การกู้ร่วมซื้อบ้านคืออะไร มีเรื่องอะไรต้องรู้บ้างก่อนตัดสินใจ

/
/
การกู้ร่วมซื้อบ้านคืออะไร มีเรื่องอะไรต้องรู้บ้างก่อนตัดสินใจ

การกู้ร่วมซื้อบ้านเป็นตัวช่วยที่จะทำให้การอนุมัติสินเชื่อบ้านนี้เป็นไปได้ง่ายขึ้น มาดูกันว่า "การกู้ร่วมซื้อบ้าน" มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

กู้ร่วมซื้อบ้าน คือการที่บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปตกลงทำสัญญากู้เงินก้อนเดียวกันกับสถาบันการเงินเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย โดยผู้กู้ร่วมทุกคนจะมีสถานะเป็นลูกหนี้ร่วมกัน และต้องรับผิดชอบภาระหนี้สินตามเงื่อนไขของธนาคาร ซึ่งการกู้ร่วมนี้ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและโอกาสในการอนุมัติวงเงินกู้ที่สูงขึ้น

สามารถกู้ร่วมซื้อบ้านกับใครได้บ้าง

กู้ร่วมซื้อบ้านสามารถทำได้กับบุคคลที่มีความสัมพันธ์ในครอบครัวหรือมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด ซึ่งสถาบันการเงินส่วนใหญ่ยอมรับความสัมพันธ์หลายรูปแบบ แต่ทั้งนี้ผู้กู้ร่วมทุกคนต้องมีคุณสมบัติตามที่ธนาคารกำหนด และสามารถยืนยันความสัมพันธ์ได้ด้วยเอกสารหลักฐานที่น่าเชื่อถือ

คู่สมรส (สามี-ภรรยา)

คู่สมรสที่จดทะเบียนสมรสถือเป็นกลุ่มที่กู้ร่วมได้ง่ายที่สุด มีสิทธิพิเศษหลายด้าน เช่น ได้รับการพิจารณาวงเงินสูงขึ้น หรือมีอัตราดอกเบี้ยพิเศษจากบางธนาคาร

พ่อแม่-ลูก

ความสัมพันธ์ทางสายเลือดโดยตรงเป็นที่ยอมรับจากทุกสถาบันการเงิน ทำให้พ่อแม่สามารถกู้ร่วมกับลูกได้ โดยเฉพาะกรณีที่ลูกมีรายได้ไม่เพียงพอหรือมีประวัติเครดิตน้อย

พี่น้อง

พี่น้องร่วมบิดาหรือมารดาสามารถเป็นผู้กู้ร่วมได้ แม้จะใช้นามสกุลต่างกัน แต่ต้องมีหลักฐานยืนยันความสัมพันธ์ เช่น สูติบัตร หรือทะเบียนบ้านที่แสดงความเกี่ยวข้อง

ญาติสนิท

ญาติที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด เช่น ลุง ป้า น้า อา ก็สามารถเป็นผู้กู้ร่วมได้ แต่อาจมีเงื่อนไขเพิ่มเติมตามนโยบายของแต่ละธนาคาร ซึ่งต้องมีเอกสารยืนยันความสัมพันธ์อย่างชัดเจน

เพื่อนสนิท

บางธนาคารอนุญาตให้เพื่อนสนิทกู้ร่วมกันได้ โดยต้องแสดงหลักฐานความสัมพันธ์ เช่น การอาศัยอยู่ร่วมกัน หรือการทำธุรกิจร่วมกันมาระยะหนึ่ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละสถาบันการเงิน

คู่รัก LGBTQ+

ปัจจุบันหลายธนาคารเปิดโอกาสให้คู่รัก LGBTQ+ สามารถกู้ร่วมได้ โดยต้องแสดงหลักฐานการอยู่ร่วมกัน เช่น ทะเบียนบ้านเดียวกัน หรือมีทรัพย์สินร่วมกันที่สามารถพิสูจน์ได้

