ทาวน์เฮ้าส์มือสองเป็นหนึ่งทางเลือกสำหรับคนอยากมีบ้านแต่มีงบประมาณจำกัด เพราะราคาของทาวน์เฮ้าส์มือสองนั้นเริ่มต้นตั้งแต่ไม่ถึง 1,000,000 บาท ทำให้ไม่ว่าใครก็สามารถมีบ้านเป็นของตัวเองได้ ทั้งนี้ การเลือกซื้อทาวน์เฮ้าส์มือสองที่ดี มีคุณภาพ และเหมาะกับการอยู่อาศัยนั้น จำเป็นต้องเลือกดูอย่างละเอียด ตั้งแต่ทำเล โครงสร้างอาคาร ตัวบ้าน พื้นที่ใช้สอย การเดินทาง รวมทั้งบรรยากาศในหมู่บ้านและเพื่อนบ้าน เพื่อที่จะมีบ้านที่สุขใจ โดยแต่ละสิ่งที่ต้องดูนั้นก็มีเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณเลือกทาวน์เฮ้าส์คุณภาพดีได้
1. ทำเลและสิ่งแวดล้อม
ไม่ว่าจะเลือกบ้านเดี่ยว คอนโด หรือทาวน์เฮ้าส์ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การเลือกทำเลที่เหมาะสม เพราะทำเลที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณภาพความเป็นอยู่ในชีวิตดีขึ้น และยังรวมถึงมูลค่าของบ้านที่อาจเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งเกณฑ์ในการเลือกดูทำเลของทาวน์เฮ้าส์ที่ดีนั้น ได้แก่
- สถานที่โดยรอบ เมื่อจะเลือกที่อยู่อาศัย คุณควรดูสถานที่โดยรอบให้ดีว่าทำเลของบ้านอยู่ใกล้สถานที่ใดบ้าง และคาดการณ์ดูว่าสถานที่เหล่านั้นจะส่งผลอะไรต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของคุณ หรือคุณต้องการอะไร เช่น ใกล้ห้างสรรพสินค้า ตลาด ที่ทำงาน ฯลฯ นอกจากนี้ คุณควรดูว่าอยู่ใกล้สถานที่ที่ควรหลีกเลี่ยงหรือไม่ เช่น บ่อขยะหรือที่ทิ้งขยะชุมชน ฟาร์มสัตว์ โรงงาน เป็นต้น
ยกตัวอย่างเช่น หากคุณจะซื้อทาวน์เฮ้าส์มือสองสำหรับให้ครอบครัวอาศัยอยู่ ได้แก่ คุณ สามี/ภรรยา และลูก คุณอาจเลือกสถานที่ที่ไม่ไกลจากที่ทำงานและโรงเรียนมากนัก ทั้งนี้ คุณควรประเมินให้ดีว่าระยะใดที่เหมาะสม เพราะหากอยู่ใกล้โรงเรียนมาก อาจประสบกับปัญหารถติด เป็นต้น
- ทิศทางแดดและลม ทิศทางแดดและลมเป็นเรื่องที่สำคัญมาก หากอยากได้บ้านที่อยู่แล้วไม่ร้อน คุณควรเลือกบ้านที่ “รับลม หลบแดด” ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อทาวน์เฮ้าส์มือสอง คุณควรไปดูบ้านจริงเพื่อดูว่าบ้านหันไปทางทิศทางใด ลมพัดมาทางไหน และได้หอบกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์มาหรือไม่ และดูว่าแดดส่องตัวบ้านด้านใด เวลาใด ซึ่งทิศทางบ้านที่แนะนำ คือ บ้านควรหันหน้าไปทางทิศเหนือหรือทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพราะเป็นทิศที่ลมพัดและแดดไม่ส่องหน้าบ้าน
- สภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ อีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม คือ การตรวจสอบพื้นที่ทางภูมิศาสตร์โดยรอบว่าจะส่งผลอะไรต่อความเป็นอยู่หรือไม่ เช่น พื้นที่ลุ่มต่ำ ใกล้ลำคลองที่มีโอกาสน้ำท่วมสูง หรือใกล้บ่อน้ำเน่าเหม็น เป็นต้น คุณสามารถสอบถามคนในละแวกนั้นดูได้ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อ
