การตัดสินใจว่าจะเช่าหรือซื้อบ้าน เป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลต่อชีวิตในระยะยาว คำถามนี้ไม่มีคำตอบตายตัวว่าแบบไหนดีกว่ากัน เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งสถานะการเงิน ไลฟ์สไตล์ และเป้าหมายในอนาคตของแต่ละคน บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจข้อดีของทั้งเช่าบ้าน และซื้อบ้าน เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ว่าแบบไหนที่เหมาะกับคุณมากที่สุด และอาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจซื้อบ้านปล่อยเช่าเป็นการลงทุนอีกด้วย
ทำไมการเช่าบ้านถึงได้รับความนิยมในยุคนี้
เช่าบ้าน VS ซื้อบ้าน เลือกแบบไหนดี? |
การตัดสินใจว่าจะเช่าหรือซื้อบ้าน เป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลต่อชีวิตในระยะยาว ทั้งสองทางเลือกมีข้อดีและข้อควรพิจารณาแตกต่างกันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งสถานะการเงิน ไลฟ์สไตล์ และเป้าหมายในอนาคตของแต่ละคน |
ข้อดีของการเช่าบ้าน |
ไม่มีข้อผูกมัดระยะยาว ยืดหยุ่นสูงไม่มีค่าใช้จ่ายที่บานปลาย (ซ่อมแซม, ภาษี)เลือกสภาพแวดล้อมที่ต้องการได้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงบ่อยเริ่มต้นใช้เงินน้อยกว่า ไม่ต้องมีเงินก้อนใหญ่ |
ข้อดีของการซื้อบ้าน |
มูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา (สร้างความมั่งคั่ง)เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเมื่อมีปัญหาการเงินรีโนเวทได้ตามที่ต้องการ ปรับแต่งอิสระเพิ่มความมั่นคงทางจิตใจเป็นมรดกส่งต่อให้ลูกหลานได้ |

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราเห็นกระแสการเช่าหรือซื้อบ้านที่เปลี่ยนไป โดยคนรุ่นใหม่มักเลือกที่จะเช่ามากกว่าซื้อ เพราะมีความยืดหยุ่นมากกว่าและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แม้ว่าในอนาคตบางคนอาจวางแผนซื้อบ้านปล่อยเช่า เพื่อเป็นรายได้เสริม มาดูกันว่าเพราะเหตุใดการเช่าบ้านถึงได้รับความนิยมในยุคนี้
ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป
คนรุ่นใหม่อายุ 20-30 ปี มีรูปแบบการใช้ชีวิตที่ต่างจากคนรุ่นก่อน พวกเขามักเปลี่ยนงานบ่อย ต้องการความอิสระและความคล่องตัวสูง บางคนอาจได้โอกาสไปทำงานต่างประเทศ หรือต้องย้ายที่ทำงานบ่อย ๆ การเช่าบ้าน จึงตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้ดีกว่า เพราะไม่ผูกมัดระยะยาวและเปลี่ยนที่อยู่ได้ง่าย
ผลกระทบจากเศรษฐกิจ
ปัจจัยสำคัญอีกหนึ่งอย่างที่ทำให้คนหันมาเช่าบ้านมากขึ้นคือสภาพเศรษฐกิจ คนรุ่นใหม่มีฐานเงินเดือนใกล้เคียงกับ 10 ปีก่อน แต่ค่าครองชีพกลับสูงขึ้นมาก นอกจากนี้ ราคาซื้อบ้านก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธนาคารมีความเข้มงวดในการปล่อย สินเชื่อบ้าน มากขึ้น ทำให้หลายคนเข้าไม่ถึงการซื้อบ้านแม้ว่าจะต้องการก็ตาม
ข้อดีของการเช่าบ้าน
การเช่าบ้านมีข้อดีหลายอย่างที่อาจทำให้เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับบางคน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นและไม่ต้องการภาระผูกพันทางการเงินในระยะยาว
1. ไม่มีข้อผูกมัดระยะยาว
การเช่าบ้านให้ความยืดหยุ่นมากกว่า เพราะไม่ต้องผูกมัดกับภาระหนี้ระยะยาว 20-30 ปีเหมือนการซื้อบ้าน สัญญาเช่ามักเป็นแบบปีต่อปี หากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เช่น ตกงาน หรือมีภาระทางการเงินกะทันหัน คุณสามารถปรับเปลี่ยนแผนได้ง่ายกว่า โดยอาจย้ายไปเช่าบ้านที่มีค่าเช่าถูกลงเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย
2. ไม่มีค่าใช้จ่ายที่บานปลาย
การซื้อบ้านมีค่าใช้จ่ายแฝงมากมายที่หลายคนอาจไม่ได้คำนึงถึง นอกจากเงินดาวน์และค่าผ่อนรายเดือนแล้ว ยังมีค่าจดจำนอง ค่าโอน ค่าส่วนกลาง ค่าประกันภัย และค่าบำรุงรักษาต่าง ๆ รวมถึงค่าตกแต่งบ้านที่อาจสูงถึง 10-20% ของราคาบ้าน การเช่าบ้านช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้ เพราะส่วนใหญ่จะมีเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าให้พร้อมอยู่แล้ว
3. เลือกสภาพแวดล้อมที่ต้องการได้
ข้อดีอีกหนึ่งอย่างของการเช่าบ้าน คือความอิสระในการเลือกสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย หากเจอปัญหาเพื่อนบ้านที่ไม่น่ารัก หรือพบว่าโครงการมีปัญหาทางโครงสร้าง คุณสามารถย้ายออกเมื่อหมดสัญญาเช่าได้ทันที ไม่ต้องทนอยู่กับปัญหาเป็นเวลานานหรือเสียเวลาขายบ้านที่อาจใช้เวลานานและยุ่งยาก
แนวโน้มการซื้อบ้านในยุคนี้เป็นอย่างไร
แม้ว่าการเช่าบ้านจะได้รับความนิยมมากขึ้น แต่การซื้อบ้านก็ยังเป็นเป้าหมายสำคัญของคนไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีความมั่นคงทางการเงินและต้องการสร้างความมั่นคงในระยะยาว แนวโน้มการซื้อบ้านในปัจจุบันมุ่งเน้นไปที่บ้านที่มีคุณภาพและตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เพื่อเป็นทั้งที่อยู่อาศัยและการลงทุนในระยะยาว นอกจากนี้ การซื้อบ้านปล่อยเช่าก็เป็นอีกหนึ่งแนวโน้มที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างรายได้จากอสังหาริมทรัพย์
ข้อดีของการซื้อบ้าน
การซื้อบ้านมีข้อดีหลายอย่างเช่นกันที่ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่พร้อมรับภาระทางการเงินระยะยาวและต้องการความมั่นคงในอนาคต ทำให้หลายคนยังคงเลือกที่จะซื้อบ้านมากกว่าเช่าบ้าน
1. มูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา
บ้านและที่ดินเป็นสินทรัพย์ที่มักมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา โดยเฉพาะที่ตั้งอยู่ในทำเลดี การซื้อบ้านจึงเป็นการลงทุนที่อาจให้ผลตอบแทนสูงในระยะยาว เมื่อเปรียบเทียบกับการเช่าบ้านที่เงินค่าเช่าจะหายไปโดยไม่ได้สร้างมูลค่าใด ๆ กลับมา เมื่อผ่อนหมด บ้านจะกลายเป็นสินทรัพย์มีค่าที่สามารถส่งต่อให้ลูกหลานได้
2. เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเมื่อมีปัญหาการเงิน
การมีบ้านเป็นของตัวเองมีข้อดีที่หลายคนมองข้าม นั่นคือสามารถนำมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อขอ สินเชื่อบ้าน ใหม่ได้ เมื่อต้องการเงินด่วนหรือมีภาระทางการเงินกะทันหัน แม้จะยังผ่อนไม่หมดก็สามารถรีไฟแนนซ์กู้เพิ่มได้ ซึ่งมีดอกเบี้ยต่ำกว่าบัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคลมาก บางคนใช้วิธีนี้เพื่อนำเงินไปลงทุนสร้างรายได้เพิ่ม
3. รีโนเวทได้ตามที่ต้องการ
เมื่อซื้อบ้านเป็นของตัวเอง คุณมีอิสระเต็มที่ในการตกแต่ง ต่อเติม หรือรีโนเวทบ้านตามใจชอบ ไม่ต้องขออนุญาตใครเหมือนการเช่าบ้านที่มักมีข้อจำกัดในเรื่องการเจาะผนัง ทาสี หรือเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง การปรับเปลี่ยนบ้านให้ตรงกับความต้องการและรสนิยมส่วนตัวเป็นความสุขอย่างหนึ่งของการเป็นเจ้าของบ้าน
4. เพิ่มความมั่นคงทางจิตใจ
ข้อดีที่สำคัญอีกข้อของการซื้อบ้าน คือความรู้สึกมั่นคงและภาคภูมิใจในการมีบ้านเป็นของตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องของความรู้สึกที่แตกต่างกันในแต่ละคน บางคนรู้สึกว่าการมีบ้านเป็นของตัวเองคือความสำเร็จในชีวิต และเป็นหลักประกันว่าจะมีที่อยู่อาศัยไปตลอดโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเช่าที่อาจเพิ่มขึ้นหรือเจ้าของบ้านไม่ต่อสัญญา
