Passive Income กลายเป็นเทรนด์ที่มาแรงสำหรับผู้ที่มองหารายได้เพิ่มเติมนอกเหนือไปจากรายได้ตามปกติ โดยเฉพาะในกลุ่มของคนทำงานประจำที่ไม่มีเวลาเพื่อไปหารายได้เพิ่มเติม เพราะ Passive Income สามารถเกิดขึ้นได้โดยที่ควบคู่ไปกับการทำงานประจำดั้งเดิม ทำให้ Passive Income สามารถเป็นแหล่งรายได้แห่งที่สองที่ช่วยให้มีรายได้มากขึ้นจากที่มีอยู่เดิมได้อย่างไม่ยากนัก

Passive Income คืออะไร

ผู้คนทั่วไปมักเข้าใจผิดว่า Passive Income นั้นหมายถึงการสร้างรายได้โดยที่ไม่ต้องทำงาน แต่ที่จริงแล้ว วิธีการสร้างรายได้แบบ Passive Income นั้นหมายถึงการสร้างรายได้ขึ้นโดยที่คุณยังต้องทำงานอยู่ แต่หลังจากการทำงานครั้งแรก รายได้จะเข้ามาสู่ตัวคุณเรื่อยๆ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องทำงานในระดับเดิมอย่างต่อเนื่อง

Active and Passive Income ต่างกันอย่างไร

วิธีการสร้างรายได้ที่จะสามารถเรียกว่าเป็นวิธีการแบบ Passive Income จะต้องประกอบไปด้วยคุณสมบัติ 5 ประการ คือ

1. ต้องก่อให้เกิดรายได้อย่างสม่ำเสมอโดยไม่ต้องทำงานเพิ่มไปจากเดิม

วิธีการแบบ Passive Income เรียกร้องการทำงานแบบเต็มที่เพียงครั้งเดียว เพราะรายได้จะคงเข้ามาอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะทำงานน้อยลงกว่าเดิม

2. รายได้ต้องมาจากกระบวนการที่เป็นระบบ

เพื่อให้การสร้างรายได้ไม่จำเป็นต้องลงแรงด้วยตัวเอง วิธีการแบบ Passive Income จำเป็นที่จะต้องมีระบบที่เข้ามาสร้างรายได้แทนที่การทำงานของมนุษย์โดยตรง

3. กระบวนการสร้างรายได้เป็นไปโดยอัตโนมัติ

เพราะรายได้จากวิธีการแบบ Passive Income มาจากระบบที่เข้ามาแทนที่การทำงานของมนุษย์ วิธีการแบบ Passive Income จึงทำให้รายได้เข้ามาสู่คุณแบบอัตโนมัติ

4. รายได้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

ระบบการสร้างรายได้ที่เป็นไปโดยอัตโนมัติจะช่วยให้รายได้ที่มาจากวิธีการแบบ Passive Income เติบโตมากกว่าเดิมอย่างต่อเนื่อง

5. ไม่ถูกจำกัดโดยโอกาสในการสร้างรายได้

วิธีการแบบ Passive Income จะไม่ไปขัดขวางการสร้างรายได้รูปแบบอื่น ในขณะเดียวกัน วิธีการสร้างรายได้แบบอื่นจะไม่ทำให้วิธีการแบบ Passive Income ต้องสะดุดหยุดลงด้วยเช่นกัน

ดังนั้น หากจะสรุปความแตกต่างระหว่าง Active Income และ Passive Income โดยง่ายคือ ในขณะที่ Active Income คือรายรับที่ได้มาจากการแลกแรงงานหรือเวลา โดยที่เมื่อหยุดทำงานแล้วก็จะเสียรายรับไป ส่วน Passive Income คือรายรับที่ได้มาด้วยการแลกแรงงานหรือเวลาเช่นกัน แต่ผลงานที่ได้มาจากการแลกแรงงานยังสามารถทำให้เกิดรายได้ด้วยตัวเองอยู่