2. โครงสร้างอาคารและตัวบ้าน
เนื่องจากเป็นการเลือกทาวน์เฮ้าส์มือสองที่อาจมีอายุหลายปีแล้ว แน่นอนว่าตัวบ้านต้องเสื่อมสภาพลง นอกจากนี้ ผู้ขายบางรายอาจขายบ้านเพราะรู้ว่าบ้านมีปัญหาบางอย่าง ดังนั้น ก่อนที่คุณจะเลือกซื้อจึงมีสิ่งที่ควรตรวจสอบให้ดี ดังนี้
- โครงสร้างและแผนผังก่อสร้าง คุณควรหาผู้ที่มีความรู้ด้านการก่อสร้างเพื่อไปดูโครงสร้างอาคารว่ายังมีสภาพดีอยู่หรือไม่ ไม่มีการทรุดตัวของอาคาร หรือรอยแตกร้าวบริเวณโครงสร้างหลัก ทั้งนี้ ผู้ขายบางคนอาจต้องการรีบปล่อยบ้านเพราะอาจรู้ว่าการก่อสร้างไม่ถูกต้องตามกฎหมายตามแผนผังที่ยื่นกับกรมที่ดิน คุณสามารถตรวจสอบแผนผังก่อสร้างจากสำนักงานที่ดินจังหวัดก่อนได้ว่าเป็นไปตามโครงสร้างจริงของบ้านหรือไม่
- สภาพตัวบ้านโดยทั่วไป การจะซื้อบ้านมือสองควรพิจารณาสภาพของตัวบ้านไปด้วย เพราะจำเป็นต่อการประเมินและต่อรองราคา โดยคุณควรดูสภาพบ้านที่จะซื้อนั้นว่ามีส่วนใดที่ต้องปรับปรุง ซ่อมแซม หรือตกแต่งบ้าง และประเมินเป็นจำนวนเงินรวมกับราคาบ้านเพื่อพิจารณาตัดสินใจซื้อ
- วัสดุก่อสร้าง วัสดุก่อสร้างเป็นอีกสิ่งที่ต้องใส่ใจ ไม่ใช่เพื่อดูแค่ความแข็งแรงคงทนเท่านั้น แต่การเลือกซื้อทาวน์เฮ้าส์นั้น ควรพิจารณาวัสดุก่อสร้างที่สามารถกันเสียงหรือลดความดังเสียงจากภายนอกได้ด้วย เพราะทาวน์เฮ้าส์คือชุมชนที่มีบ้านติดๆ กัน จึงอาจได้ยินเสียงจากบ้านต่างๆ ได้
- ระบบสาธารณูปโภค ข้อนี้คล้ายกับการตรวจสอบสภาพบ้าน เพราะบ้านที่เสื่อมสภาพอาจมีส่วนที่ชำรุด ซึ่งอาจหมายถึงระบบน้ำ-ไฟฟ้าของบ้าน ก่อนที่จะเลือกซื้อทาวเฮ้าส์มือสองจึงควรทดสอบน้ำและไฟฟ้าก่อน
- อื่นๆ เช่น เป็นบ้านที่อยู่หัวมุมเพราะมักจะได้พื้นที่มากกว่าบ้านหลังอื่น และมีบ้านที่ติดกันเพียงหนึ่งหลัง หรือบ้านที่หน้ากว้างพอสำหรับจอดรถ 2 คัน ทำกิจกรรม หรือทำสวนได้ ฯลฯ
3. พื้นที่ใช้สอยที่เหมาะกับความเป็นอยู่
ทาวน์เฮ้าส์คือบ้านที่สร้างในพื้นที่ที่จำกัด เพราะเจ้าของโครงการจะจัดสรรและบริหารพื้นที่ให้คุ้มค่าที่สุด นั่นหมายความว่า พื้นที่ต่อบ้านหนึ่งหลังอาจมีไม่มากเท่าบ้านเดี่ยวในราคาใกล้กัน คุณจึงควรดูว่าการออกแบบบ้านนั้นจัดสรรพื้นที่ได้ดีหรือไม่ มีห้องนอนและห้องน้ำและพื้นที่ใช้สอยในแต่ละส่วนเพียงพอสำหรับสมาชิกในบ้านหรือไม่ เช่น พื้นที่นอกตัวบ้านสำหรับสัตว์เลี้ยง พื้นที่ทำครัว พื้นที่ซักตาก พื้นที่จอดรถ เป็นต้น
ทั้งนี้ หากคุณมีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมบ้านก่อนตกลงซื้อ จะช่วยให้คุณรู้ว่าบ้านหลังดังกล่าวให้ความรู้สึกอย่างไร เพราะการออกแบบของบ้านแต่ละหลังอาจให้ความรู้สึกที่อึดอัดหรือโปร่งโล่งคนละแบบกัน เช่น มีเพดานที่สูงพอดีช่วยให้มีอากาศภายในบ้านมาก ตำแหน่งหน้าต่าง วิธีการกั้นห้อง หรือการ Build in เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
4. การเดินทางและการคมนาคม