เปรียบเทียบ เช่าบ้าน vs ซื้อบ้าน ค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมในปีแรก

เมื่อตัดสินใจว่าจะเช่าหรือซื้อบ้าน สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาคือค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมไว้ โดยเฉพาะในปีแรกที่มักมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าปกติจากค่าแรกเข้าและค่าตกแต่งต่าง ๆ
ค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมสำหรับปีแรกของการเช่า
การเช่าบ้านมีค่าใช้จ่ายแรกเข้าที่ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับการซื้อบ้าน ค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ที่ต้องเตรียมมีดังนี้
- ค่ามัดจำ (มักเป็น 2 เดือนของค่าเช่า)
- ค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน
- ค่าเช่ารายเดือน (ตลอดทั้งปี)
- ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าอินเทอร์เน็ต
- ค่าเฟอร์นิเจอร์หรืออุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติม (ถ้ามี)
โดยเฉลี่ยแล้ว ค่าใช้จ่ายปีแรกของการเช่าบ้านอาจอยู่ที่ประมาณ 1.5-2 แสนบาท ขึ้นอยู่กับทำเลและราคาค่าเช่า
ค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมสำหรับปีแรกของการซื้อ
การซื้อบ้านมีค่าใช้จ่ายแรกเข้าที่สูงกว่าการเช่ามาก ค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ที่ต้องเตรียมมีดังนี้
- เงินจองและเงินทำสัญญา
- เงินดาวน์ (มักอยู่ที่ 10-20% ของราคาบ้าน)
- ค่าจดจำนอง (ประมาณ 1% ของวงเงินกู้)
- ค่าโอนกรรมสิทธิ์ (ประมาณ 1-2% ของราคาประเมิน)
- ค่าส่วนกลางล่วงหน้า (มักเก็บล่วงหน้า 1-2 ปี)
- ค่ากองทุนส่วนกลาง
- ค่าตกแต่งภายในและเฟอร์นิเจอร์ (ประมาณ 10-20% ของราคาบ้าน)
- ค่าผ่อนรายเดือน (ตลอดทั้งปี)
- ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าอินเทอร์เน็ต
โดยเฉลี่ยแล้ว ค่าใช้จ่ายปีแรกของการซื้อบ้าน หรือคอนโดราคา 2-3 ล้านบาทอาจสูงถึง 4-5 แสนบาท ไม่รวมเงินดาวน์
สรุปเช่าหรือซื้อบ้าน เลือกแบบไหนดี

การตัดสินใจว่าจะเช่าหรือซื้อบ้านขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งสถานะการเงิน ไลฟ์สไตล์ และเป้าหมายในอนาคตของแต่ละคน ไม่มีคำตอบตายตัวว่าแบบไหนดีกว่ากัน
การเช่าบ้านเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่น ไม่ต้องการภาระผูกพันทางการเงินระยะยาว หรือยังไม่แน่ใจว่าจะอยู่ในพื้นที่นั้นนานแค่ไหน ส่วนการซื้อบ้านเหมาะกับผู้ที่มีความมั่นคงทางการเงิน ต้องการความมั่นคงในระยะยาว และพร้อมที่จะอยู่ในพื้นที่นั้นเป็นเวลานาน
หากคุณกำลังวางแผนซื้อบ้านเป็นของตัวเอง ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) หรือ G H Bank พร้อมให้คำปรึกษาและมอบบริการสินเชื่อบ้าน ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยทุกกลุ่ม ด้วยพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” และวิสัยทัศน์ “ธนาคารที่ดีที่สุดสำหรับการมีบ้าน” ธอส. มุ่งมั่นช่วยให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองอย่างยั่งยืน
สนใจขอสินเชื่อบ้านจาก ธอส. สามารถทำการกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำด้านสินเชื่อ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่
หรือติดต่อได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center : 0-2645-9000