การกู้ร่วมสำหรับ LGBTQ+

ในปัจจุบัน หลายธนาคารในประเทศไทยเปิดโอกาสให้คู่รัก LGBTQ+ สามารถกู้ร่วมซื้อบ้านได้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความเท่าเทียมทางการเงินและที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ตาม อาจมีเงื่อนไขเพิ่มเติมที่แตกต่างจากคู่สมรสตามกฎหมาย เช่น

  • ต้องมีเอกสารรับรองการอยู่อาศัยร่วมกัน อาจต้องแสดงหลักฐานการอยู่ร่วมกันเป็นระยะเวลานาน เช่น ทะเบียนบ้านที่อยู่ร่วมกัน สัญญาเช่าที่พักร่วมกัน หรือเอกสารอื่น ๆ ที่แสดงการใช้ชีวิตร่วมกัน
  • อาจมีข้อจำกัดในวงเงินกู้ บางธนาคารอาจจำกัดวงเงินกู้สูงสุดที่ 90-95% ของราคาบ้าน ซึ่งอาจน้อยกว่าเงื่อนไขสำหรับคู่สมรสตามกฎหมาย
  • ต้องแสดงหลักฐานความสัมพันธ์และการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว อาจต้องมีพยานหรือเอกสารยืนยันความสัมพันธ์ระยะยาว
  • อาจต้องทำประกันชีวิตคู่ เพื่อเป็นหลักประกันในกรณีที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียชีวิต
  • อาจมีการพิจารณาเครดิตและรายได้อย่างเข้มงวดมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ

ทั้งนี้ เงื่อนไขอาจแตกต่างกันไปในแต่ละธนาคาร และอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามนโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นคู่รัก LGBTQ+ ที่สนใจกู้ร่วมซื้อบ้านควรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากธนาคารที่ต้องการยื่นกู้โดยตรง และอาจต้องเตรียมเอกสารหรือหลักฐานเพิ่มเติมมากกว่าคู่สมรสทั่วไป

ข้อดีของการกู้ร่วมซื้อบ้าน

กู้ร่วมซื้อบ้านมีข้อดีมากมายที่ช่วยให้การเป็นเจ้าของบ้านเป็นไปได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อที่สูงขึ้น เนื่องจากมีผู้รับผิดชอบร่วมกันมากกว่าหนึ่งคน นอกจากนี้ยังช่วยกระจายความเสี่ยงในกรณีที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งประสบปัญหาทางการเงิน อีกทั้งยังช่วยแบ่งเบาภาระการผ่อนชำระรายเดือน

เรื่องที่ควรรู้ก่อนกู้ร่วมซื้อบ้าน

ถึงแม้ว่าการกู้ร่วมกับบุคคลอื่นจะเป็นตัวเลือกที่ดีในการยื่นขอสินเชื่อ แต่การกู้ร่วมอาจไม่ได้มีแต่ข้อดีเสมอไป เพราะเมื่อไหร่ที่ตัดสินใจแล้วว่าจะกู้ร่วม ควรคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจมีผลตามมาได้ในอนาคต โดยเรื่องที่ควรรู้ก่อนกู้ร่วมซื้อบ้าน ได้แก่

การใส่ชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์

การกู้ร่วมซื้อบ้านมีทางเลือกในการใส่ชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ 2 แบบ ได้แก่

  • ใส่ชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์เพียงคนเดียว วิธีนี้อาจเหมาะสำหรับกรณีที่ผู้กู้ร่วมฝ่ายหนึ่งต้องการเป็นเจ้าของบ้านแต่เพียงผู้เดียว โดยอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้ช่วยผ่อนชำระ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้อาจมีความเสี่ยงสำหรับผู้ที่ไม่ได้มีชื่อในกรรมสิทธิ์ เนื่องจากไม่มีสิทธิ์ตามกฎหมายในทรัพย์สินนั้น
  • ใส่ชื่อผู้กู้ร่วมทุกคนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ วิธีนี้เป็นที่นิยมมากกว่า เนื่องจากมีความเป็นธรรมกับผู้กู้ร่วมทุกคน โดยสามารถระบุสัดส่วนการถือครองกรรมสิทธิ์ตามที่ตกลงกัน เช่น 50-50 หรือ 60-40 เป็นต้น

การตัดสินใจเรื่องการใส่ชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์มีผลต่อสิทธิและความรับผิดชอบในทรัพย์สิน รวมถึงสิทธิประโยชน์ทางภาษี ดังนั้นควรพิจารณาอย่างรอบคอบและตกลงกันให้ชัดเจนก่อนทำสัญญากู้ร่วม

การกู้ร่วมไม่ได้หมายความว่าต้องชำระหนี้เท่ากัน!