หนึ่งในเหตุผลที่หลายคนเลือกซื้อทาวน์เฮ้าส์ก็เพราะทาวน์เฮ้าส์มักอยู่ใกล้เมืองมากกว่าบ้านเดี่ยวหรือบ้านมือหนึ่งในราคาใกล้เคียงกัน เพราะในปัจจุบันที่การจราจรแออัด หลายคนต้องใช้เวลาในการเดินทางไปทำงานหรือส่งลูกเข้าเรียนมาก รวมทั้ง ต้องเสียค่าน้ำมันรถซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงหลายพันบาทต่อเดือนได้ การเลือกที่อยู่อาศัยจึงนำการเดินทางมาเป็นปัจจัยในการเลือกบ้านด้วย ซึ่งสิ่งที่มักจะดูกันก่อน เช่น
- ถนนกว้าง เพื่อให้การสัญจรสะดวก ขับรถง่ายขึ้น
- มีทางเข้าออกหลายทาง เพราะทาวน์เฮ้าส์บางโครงการมีขนาดใหญ่ การมีทางเข้า-ออกหลายทางจะช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับลูกบ้านที่ต้องการเดินทางถนนหลักคนละเส้น
- ไม่ไกลจากถนนใหญ่หรือปากซอย สำหรับคนที่เดินทางเข้าบ้านด้วยการเดิน หรือการออกมาต่อรถสาธารณะที่ถนนเส้นหลัก
- มีรถสาธารณะผ่าน สำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัวให้เดินทางได้สะดวก
ทั้งนี้ ยังอาจดูว่าถนนเส้นที่ต้องใช้เดินทางจากตัวบ้านไปที่ทำงานนั้นมักมีสภาพการจราจรเป็นอย่างไร ใกล้โรงเรียนที่อาจทำให้รถติดหรือไม่ เพื่อการเดินทางที่ง่ายและสะดวก
5. ความน่าเชื่อถือของโครงการและเพื่อนบ้าน
ข้อสุดท้ายถือเป็นเคล็ดลับสำหรับการเลือกทาวน์เฮ้าส์ที่หลายคนอาจมองข้ามไป นั่นคือ การดูความน่าเชื่อถือของโครงการและการทำความรู้จักเพื่อนบ้าน คนในหมู่บ้าน หรือคนในละแวกนั้น
การเลือกทาวน์เฮ้าส์จากโครงการที่มีประสบการณ์ มีผลงานที่ดี มีความน่าเชื่อถือ นอกจากชื่อเสียงของโครงการจะสามารถรับประกันคุณภาพและระบบการจัดการได้ระดับหนึ่งแล้ว ความน่าเชื่อถือของโครงการยังมีผลต่อความยากง่ายของการขอสินเชื่อบ้านอีกด้วย เพราะหากเป็นโครงการที่มีคุณภาพ อยู่ในทำเลที่มีคนต้องการสูง ธนาคารจะมั่นใจว่าหากผู้กู้ไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ สินทรัพย์ก็ยังมีมูลค่าสามารถขายทอดตลาดได้ ทำให้ธนาคารไม่ขาดทุน
สำหรับการรู้จักเพื่อนบ้านก็เป็นอีกสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะกับทาวน์เฮ้าส์ที่มีลักษณะเป็นชุมชน สมาชิกในหมู่บ้านก็คือสังคมที่คุณต้องไปอยู่อาศัยด้วย ดังนั้น หากคุณต้องการสังคมแบบใด ลองสังเกตว่าคนที่อยู่ในหมู่บ้านเป็นอย่างไร หรือตรวจสอบดูว่าเพื่อนบ้านที่ติดกับบ้านที่จะซื้อเป็นใครหรือมีพฤติกรรมอะไรที่ควรกังวลหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยและบรรยากาศความเป็นอยู่ที่ดีของคุณ
สรุป
ก่อนจะซื้อทาวน์เฮ้าส์มือสอง มีปัจจัยหลายอย่างที่ควรนำมาพิจารณาเพื่อเลือกซื้อเป็นที่อยู่อาศัย ตั้งแต่โครงสร้างอาคาร สภาพตัวบ้าน สิ่งแวดล้อมอื่นๆ ที่ล้วนส่งผลต่อความเป็นอยู่และวิถีชีวิต ทั้งนี้ เมื่อจะเลือกซื้อบ้านก็ควรปรึกษาสมาชิกคนอื่นๆ ที่จะอยู่อาศัยด้วย ว่าเขามีความต้องการอะไร หรืออะไรที่จำเป็นสำหรับสมาชิกแต่ละคน เพื่อความสุขของทุกคนในบ้าน