กู้ร่วม LGBTQ+ คืออะไร พร้อมเทคนิคการขอสินเชื่อให้ผ่านแบบง่าย ๆ

/
/
กู้ร่วม LGBTQ+ คืออะไร พร้อมเทคนิคการขอสินเชื่อให้ผ่านแบบง่าย ๆ

หากว่าคุณและคู่รัก กำลังมองหาสินเชื่อกู้ซื้อบ้านร่วมกัน มาดูกันว่าสินเชื่อเพื่อคู่รักกู้ร่วม LGBTQ+ คืออะไร ต่างจากการกู้ร่วมปกติอย่างไร?

ธอส. ส่งเสริมการกู้ร่วมอย่างมั่นใจให้กับคู่รักที่มีความหลากหลายทางเพศ ด้วยโครงการสินเชื่อบ้าน My Pride ให้กับคู่รัก LGBTQ+ ได้เริ่มต้นสร้างครอบครัวให้มั่นคง ด้วยการมีบ้านที่ใช้ดำรงชีวิตร่วมกันได้อย่างมีความสุข

หากว่าคุณและคู่รัก กำลังมองหาสินเชื่อกู้ซื้อบ้านร่วมกัน มาดูกันว่าสินเชื่อเพื่อคู่รัก LGBTQ+ คืออะไร? ต่างจากการกู้ร่วมปกติอย่างไร? และต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เพื่อให้การยื่นกู้ร่วมได้รับการอนุมัติจากทางธนาคาร

อ่านตามหัวข้อ

การกู้ซื้อบ้านร่วมกันของคู่รัก LGBTQ+ คืออะไร? ต่างจากการกู้ร่วมปกติอย่างไร?

ก่อนหน้านี้การกู้ร่วมซื้อที่อยู่อาศัย จะมีเงื่อนไขของผู้กู้ร่วมว่าต้องเป็นคู่สมรส บุตร บิดา มารดา หรือพี่น้องร่วมบิดาหรือมารดาเดียวกัน รวมถึงคู่สมรสไม่จดทะเบียน และญาติที่ไม่จำเป็นต้องมีความสัมพันธ์ทางสายเลือด จึงจะเข้าเงื่อนไขที่สามารถขอกู้ร่วมซื้อที่อยู่อาศัยได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าธนาคารได้เปิดกว้างในความสัมพันธ์ของผู้กู้ร่วมของกลุ่ม LGBTQ+ มานานแล้วแต่ยังไม่ได้ประชาสัมพันธ์ออกไปอย่างชัดเจน

แต่ในปัจจุบันนี้สถาบันการเงินหลายเจ้า มีสินเชื่อที่รองรับการกู้ร่วมซื้อบ้านของคู่รักที่มีความหลากหลายทางเพศได้แล้ว โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้เห็นโอกาสที่จะสนับสนุนให้เกิดความเท่าเทียมกันอย่างชัดเจน จึงได้จัดทำ โครงการสินเชื่อบ้าน My Pride เพื่อคู่รัก LGBTQ+ สามารถกู้ซื้อที่อยู่อาศัยร่วมกันได้ ทำให้การขอสินเชื่อร่วมซื้อบ้านไม่ได้ถูกจำกัดขอบเขตด้วยเพศอีกต่อไป ไม่ว่าใครก็สามารถมีบ้านที่อบอุ่นเป็นของตัวเองและคู่รักได้

การกู้ร่วมซื้อบ้านของคู่รัก LGBTQ+ ต่างกับการกู้ร่วมปกติหรือไม่?

