ในปัจจุบันนี้คอนโดมิเนียมนับว่าเป็นที่อยู่อาศัยยอดนิยมสำหรับคนเมือง เนื่องจากมีทำเลที่สะดวกและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แต่อาจจะต้องแลกมาด้วยราคาสูงที่อาจทำให้หลายคนต้องแบกรับภาระการผ่อนชำระเป็นเวลานาน โดยมีหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณสามารถผ่อนคอนโดให้หมดได้เร็วและประหยัดเงินได้มากขึ้น นั่นก็คือการรีไฟแนนซ์คอนโด วันนี้เราจะมาพาทำความรู้จักกับเทคนิคนี้กันอย่างละเอียด พร้อมเผยทุกขั้นตอนสำคัญที่คุณต้องรู้
รีไฟแนนซ์คอนโดคืออะไร
รีไฟแนนซ์คอนโด คือ การย้ายสินเชื่อคอนโดจากธนาคารเดิมไปยังธนาคารใหม่ที่ให้เงื่อนไขดีกว่า โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดภาระดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระ การรีไฟแนนซ์คอนโดเป็นวิธีที่ช่วยให้ผู้กู้สามารถปรับโครงสร้างหนี้ของตนเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเมื่อคุณรีไฟแนนซ์คอนโด ทางธนาคารใหม่จะชำระยอดหนี้คงเหลือทั้งหมดให้กับธนาคารเดิม และคุณจะเริ่มผ่อนชำระกับธนาคารใหม่ภายใต้เงื่อนไขใหม่ที่ดีกว่า เช่น อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง ระยะเวลาผ่อนชำระที่ยืดหยุ่นขึ้น หรือเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อคุณ
การรีไฟแนนซ์คอนโดมีข้อดีอย่างไร
การรีไฟแนนซ์คอนโดมีข้อดีมากมายและเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังผ่อนคอนโดอยู่ ถึงแม้ว่าการตัดสินใจรีไฟแนนซ์จะต้องพิจารณาหลายปัจจัย แต่ประโยชน์ที่ได้รับส่งผลดีต่อสถานะทางการเงินของคุณในระยะยาวได้อย่างแน่นอน ลองมาดูกันว่าข้อดีของการรีไฟแนนซ์คอนโดมีอะไรบ้าง และแต่ละข้อส่งผลดีต่อสถานะทางการเงินของคุณได้อย่างไร
1. ปลดหนี้ได้เร็วขึ้น
การรีไฟแนนซ์คอนโดช่วยให้คุณปลดหนี้ได้เร็วขึ้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงทำให้เงินที่ผ่อนชำระในแต่ละงวดถูกนำไปตัดเงินต้นมากขึ้น ส่งผลให้ยอดหนี้ลดลงเร็วกว่าเดิม ยกตัวอย่างเช่น หากคุณมียอดหนี้คงเหลือ 2 ล้านบาท และเดิมผ่อนด้วยอัตราดอกเบี้ย 6% ต่อปี เป็นเวลา 20 ปี แต่หลังจากรีไฟแนนซ์คุณได้อัตราดอกเบี้ยใหม่ที่ 4% ต่อปี โดยยังคงระยะเวลาผ่อนเท่าเดิม คุณจะสามารถประหยัดดอกเบี้ยได้มากถึง 400,000 บาทตลอดอายุสัญญา และปลดหนี้ได้เร็วขึ้นหากนำเงินที่ประหยัดได้ไปชำระเพิ่มเติม
2. จ่ายดอกเบี้ยลดลง
ข้อดีที่สำคัญที่สุดของการรีไฟแนนซ์คอนโดคือการลดอัตราดอกเบี้ย เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง จำนวนเงินที่ต้องจ่ายในส่วนของดอกเบี้ยก็จะลดลงตามไปด้วย ทำให้คุณประหยัดเงินในระยะยาวได้เป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น หากคุณมียอดหนี้คงเหลือ 3 ล้านบาท และเดิมผ่อนด้วยอัตราดอกเบี้ย 5.5% ต่อปี เป็นเวลา 25 ปี แต่สามารถรีไฟแนนซ์ได้อัตราดอกเบี้ยใหม่ที่ 3.5% ต่อปี คุณจะสามารถประหยัดดอกเบี้ยได้มากถึง 1.2 ล้านบาทตลอดอายุสัญญา
3. มีเครดิตบูโรที่ดี
การรีไฟแนนซ์คอนโดและการผ่อนชำระอย่างสม่ำเสมอจะช่วยสร้างประวัติเครดิตที่ดีให้กับคุณ เมื่อคุณสามารถปิดหนี้ได้เร็วขึ้นและมีประวัติการชำระเงินที่ดี คุณจะได้รับสถานะ ‘011: ชำระหนี้ครบจำนวน’ ในเครดิตบูโร ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการขอสินเชื่อในอนาคต เพราะธนาคารจะพิจารณาให้คุณเป็นลูกค้าชั้นดีและมีโอกาสได้รับอนุมัติสินเชื่อง่ายขึ้น รวมถึงอาจได้รับข้อเสนอที่ดีกว่าสำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น ๆ
ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์คอนโด