การกู้ร่วมไม่ได้หมายความว่าผู้กู้ทุกคนต้องรับผิดชอบชำระหนี้ในสัดส่วนที่เท่ากัน ผู้กู้สามารถตกลงกันเองว่าใครจะรับผิดชอบชำระในสัดส่วนเท่าใด แต่ในทางกฎหมาย ธนาคารมีสิทธิเรียกร้องให้ผู้กู้คนใดคนหนึ่งรับผิดชอบหนี้ทั้งหมดได้ หากมีการผิดนัดชำระ ดังนั้นควรมีข้อตกลงที่ชัดเจนระหว่างผู้กู้ร่วมทุกคน

หากผู้กู้ร่วมถึงแก่กรรม

ในกรณีที่ผู้กู้ร่วมคนหนึ่งเสียชีวิต จะเกิดผลกระทบต่อสัญญากู้ร่วมดังนี้

  • ผู้กู้ร่วมที่เหลือต้องรีบแจ้งธนาคารทันทีเพื่อดำเนินการเปลี่ยนแปลงสัญญา
  • ภาระหนี้ที่เหลือจะตกเป็นของผู้กู้ร่วมที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งอาจมีทางเลือกในการรับภาระหนี้ต่อทั้งหมดด้วยตนเอง ขอปรับโครงสร้างหนี้หรือรีไฟแนนซ์เพื่อลดภาระการผ่อนชำระ หรือให้ทายาทของผู้เสียชีวิตเข้ามารับช่วงการกู้ร่วมแทน (ขึ้นอยู่กับนโยบายของธนาคาร)
  • หากผู้กู้ร่วมที่เสียชีวิตมีชื่อในกรรมสิทธิ์บ้าน จะต้องดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ตามกฎหมายมรดก

เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต ผู้กู้ร่วมควรพิจารณาทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินกู้ เพื่อให้ประกันเป็นผู้รับผิดชอบชำระหนี้ที่เหลือในกรณีที่ผู้กู้ร่วมคนใดคนหนึ่งเสียชีวิต

การกู้ร่วมกับสิทธิ์ในการลดหย่อนภาษี

การกู้ร่วมซื้อบ้านมีผลต่อสิทธิ์การลดหย่อนภาษีดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้าน โดยทั่วไปแล้วมีเงื่อนไข ดังนี้

  • ผู้กู้เดี่ยวสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี
  • ผู้กู้ร่วม 2 คน จะได้รับสิทธิ์ลดหย่อนคนละ 50,000 บาท
  • ผู้กู้ร่วม 3 คน จะได้รับสิทธิ์ลดหย่อนคนละ 33,333.33 บาท

อย่างไรก็ตาม การลดหย่อนภาษีจะขึ้นอยู่กับสัดส่วนการถือครองกรรมสิทธิ์ในบ้านด้วย เช่น หากผู้กู้ร่วม 2 คนถือครองกรรมสิทธิ์ในสัดส่วน 60-40 สิทธิ์ลดหย่อนภาษีก็จะเป็นไปตามสัดส่วนนี้ด้วย นอกจากนี้ ควรทราบว่าการลดหย่อนภาษีนี้ใช้ได้เฉพาะกรณีซื้อบ้านหลังแรกเท่านั้น หากเป็นบ้านหลังที่สองขึ้นไปจะไม่สามารถใช้สิทธิ์นี้ได้

ข้อควรระวังในการกู้ร่วม

แม้ว่าการกู้ร่วมซื้อบ้านจะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็มีความเสี่ยงที่ผู้กู้ร่วมต้องควรระวัง ได้แก่