สำหรับการกู้ร่วมซื้อที่อยู่อาศัยของคู่รัก LGBTQ+ จะได้สิทธิประโยชน์ในการขอสินเชื่อที่เทียบเท่าการกู้ร่วมปกติเลย โดยจะได้ทั้งอัตราดอกเบี้ยต่ำ พร้อมวงเงินกู้ตามเกณณ์หลักประกัน ทั้งนี้วงเงินที่กู้ได้จะขึ้นอยู่กับเกณฑ์รายได้ของผู้กู้ทั้งสองฝ่ายด้วย

แต่สิ่งหนึ่งที่ต่างออกไป จะเป็นเรื่องของการเตรียมหลักฐานในการยื่นกู้ร่วม เนื่องจากปกติแล้วจะต้องมีเอกสารยืนยันความสัมพันธ์ในการกู้ร่วมของคู่สามีภรรยา เช่น ทะเบียนสมรส เป็นต้น ทำให้อาจต้องเตรียมเอกสารที่ยืนยันความสัมพันธ์ของคู่รักเพิ่มเติม

การเปิดให้คู่รัก LGBTQ+ สามารถกู้ร่วมซื้อที่อยู่อาศัยได้ มีข้อดีอย่างไร?

  • เพิ่มโอกาสได้วงเงินกู้สูงขึ้น เนื่องจากการกู้ร่วมจะใช้การพิจารณารายได้ และภาระหนี้สินของผู้กู้รวมกัน ซึ่งหากราคาบ้านที่ต้องการซื้อ มีราคาสูงเกินกว่าวงเงินที่ยื่นกู้คนเดียว การกู้ร่วมก็อาจช่วยให้วงเงินที่ต้องการกู้นั้นสูงขึ้นได้
  • ไม่ต้องแบกภาระคนเดียว และยังสามารถผ่อนชำระได้มากขึ้น จากเดิมที่การกู้คนเดียว ภาระค่าผ่อนบ้านอาจต้องมาจากผู้กู้เพียงคนเดียว เผื่อวันหนึ่งคนใดคนนึงเกิดขาดสภาพคล่อง แต่เมื่อมีการกู้ร่วมกันแล้ว ผู้กู้ร่วมสามารถช่วยกันจ่ายค่าผ่อนบ้านในแต่ละเดือน เพื่อช่วยให้การผ่อนชำระต่อเดือนมียอดที่สูงขึ้น และทำให้สามารถผ่อนบ้านหมดได้ไวขึ้นด้วย

กรรมสิทธิ์ในการกู้ร่วม LGBTQ+

สำหรับการกู้ร่วม LGBTQ+ มีรูปแบบการถือครองกรรมสิทธิ์สองแบบหลัก แบบแรกคือกรรมสิทธิ์แบบเดี่ยว ซึ่งผู้กู้หลักจะเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว โดยผู้กู้ร่วมจะมีสถานะเป็นเพียงผู้ค้ำประกัน รูปแบบนี้เหมาะสำหรับคู่ที่ต้องการความชัดเจนในการถือครองทรัพย์สิน

แบบที่สองคือกรรมสิทธิ์ร่วม ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะมีชื่อในกรรมสิทธิ์ และมีสิทธิความรับผิดชอบร่วมกัน รูปแบบนี้เป็นที่นิยมในการกู้บ้าน LGBTQ+ เนื่องจากสร้างความเท่าเทียมให้กับทั้งสองฝ่าย

หากเลิกกันแล้ว การกู้ร่วม LGBTQ+ จะเป็นอย่างไร

ในกรณีที่คู่รักที่ทำการกู้ร่วม LGBTQ+ แยกทางกัน การจัดการจะแตกต่างกันตามรูปแบบกรรมสิทธิ์ที่เลือกไว้ สำหรับกรณีถือกรรมสิทธิ์ร่วม ทั้งสองฝ่ายจะต้องตกลงเรื่องการแบ่งสัดส่วนการชำระหนี้ หรืออาจเลือกโอนกรรมสิทธิ์ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือตัดสินใจขายทรัพย์สินเพื่อชำระหนี้

ในกรณีถือกรรมสิทธิ์เดี่ยว ผู้กู้หลักจะต้องรับผิดชอบการชำระหนี้ต่อ โดยอาจเจรจาเงื่อนไขการชำระหนี้กับธนาคารใหม่ หรือหาผู้กู้ร่วมใหม่ หรือพิจารณาการรีไฟแนนซ์ ทั้งนี้ การกู้บ้าน LGBTQ+ ควรมีการทำข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรตั้งแต่แรกเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต

เคล็ดลับในการกู้ร่วม LGBTQ+ ให้ผ่านฉลุย

สำหรับคู่รักที่ต้องการกู้ร่วมเพศเดียวกัน ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้การขอสินเชื่อผ่านการอนุมัติคือการเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน ประกอบด้วยเอกสารยืนยันตัวตน หลักฐานรายได้ เอกสารยืนยันความสัมพันธ์ และประวัติการเงินย้อนหลัง นอกจากนี้ การเลือกสถาบันการเงินที่มีนโยบายสนับสนุนการกู้ร่วม LGBTQ+ อย่างชัดเจนก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน

อีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามคือการสร้างความน่าเชื่อถือทางการเงิน ซึ่งทำได้โดยการรักษาประวัติการผ่อนชำระให้ดี มีเงินออมอย่างสม่ำเสมอ และจัดการหนี้สินอื่นๆ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม สิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น

การคำนวณวงเงินการกู้ร่วม

การคำนวณวงเงินสำหรับการกู้ร่วม LGBTQ+ มีองค์ประกอบสำคัญหลายประการ เริ่มจากการพิจารณารายได้รวมของทั้งผู้กู้หลักและผู้กู้ร่วม โดยนับรวมทั้งรายได้ประจำและรายได้เสริมที่สามารถพิสูจน์ได้ จากนั้นจะมีการหักภาระหนี้สินปัจจุบันของทั้งสองฝ่าย รวมถึงภาระผ่อนชำระรายเดือนและวงเงินบัตรเครดิตที่มีอยู่

ตัวอย่างการคำนวณวงเงินกู้ หากมีรายได้รวม 100,000 บาท และมีภาระหนี้ 30% ธนาคารจะพิจารณาให้วงเงินกู้ประมาณ 70% ของรายได้สุทธิ ทั้งนี้ อัตราส่วนที่แน่นอนจะขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละสถาบันการเงิน และปัจจัยอื่นๆ เช่น อายุงาน ประวัติการชำระหนี้ และมูลค่าหลักประกัน

การเตรียมตัวขอก่อนสินเชื่อร่วมกันของคู่รัก LGBTQ+

1. เลือกโครงการสินเชื่อที่รองรับการกู้ร่วมของคู่รัก LGBTQ+

เริ่มต้นด้วยการมองหาโครงการสินเชื่อที่รองรับการกู้ร่วมของคู่รัก LGBTQ+ เพื่อให้การขอสินเชื่อสามารถทำได้อย่างราบรื่นและตรงตามเงื่อนไขที่ทางธนาคารกำหนด 

เลือกโครงการสินเชื่อที่รองรับการกู้ร่วมของคู่รัก LGBTQ+

โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ มีโครงการสินเชื่อ My Pride สำหรับคู่รัก LGBTQ+ ที่ต้องการกู้ร่วมซื้อที่อยู่อาศัยร่วมกันด้วยอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรก 3.75% ต่อปี (คิดจากอัตราดอกเบี้ยลอยตัว MRR = 6.15%) พร้อมระยะเวลาผ่อนไม่น้อยกว่า 3 ปี 6 เดือน และสูงสุดไม่เกิน 40 ปี 

(สามารถยื่นกู้ได้ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป)

อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา แบ่งออกเป็น

  • ลูกค้าสวัสดิการ = 4.67%
  • ลูกค้ารายย่อย = 4.99%

วัตถุประสงค์ของโครงการสินเชื่อ My Pride สำหรับคู่รัก LGBTQ+

  • เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ รวมถึงห้องชุด
  • เพื่อซื้อที่ดินเปล่าที่เป็นทรัพย์ NPA ของธนาคาร
  • ชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) พร้อมกับการขอกู้ในวัตถุประสงค์หลักของผลิตภัณฑ์

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมของสินเชื่อ My Pride ได้ที่ > https://www.ghbank.co.th/product-detail/my-pride