เรื่องของการรีไฟแนนซ์คอนโดอาจดูเป็นกระบวนการที่มีความซับซ้อน แต่ถ้าหากคุณเข้าใจถึงขั้นตอนต่าง ๆ ก็จะสามารถดำเนินการรีไฟแนนซ์ได้อย่างราบรื่น โดยขั้นตอนหลัก ๆ ในการรีไฟแนนซ์คอนโด ได้แก่
- วางแผนและตรวจสอบความพร้อม ตรวจสอบสัญญากู้เดิมว่าสามารถรีไฟแนนซ์ได้เมื่อไหร่ (โดยทั่วไปคือหลังผ่อนมาแล้ว 3 ปี) และตรวจสอบยอดหนี้คงเหลือกับธนาคารเดิม พร้อมประเมินสถานะทางการเงินของตนเอง
- ศึกษาและเปรียบเทียบข้อเสนอ รวบรวมข้อมูลโปรโมชันรีไฟแนนซ์จากธนาคารต่าง ๆ แล้วนำมาเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย เงื่อนไข และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เพื่อพิจารณาว่าธนาคารไหนให้ข้อเสนอที่เหมาะสมที่สุด
- เตรียมเอกสาร รวบรวมเอกสารที่จำเป็นทั้งหมด เช่น บัตรประชาชน สลิปเงินเดือน เอกสารแสดงรายได้ สำเนาโฉนดที่ดิน สัญญากู้เดิม ฯลฯ และตรวจสอบความถูกต้อง ความครบถ้วนของเอกสารทั้งหมด
- ยื่นคำขอรีไฟแนนซ์ ติดต่อธนาคารที่คุณเลือกและยื่นคำขอรีไฟแนนซ์พร้อมเอกสารประกอบ ทางธนาคารจะดำเนินการตรวจสอบเอกสารและประเมินคุณสมบัติของคุณ
- การประเมินหลักประกัน ธนาคารจะส่งผู้ประเมินมาตรวจสอบและประเมินมูลค่าคอนโดของคุณ โดยผลการประเมินจะมีผลต่อวงเงินสินเชื่อที่คุณจะได้รับ
- การอนุมัติสินเชื่อ ธนาคารจะแจ้งผลการพิจารณาและเงื่อนไขสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ หากคุณยอมรับเงื่อนไข ทางธนาคารจะดำเนินการต่อไป
- การทำสัญญาและจดจำนอง นัดหมายเพื่อทำสัญญากู้ใหม่และจดจำนองกับธนาคารใหม่ หลังจากนั้นจะดำเนินการไถ่ถอนจำนองจากธนาคารเดิม และจดทะเบียนจำนองกับธนาคารใหม่ที่สำนักงานที่ดิน
- การโอนเงิน ธนาคารใหม่จะโอนเงินไปชำระหนี้ให้กับธนาคารเดิม หลังจากนั้นคุณจะเริ่มผ่อนชำระกับธนาคารใหม่ตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงกันไว้
เอกสารที่ใช้ในการรีไฟแนนซ์คอนโด
การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้กระบวนการรีไฟแนนซ์คอนโดดำเนินไปอย่างราบรื่น โดยเอกสารที่ต้องใช้ในการรีไฟแนนซ์คอนโดสามารถแบ่งออกเป็นหลายหมวดหมู่ เริ่มต้นจากเอกสารแสดงข้อมูลส่วนบุคคล เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และหากมีการเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล ก็ต้องแนบสำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลด้วย นอกจากนี้ หากคุณสมรสแล้ว ควรเตรียมสำเนาทะเบียนสมรสไว้ด้วย หรือในกรณีที่หย่าร้าง ก็ต้องมีสำเนาใบหย่าเช่นกัน เอกสารเหล่านี้จะช่วยยืนยันตัวตนและสถานภาพของคุณให้กับธนาคาร
ต่อมาคือเอกสารแสดงรายได้ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามประเภทของอาชีพ สำหรับพนักงานประจำจะต้องเตรียมสลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3-6 เดือน หนังสือรับรองการทำงานจากนายจ้าง และ Statement บัญชีเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน เอกสารเหล่านี้จะแสดงให้เห็นถึงความสม่ำเสมอของรายได้และความมั่นคงในการทำงาน
สำหรับเจ้าของกิจการ เอกสารที่ต้องเตรียมจะมีความซับซ้อนมากขึ้น โดยจะต้องมีสำเนางบการเงินย้อนหลัง 2-3 ปี สำเนาทะเบียนการค้าหรือทะเบียนพาณิชย์ Statement บัญชีธุรกิจย้อนหลัง 6 เดือน และแบบยื่นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) ย้อนหลัง 3-6 เดือน เอกสารเหล่านี้จะช่วยให้ธนาคารประเมินความมั่นคงทางการเงินของธุรกิจคุณ
