้างแบบพรีคาสท์ (PreCast) หรือขึ้นรูปซึเมนต์เอาไว้ก่อนแล้วนำมาประกอบให้เป็นบ้านทำให้ยากสำหรับการต่อเติม เนื่องจากอาจฉุดให้โครงสร้างส่วนอื่นมีการทรุดตามลงไปด้วย ทางโครงการจึงต้องมีกฎที่ห้ามทำการต่อเติมบ้านเพิ่มเติมนั่นเอง
หากในอนาคตคุณต้องการขยับขยายพื้นที่บ้านเพื่อรองรับครอบครัวที่มีขนาดใหญ่ขึ้น นี่อาจเป็นจุดด้อยสำคัญสำหรับการซื้อบ้านจัดสรรเลยทีเดียว
สรุป
เท่านี้ทุกคนก็น่าจะได้ทราบกันแล้วว่าบ้านจัดสรรนั้นมีข้อดีและข้อควรคำนึงใดๆ บ้าง แต่อย่าลืมว่าอีกหนึ่งสิ่งสำคัญสำหรับการซื้อบ้านนั้นก็คือสินเชื่อนั่นเอง
หากคุณกำลังมองหาธนาคารเพื่อติดต่อด้านสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย แต่ยังไม่มีข้อมูล หรือยังไม่ได้ทำการตัดสินใจ สามารถศึกษารายละเอียดสินเชื่อของธนาคารได้ที่นี่
ธอส. มีผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ที่คอยให้คำแนะนำ พร้อมเปรียบเทียบและหยิบยื่นข้อเสนอด้านสินเชื่อที่เหมาะสมที่สุดให้กับคุณ ติดต่อเราได้ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ หรือ
ติดต่อศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์: 02 645 9000
ส่งข้อมูลติดต่อของคุณผ่านเว็บไซต์ได้ ที่นี่