10 สูตรการออมเงินสำหรับคนยุคใหม่ ควรมีวิธีการบริหารอย่างไรบ้าง?

/
/
10 สูตรการออมเงินสำหรับคนยุคใหม่ ควรมีวิธีการบริหารอย่างไรบ้าง?

สำหรับคนยุคใหม่ที่กำลังมองหาวิธีการออมเงินที่ได้ผลดี ธอส. ขอแนะนำ 10 สูตรออมเงิน ที่เหมาะกับคนยุคใหม่ สามารถเริ่มทำได้เลย

การออมเงิน ถือเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับชีวิตของทุกคน เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และเงินออมนี้เองจะเป็นผู้ช่วยสำคัญที่ทำให้คุณสามารถดำรงชีวิตต่อไปได้ในยามเกษียณ หรือเมื่อเจอเหตุที่ไม่คาดฝันในชีวิตที่จำเป็นต้องใช้เงินด่วน

ในการเริ่มต้นออมเงินหลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าหากมีการฝึกฝนจนสร้างวินัยทางการเงินให้กับตนเองได้ ก็จะช่วยให้สามารถออมเงินไปพร้อมกับการบริหารเงินในแต่ละเดือนได้ดี

สำหรับคนยุคใหม่ที่กำลังมองหาวิธีการออมเงินที่ได้ผลดี ธอส. ขอแนะนำ 10 สูตรออมเงิน ที่เหมาะกับคนยุคใหม่ สามารถเริ่มทำได้เลย เพื่อสร้างความมั่นคงให้ชีวิตในวันข้างหน้า

10 สูตรการออมเงินสำหรับคนยุคใหม่ บริหารการเงินให้ชีวิตมั่นคง

อยากบริหารการเงินให้ชีวิตมีความมั่นคง มาดูกันว่า 10 สูตรการออมเงินที่คนยุคใหม่สามารถทำได้มีอะไรบ้าง และคุณสามารถนำแต่ละสูตรไปปรับใช้ให้เหมาะกับสภาพคล่องทางการเงินได้เลย

10 สูตรการออมเงินสำหรับคนยุคใหม่ บริหารการเงินให้ชีวิตมั่นคง

1. ออมทันที เมื่อมีรายรับเข้ามา

การออมเงินสูตรแรก เป็นการหักออมทันทีเมื่อมีรายได้เข้ามา โดยวันที่มียอดเงินโอนเข้ามาในบัญชี ให้คุณหักเก็บทันทีตามจำนวนที่ต้องการ เพื่อจะได้เฉลี่ยเงินที่เหลือได้ว่า ในแต่ละวันจะเหลือใช้เงินเท่าไหร่  

สำหรับสูตรการออมเงิน คุณสามารถใช้วิธีเทคนิคแบบเดียวกับการซื้อหุ้นที่เรียกว่า DCA

(Dollar Cost Averaging) ที่เป็นการซื้อสินทรัพย์สม่ำเสมอทุกเดือนในจำนวนที่เท่ากัน ซึ่งถ้าปรับมาใช้กับการออมเงิน ก็จะเป็นการหักเก็บในจำนวนที่เท่ากันทุกเดือนไปเรื่อยๆ ถือเป็นการสร้างวินัยการออมที่ดี เพื่อให้คุณมีเงินออมในบัญชีอย่างสม่ำเสมอ

2. ออมเงินในบัญชีที่แยกกับบัญชีใช้จ่าย

การใช้วิธีออมเงินแยกกับบัญชีที่ใช้จ่าย จะช่วยให้เงินออมปลอดภัยจากการถูกนำมาใช้จ่ายมากขึ้น และยังทำให้คุณสะดวกในการจัดการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยให้คุณเลือกเปิดบัญชีออมเงินที่เป็นรูปแบบฝากประจำ ก็จะทำให้เงินออมที่อยู่ในบัญชีนั้นงอกเงยได้จากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากด้วย