สนใจติดต่อโครงการสินเชื่อ Mypride ได้ที่ > https://bit.ly/3NrfgSp

2. การเตรียมเอกสารขอสินเชื่อให้พร้อม

สำหรับการเตรียมเอกสารเพื่อยื่นขอสินเชื่อ เป็นขั้นตอนสำคัญที่ผู้กู้ร่วมทั้งสองคนต้องเตรียมให้พร้อม เพราะจะมีผลโดยตรงกับการอนุมัติสินเชื่อ โดยเอกสารเบื้องต้นที่ใช้ในการกู้ร่วมสำหรับคู่รัก LGBTQ+ จะไม่ต่างจากการขอสินเชื่อบ้านทั่วไป แบ่งออกเป็น

  • เอกสารส่วนบุคคล เช่น บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล 
  • เอกสารทางการเงิน เช่น หนังสือรับรองเงินเดือน / หนังสือรับรองสิทธิสวัสดิการ สลิปเงินเดือนหรือหลักฐานการรับเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน Statement เงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน หลักฐานแสดงฐานะการเงินอื่นๆ
  • เอกสารหลักประกัน เช่น สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย / สัญญาวางมัดจำ สำเนาโฉนดที่ดิน

รวมถึงเอกสารอื่นๆ ที่ทางธนาคารอาจมีการขอเพิ่มเติม เพื่อใช้ประกอบในการพิจารณาการอนุมัติสินเชื่อ

3. เตรียมเอกสารแสดงความสัมพันธ์

เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยยังไม่รับรองในการจดทะเบียนสมรสให้กับคู่รัก LGBTQ+ จึงต้องมีการเตรียมเอกสารแสดงความสัมพันธ์เพิ่มเติม ที่สามารถใช้แทนทะเบียนสมรสได้ 

เช่น บัญชีเงินฝากที่เปิดร่วมกัน เอกสารประกอบธุรกิจร่วมกัน ภาพถ่ายงานแต่งงาน ทะเบียนบ้านที่มีชื่อร่วมกัน เอกสารกู้ร่วมซื้อรถร่วมกัน เป็นต้น

4. จัดการสถานะทางการเงินของผู้กู้ให้พร้อม

สถานะและความมั่นคงทางการเงินของผู้ขอสินเชื่อ เป็นสิ่งที่ธนาคารจะใช้ประกอบในการอนุมัติสินเชื่อ ซึ่งถ้าหากผู้กู้ร่วมทั้งสองมีประวัติทางการเงินที่ดี โอกาสที่จะได้รับการอนุมัติสินเชื่อ พร้อมวงเงินที่สูงก็จะมีมากขึ้น 

ในทางตรงกันข้าม หากผู้กู้ยังมีประวัติทางการเงินที่ยังไม่ดี เช่น มีภาระหนี้สูง ค้างชำระหนี้เกินกำหนด ติดแบล็คลิสต์ เป็นต้น ก็อาจทำให้การยื่นขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน มีโอกาสผ่านได้ยาก

การเตรียมเครดิตทางการเงินให้พร้อมก่อนยื่นขอสินเชื่อร่วมกัน

  • มีวินัยในการชำระหนี้ที่ดีอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นยอดผ่อนสินค้าต่างๆ ต้องพยายามชำระยอดให้ตรงเวลา
  • จัดเตรียมเอกสารแสดงรายได้ที่ชัดเจน โดยเฉพาะผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ ต้องพยายามเก็บหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการทำงานและทรัพย์สินเอาไว้ รวมถึงมีการออมเงินในระยะยาวเอาไว้ด้วย
  • จัดการความสามารถในการผ่อนชำระให้อยู่ในเกณฑ์ โดยธนาคารจะพิจาณาจากภาระหนี้ที่ผู้กู้ยังมีอยู่ทั้งหมด หากว่าเกิน 30% ของรายได้ ก็อาจจะต้องเคลียร์ภาระหนี้บางส่วนให้ยอดรวมน้อยลงก่อน
  • เพิ่มความน่าเชื่อทางการเงิน ด้วยการเปิดบัญชีเงินฝากร่วมกัน และมีการฝากเงินอย่างเป็นประจำสม่ำเสมอ 