  • ความรับผิดชอบร่วมกันต่อหนี้ หากผู้กู้ร่วมคนใดคนหนึ่งไม่สามารถชำระหนี้ได้ ผู้กู้คนอื่นต้องรับผิดชอบแทน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินอย่างรุนแรง
  • ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ปัญหาทางการเงินอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างผู้กู้ร่วม โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นคู่สมรสหรือคู่รัก
  • ข้อจำกัดในการกู้ครั้งต่อไป การมีภาระหนี้จากการกู้ร่วมอาจส่งผลต่อความสามารถในการกู้เงินครั้งต่อไปของแต่ละบุคคล เนื่องจากสถาบันการเงินจะพิจารณาภาระหนี้ทั้งหมดที่มีอยู่
  • ความยุ่งยากในการยกเลิกสัญญา หากต้องการยกเลิกการกู้ร่วมในภายหลัง อาจมีขั้นตอนที่ซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น การรีไฟแนนซ์หรือการขายบ้าน
  • ความเสี่ยงในกรณีหย่าร้างหรือแยกทาง สำหรับคู่สมรสหรือคู่รัก หากเกิดการหย่าร้างหรือแยกทาง อาจเกิดปัญหาในการแบ่งทรัพย์สินและภาระหนี้
  • ผลกระทบต่อเครดิตบูโร หากเกิดการผิดนัดชำระหนี้ ไม่ว่าจะเป็นความผิดของฝ่ายใด ก็จะส่งผลกระทบต่อเครดิตบูโรของผู้กู้ร่วมทุกคน

เอกสารที่ต้องใช้สำหรับการกู้ร่วม

สำหรับการกู้ร่วมซื้อบ้านเป็นการยื่นขอสินเชื่อ หรือกู้เงินร่วมกับบุคคลอื่น เพื่อทำให้สถาบันการเงินหรือธนาคารเกิดความมั่นใจและอนุมัติการยื่นขอสินเชื่อในครั้งนี้ ดังนั้น เรื่องของการเตรียมเอกสารที่ต้องใช้สำหรับการกู้ร่วมจึงเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถทำธุรกรรมได้ง่ายขึ้น

เอกสารหลักประกัน

  • สัญญาจะซื้อจะขายบ้าน
  • สำเนาโฉนดที่ดิน หรือสำเนาหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด (กรณีซื้อคอนโด)
  • แบบแปลนบ้าน (กรณีบ้านสร้างใหม่)

เอกสารเหล่านี้เป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงถึงทรัพย์สินที่จะใช้เป็นหลักประกันในการกู้ ธนาคารจะใช้เอกสารเหล่านี้ในการประเมินมูลค่าทรัพย์สินและกำหนดวงเงินกู้

เอกสารส่วนตัว

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้กู้ร่วมทุกคน
  • สำเนาทะเบียนบ้านของผู้กู้ร่วมทุกคน
  • สำเนาทะเบียนสมรส ทะเบียนหย่า หรือใบมรณบัตร (ถ้ามี)
  • เอกสารการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
  • เอกสารยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างผู้กู้ร่วม (กรณีไม่ใช่คู่สมรส)

เอกสารส่วนตัวเหล่านี้ใช้ยืนยันตัวตนของผู้กู้ร่วมและแสดงความสัมพันธ์ระหว่างกัน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ

เอกสารการเงิน

  • หนังสือรับรองเงินเดือนหรือสลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3-6 เดือนของผู้กู้ร่วมทุกคน
  • สำเนาบัญชีเงินฝากธนาคารย้อนหลัง 6-12 เดือน
  • เอกสารแสดงรายได้อื่น ๆ (ถ้ามี) เช่น สัญญาเช่า หลักฐานการลงทุน
  • เอกสารแสดงภาระหนี้สินอื่น ๆ (ถ้ามี)
  • แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90 หรือ 91)