ดังนั้น ประโยชน์ของ Passive Income คือการที่คุณต้องทำงานอย่างเต็มที่เพียงครั้งเดียว แต่สามารถมีรายได้เข้ามาต่อเนื่องอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

Passive Income มีอะไรบ้าง

ตัวอย่างของวิธีการสร้างรายได้แบบ Passive Income ที่มนุษย์เงินเดือนอย่างคุณสามารถทำเพื่อเพิ่มพูนรายได้ให้กับตัวเอง เช่น

การลงทุนในสินทรัพย์

การลงทุนในสินทรัพย์ไม่ว่าจะเป็น หุ้น ตราสารหนี้ พันธบัตร กองทุนรวม สลากออมทรัพย์ หรือแม้แต่ทองคำนอกจากจะเป็นการเก็บออมเงินในรูปแบบหนึ่งแล้ว หากสินทรัพย์เหล่านี้สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอ ผลตอบแทนที่เกิดขึ้นก็สามารถนับว่าเป็น Passive Income ได้เช่นกัน
เหตุที่ผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์ถือเป็น Passive Income เพราะผลตอบแทนที่ได้เกิดจากการนำเงินต้นไปลงทุนโดยตรง ไม่ได้เกิดจากการที่คุณต้องคอยเฝ้าติดตามและลงทุนอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ผลตอบแทนที่ได้ยังสามารถเพิ่มพูนตนเองได้เรื่อยๆ ตามแนวคิดของ ‘เงินต่อเงิน’ ได้อีกด้วย

อย่างไรก็ดี การลงทุนในสินทรัพย์ที่ถือว่าเป็น Passive Income จำเป็นต้องให้ผลตอบแทนที่มากกว่าอัตราเงินเฟ้อในแต่ละปี เพราะอัตราเงินเฟ้อจะลดมูลค่าของผลตอบแทนที่ได้ลงเรื่อยๆ หากผลตอบแทนมีค่าเท่ากับหรือน้อยกว่าอัตราเงินเฟ้อ จะทำให้คุณจะไม่ได้รายได้เพิ่มจากการลงทุนแต่อย่างใด

การสร้างคอนเทนต์

งานอดิเรกอย่างการเขียนหนังสือหรือการถ่ายรูปก็สร้างรายได้ให้กับคุณได้ เพราะคอนเทนต์ที่ถูกสร้างขึ้นไม่ว่าจะเป็น ภาพถ่าย เพลง หนังสือ บล็อก คลิปวิดีโอหรือพอดแคสต์ สามารถใช้เป็นแหล่งรายได้ในรูปแบบ ของ Passive Income โดยคอนเทนต์เหล่านี้สามารถก่อให้เกิดผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอโดยที่คุณไม่ต้องลงแรงเพิ่มอีก

โดยคอนเทนต์สามารถสร้างรายได้จากสองทาง คือ รายได้จากการซื้อหรือเข้าชมคอนเทนต์โดยตรง เช่นการซื้อภาพถ่าย การซื้อหนังสือ หรือการชมคลิปวิดีโอ โดยทำผ่านเว็บไซต์อย่าง Amazon, Shutterstock, Medium, Blockdit หรือ Youtube ที่จะเป็นตัวกลางที่จะจ่ายรายได้ให้กับคุณอีกทอดหนึ่ง

รายได้อีกรูปแบบหนึ่งจากการสร้างคอนเทนต์คือรายได้จากสปอนเซอร์หรือการซื้อโฆษณา เช่น สปอนเซอร์ในพอดแคสต์ หรือการซื้อพื้นที่โฆษณาบนบล็อก ซึ่งผู้สร้างคอนเทนต์แทบจะไม่ต้องทำอะไรเพิ่มแม้แต่น้อย ถ้าคอนเทนต์ของคุณมีผู้ติดตามมาก รายได้ในส่วนนี้ก็ยิ่งจะเพิ่มพูนตามไปด้วย

การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

เพราะทุกคนต่างต้องการที่อยู่อาศัย อสังหาริมทรัพย์จึงเป็นแหล่งรายได้แบบ Passive Income ชั้นดีรูปแบบหนึ่ง โดยเกิดขึ้นในรูปแบบของค่าเช่าที่คุณสามารถเก็บเกี่ยวได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าคุณจะต้องลงทุนก้อนใหญ่ในระยะเริ่มต้น แต่ผลตอบแทนในระยะยาวก็ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุนมิใช่น้อย

หากคุณมีอสังหาริมทรัพย์เป็นของตัวเอง คุณสามารถทำได้ตั้งแต่แบ่งพื้นที่บางส่วนให้เช่า ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ทั้งชิ้น หรือหากคุณมีที่ดินเป็นของตนเอง คุณสามารถสร้างบ้านหรือสร้างอพาร์ทเมนต์เพื่อให้เช่าเป็นการเฉพาะได้ โดยคุณสามารถปรึกษาขอสินเชื่อ ธอส. ได้ที่นี่ หรือ สามารถศึกษารายละเอียดสินเชื่อผู้ประกอบการ ของ ธอส. ที่จะช่วยให้คุณสามารถเป็นเจ้างของอสังหาริมทรัพย์ในฝันได้อย่างใจคิด

แต่หากคุณไม่มีอสังหาริมทรัพย์เป็นของตนเอง เราขอแนะนำทรัพย์มือสองของธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่มีทั้ง บ้านเดี่ยว คอนโด ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดิน อาคารพาณิชย์ แฟลต มือสองที่ทำเลดี ทั่วประเทศ โดยทรัพย์มือสองของธนาคารอาคารสงเคราห์ ที่จะทำให้คุณได้อสังหาริมทรัพย์มือสองในราคาที่คุ้มค่าและถูกกว่าราคาตลาด และเมื่อคุณลงแรงปรับปรุงอีกเพียงเล็กน้อย คุณก็จะได้อสังหาริมทรัพย์ที่พร้อมสร้าง Passive Income ให้กับคุณในทันที

สรุป

เพราะวิธีการสร้างรายได้มีมากมายหลายรูปแบบ การสร้างรายได้ด้วยวิธีแบบ Passive Income ถือว่าเป็นหนึ่งหนทางที่ดีสำหรับการเพิ่มพูนรายได้นอกเหนือไปจากงานประจำ และด้วยการวางแผนที่ดี วิธีการสร้างรายได้แบบ Passive Income จะทำให้ท่านลงแรงเพียงครั้งเดียวแต่สามารถรับรายได้อย่างต่อเนื่อง เปรียบเสมือนการให้เงินทำงานด้วยตัวเอง

ซื้อทรัพย์สินรอการขายกับ ธอส. คุณจะได้บ้านที่ตอบโจทย์ในราคาพิเศษด้วยส่วนลดถึง 40% จากราคาปกติ พร้อมรับส่วนลดเพิ่มอีก 10% จากราคาที่ปิดประมูล 

สนใจสามารถดูทรัพย์จริงก่อนประมูลได้ทุกวันง่ายๆ หรือรับชมภาพทรัพย์ผ่าน Application: G H Bank Smart NPA หรือ www.ghbhomecenter.com

หากคุณไม่อยากพลาดโอกาสความคุ้มค่าในการซื้อบ้าน และขอสินเชื่อเพื่อบ้านกับ ธอส. ในปี 2566 นี้ สามารถกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำด้านสินเชื่อ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่

เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ที่คอยให้คำแนะนำ พร้อมเปรียบเทียบและหยิบยื่นข้อเสนอด้านสินเชื่อที่ดีที่สุดให้กับคุณ ติดต่อเราได้ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ

หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ www.ghbank.co.th 

ติดต่อ G H BANK Call Center : 02 645 9000