5. วางแผนล่วงหน้าเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต

เมื่อมีการกู้สินเชื่อร่วมกันแล้ว จะทำให้ผู้กู้ทั้งคู่มีภาระผูกพันทางกฎหมายร่วมกันไปด้วย และเพื่อป้องกันปัญหาที่ไม่คาดคิดในอนาคต จนทำให้ไม่สามารถผ่อนบ้านต่อได้ ก่อนที่จะตัดสินใจกู้ร่วมทั้งสองคนจึงต้องวางแผนหาทางออกร่วมกันในส่วนนี้เอาไว้ด้วย เช่น

  • ปัญหาสภาพคล่องทางการเงินของทั้งสองฝ่าย ทำให้ไม่สามารถผ่อนชำระค่าบ้านต่อได้ ก็อาจจะต้องคิดล่วงหน้าเอาไว้ว่าจะทำอย่างไรกับบ้านที่ซื้อร่วมกัน
  • เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับตัวผู้กู้ร่วม ก็จะต้องวางแผนล่วงหน้าว่าจะทำอย่างไรต่อ กับการหารายได้มาจ่ายค่าผ่อนบ้าน
  • การแยกทางกัน และฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องการผ่อนต่อคนเดียว ก็ต้องคุยกันในเรื่องสัญญาเอาไว้ก่อน

สำหรับการป้องกันปัญหาที่ไม่คาดคิดในอนาคตกับตัวผู้ขอสินเชื่อและต้องการเก็บรักษาบ้านเอาไว้ จะมีประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ หรือ ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน (MRTA) ที่เป็นประกันที่ช่วยคุ้มครองวงเงินกู้ เมื่อผู้ขอสินเชื่อไม่สามารถหารายได้ผ่อนบ้านต่อได้จากเหตุไม่คาดฝัน โดยบริษัทประกันช่วยชำระหนี้บ้านที่ยังคงผ่อนอยู่ด้วยวงเงินคุ้มครองสูงสุด 100% 

สำหรับประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ ผู้กู้สามารถทำได้ในขั้นตอนยื่นขอสินเชื่อ และยังขอสินเชื่อเพื่อชำระค่าเบี้ยประกัน MRTA ไปพร้อมกับการกู้ซื้อบ้านได้อีกด้วย

ขอสินเชื่อ My Pride สำหรับคู่รัก LGBTQ+ 

ในตอนนี้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ มีผลิตภัณฑ์สินเชื่อรองรับสำหรับคู่รัก LGBTQ+ ที่ต้องการมีบ้านร่วมกันได้แล้ว พร้อมอัตราดอกเบี้ยประหยัด ที่ช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าผ่อนชำระบ้านได้ในระยะยาว

หากสนใจขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจาก ธอส. สามารถทำการกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำด้านสินเชื่อ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่

เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ที่คอยให้คำแนะนำ พร้อมเปรียบเทียบและหยิบยื่นข้อเสนอด้านสินเชื่อที่ดีที่สุดให้กับคุณ ติดต่อเราได้ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ

G H BANK Call Center: 0-2645-9000

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
-

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณ
อาจสนใจ

รวม 15 คอนโดติด BTS 2568 ทำเลดี คุณภาพเยี่ยม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เริ่มต้น 2 ล้านบาท ใกล้รถไฟฟ้าเพียง 0-200 เมตร
แนะนำ 4 เรื่องสำคัญที่ต้องรู้ก่อนรีโนเวทคอนโดเก่า พร้อม 5 เทคนิคการตกแต่งให้ดูกว้าง เพื่อการอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบ
ลงทุนโซลาร์เซลล์คุ้มค่าจริงหรือ? มาดูว่าโซลาร์เซลล์ช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง และจะช่วยประหยัดค่าไฟได้เท่าไหร่

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ค้นหาตาม Keyword เช่น การเงิน, การลงทุน, สินเชื่อ, บ้าน