เอกสารการเงินเหล่านี้ใช้ประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ร่วม ธนาคารจะใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการคำนวณอัตราส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ (Debt Service Ratio: DSR) และกำหนดวงเงินกู้ที่เหมาะสม นอกจากนี้ ธนาคารอาจขอเอกสารเพิ่มเติมตามแต่กรณี เช่น

  • หนังสือยินยอมให้ตรวจสอบข้อมูลเครดิต
  • สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (กรณีประกอบอาชีพอิสระ)
  • งบการเงินย้อนหลัง 2-3 ปี (กรณีเจ้าของกิจการ)

ผู้กู้ร่วมควรเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและถูกต้อง เพื่อเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อและลดระยะเวลาในการพิจารณา

คุณสมบัติในการกู้ร่วม

ผู้ที่จะกู้ร่วมซื้อบ้านควรมีคุณสมบัติดังนี้

  • มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 65 ปีเมื่อสิ้นสุดสัญญากู้
  • มีรายได้ประจำที่มั่นคง สามารถตรวจสอบได้
  • มีประวัติเครดิตที่ดี ไม่มีประวัติผิดนัดชำระหนี้
  • มีความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ได้ตลอดอายุสัญญา
  • มีความสัมพันธ์กับผู้กู้หลักตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด

ที่พบบ่อยเกี่ยวกับการกู้ร่วม

กู้ร่วมสูงสุดได้กี่คน

โดยทั่วไปธนาคารอนุญาตให้กู้ร่วมได้สูงสุด 3-4 คน (รวมผู้กู้หลัก) ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร แต่ส่วนใหญ่นิยมกู้ร่วมกัน 2 คน เพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการ

หลักเกณฑ์การกู้ร่วมมีอะไรบ้าง

หลักเกณฑ์หลักคือความสัมพันธ์ทางครอบครัวหรือความสัมพันธ์ที่สามารถพิสูจน์ได้ ความสามารถในการชำระหนี้ และประวัติเครดิตที่ดีของผู้กู้ร่วมทุกคน ซึ่งแต่ละธนาคารอาจมีเงื่อนไขเฉพาะเพิ่มเติม

ธนาคารเช็กประวัติผู้กู้ร่วมหรือไม่

ธนาคารจะตรวจสอบประวัติเครดิตของผู้กู้ร่วมทุกคนอย่างละเอียด รวมถึงภาระหนี้สินและความสามารถในการชำระหนี้ ดังนั้นผู้กู้ทุกคนควรมีประวัติทางการเงินที่ดี

สรุปเรื่องการกู้ร่วมซื้อบ้าน

กู้ร่วมซื้อบ้านเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อหรือวงเงินที่สูงขึ้น แต่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบและตกลงเงื่อนไขต่าง ๆ ให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจ

หากคุณกำลังตัดสินใจที่จะซื้อบ้าน และมองหาธนาคารที่มีสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำ ธอส. พร้อมให้คำปรึกษา เราเชี่ยวชาญด้านสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะ มีแนวทางการกู้ที่เหมาะสมสำหรับคนทุกกลุ่มเพื่อการมีบ้านในฝันของคุณ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
-

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณ
อาจสนใจ

อัปเดตล่าสุด! คอนโดติดรถไฟฟ้า 0 เมตร ทำเลทอง ใกล้สถานที่สำคัญ ครบครันทุกความต้องการ พร้อมข้อมูลสินเชื่อจาก G H Bank
รู้ไว้ไม่เสียหาย! รวมกฎหมายคุ้มครองผู้ซื้อบ้าน การทำสัญญาซื้อขาย สัญญารับประกันงานก่อสร้าง และค่าใช้จ่ายด้านภาษีที่เกี่ยวข้อง
ซื้อบ้านใหม่ต้องย้ายทะเบียนบ้านไหม? รวม 5 ข้อควรรู้เรื่องทะเบียนบ้าน วิธีย้ายที่ถูกต้อง ประโยชน์ภาษี และขั้นตอนทั้งหมดสำหรับเจ้าของบ้านมือใหม่

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ค้นหาตาม Keyword เช่น การเงิน, การลงทุน, สินเชื่อ, บ้าน