ส่วนผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์ จะต้องมีหลักฐานแสดงรายได้ เช่น สัญญาว่าจ้าง ใบเสร็จรับเงิน และ Statement บัญชีส่วนตัวย้อนหลัง 6 เดือน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังมีเอกสารเกี่ยวกับหลักประกัน ซึ่งในกรณีของคอนโดจะประกอบด้วยสำเนาโฉนดที่ดิน สัญญาซื้อขายคอนโด แผนผังห้องชุด และทะเบียนอาคารชุด เอกสารเหล่านี้จะช่วยให้ธนาคารประเมินมูลค่าของหลักประกันได้อย่างถูกต้อง ส่วนเอกสารเกี่ยวกับสินเชื่อเดิม จะต้องเตรียมสัญญากู้เงินฉบับเดิม ใบเสร็จการชำระเงินงวดล่าสุด และหนังสือแจ้งยอดหนี้คงเหลือจากธนาคารเดิม เอกสารเหล่านี้จะช่วยให้ธนาคารใหม่ทราบถึงภาระหนี้และประวัติการชำระเงินของคุณ
การขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์คอนโดเหมาะกับใคร
การรีไฟแนนซ์คอนโดอาจไม่ได้เหมาะและตอบโจทย์สำหรับทุกคน แต่สามารถเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่อยู่ในสถานการณ์ทางการเงินบางอย่าง ซึ่งควรคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน ดังนี้
- ผู้ที่ผ่อนคอนโดมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี โดยธนาคารมักกำหนดให้ผู้กู้ต้องผ่อนชำระกับธนาคารเดิมมาแล้วอย่างน้อย 3 ปีก่อนจึงจะสามารถรีไฟแนนซ์ได้
- ผู้ที่มีประวัติการผ่อนชำระที่ดี ธนาคารจะพิจารณาประวัติการชำระเงินของคุณ หากคุณมีประวัติการชำระเงินที่ดี ไม่มีประวัติผิดนัดชำระ จะมีโอกาสได้รับอนุมัติรีไฟแนนซ์มากขึ้น
- ผู้ที่มีรายได้เพิ่มขึ้นหรือมีความมั่นคงทางการเงินมากขึ้น หากรายได้ของคุณเพิ่มขึ้นหรือมีความมั่นคงทางการเงินมากขึ้นกว่าตอนที่ขอสินเชื่อครั้งแรก คุณอาจมีโอกาสได้รับข้อเสนอที่ดีกว่าเดิม
- ผู้ที่ต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายรายเดือน หากคุณต้องการลดยอดผ่อนรายเดือนเพื่อให้มีเงินเหลือสำหรับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ การรีไฟแนนซ์อาจเป็นทางเลือกที่ดี
- ผู้ที่ต้องการปลดหนี้เร็วขึ้น หากคุณมีความสามารถในการผ่อนชำระมากขึ้นและต้องการปลดหนี้เร็วขึ้น การรีไฟแนนซ์เพื่อลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยให้คุณชำระหนี้ได้เร็วขึ้น
- ผู้ที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดลดลงกว่าตอนที่กู้ครั้งแรก หากอัตราดอกเบี้ยในตลาดปัจจุบันต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยที่คุณกำลังจ่ายอยู่มาก การรีไฟแนนซ์อาจช่วยประหยัดเงินได้มาก
สรุปการรีไฟแนนซ์คอนโด
การรีไฟแนนซ์คอนโดเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่ต้องการลดภาระการผ่อนหรือประหยัดดอกเบี้ยในระยะยาว โดยมีข้อดีหลัก ๆ คือ การปลดหนี้ได้เร็วขึ้น และจ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจรีไฟแนนซ์คอนโดควรพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงสถานะทางการเงินของตนเอง เงื่อนไขของสินเชื่อใหม่ และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ผู้ที่สนใจควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด เปรียบเทียบข้อเสนอจากหลาย ๆ ธนาคาร และอาจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินเพื่อให้ได้ทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด
สำหรับใครที่กำลังต้องการขอสินเชื่อบ้าน ธนาคารอาคารสงเคราะห์มีสินเชื่อที่หลากหลาย เพื่อออกแบบมาให้เหมาะสมกับเงื่อนไขของทุกคน พร้อมเปิดกว้างให้กับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยหลากหลายกลุ่ม
หากคุณสนใจขอสินเชื่อบ้านจาก ธอส. สามารถทำการกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำด้านสินเชื่อ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่
หรือติตด่อได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center : 0-2645-9000