ข้อสำคัญสำหรับการมีบัญชีเงินออม คือ ไม่ควรถอนเงินออกมาใช้บ่อย หากไม่มีเหตุฉุกเฉินหรือความจำเป็นจริงๆ เพราะจะทำให้ขาดวินัยการออมไปได้ง่ายๆ และหากเลือกเปิดบัญชีเงินออม ก็มองหาบัญชีที่มีข้อจำกัดการถอนรายเดือน หรือบัญชีแบบไม่มีบัตร ก็จะช่วยให้การหยิบเงินออมออกมาใช้จ่ายยากขึ้น

3. ออมเงินตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

สำหรับเงินออมตามเป้าหมาย จะเป็นก้อนเงินออมที่แยกออกมาจากก้อนหลัก แต่ก้อนนี้จะเป็นก้อนที่ไม่ใหญ่มาก และมีจุดประสงค์ของการใช้ตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ชัดเจน เช่น ออมเงินสำหรับไปเที่ยวต่างประเทศ ออมเงินสำหรับดาวน์รถ หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ต้องใช้เงินก้อน 

หากตั้งเป้าหมายได้แล้ว คุณจะรู้ว่าต้องหักเก็บเดือนละเท่าไหร่ดี เพราะเงินก้อนนี้จะเป็นเหมือนการสร้างแรงฮึดที่ทำให้คุณต้องรีบเก็บให้ได้ บางคนอาจมีการหารายได้เสริมในระยะเวลาสั้นๆ เพื่อสามารถเก็บเงินก้อนนี้ได้ทันเวลาที่ตั้งไว้ และไม่กระทบกับเงินออมก้อนหลักที่มีการเก็บเป็นประจำอยู่แล้ว

4. ออมแบงค์ 50 บาท วิธีคลาสสิค แต่ผลลัพธ์เกินคาด

หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินการเลือกเก็บเงินจากธนบัตรที่ได้รับมา ซึ่งแบงค์ 50 บาท ถือว่าเป็นธนบัตรที่ได้รับความนิยมในการเก็บออมมาก เนื่องจากโอกาสที่เราจะเจอกับแบงค์ 50 บาท เข้ามาในกระเป๋าเงินอาจไม่บ่อยเหมือนกับธนบัตรชนิดอื่น

สำหรับวิธีการออมแบงค์ คือ การเก็บทันทีเมื่อได้รับแบงค์ 50 บาทมา ที่บ่อยครั้งอาจจะได้รับมาในรูปแบบของเงินทอน โดยให้นำมาเก็บไว้ในกล่องหรือกระเป๋าที่แยกจากกระเป๋าเงินที่ใช้อยู่เป็นประจำ 

ถ้าคำนวณคร่าวๆ หากได้รับแบงค์ 50 บาท ทุกวันและมีการเก็บเพียงวันละ 1 ใบ จะได้เงินออมเมื่อคบ 1 ปี อยู่ที่ประมาณ 50 x 365 = 18,250 บาท ซึ่งถือว่าเป็นเงินก้อนที่คุ้มเลยทีเดียว

5. ออมเงินด้วยการซื้อสลากออมทรัพย์

หากว่าคุณสนใจในการออมเงินระยะสั้น ที่ได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย และในระหว่างนั้นก็ยังมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลใหญ่เหมือนกับซื้อหวยทุกเดือน การซื้อสลากออมทรัพย์ จะเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์เป็นอย่างมาก 

ที่สำคัญเมื่อออมไว้จนครบตามอายุสลากแล้ว เงินต้นที่ฝากไว้ก็จะได้รับกลับคืนมาเต็มจำนวน พร้อมกับผลตอบแทนตามที่สลากออมทรัพย์กำหนดด้วย และที่สำคัญหากว่าคุณถูกรางวัลที่ 1 ก็จะได้รับเงินเพิ่มมาอีก สูงสุดเป็นหลักล้านบาทเลยทีเดียว

สนใจออมเงินด้วยการซื้อสลากออมทรัพย์กับ ธอส. สามารถเข้าดูมูลเพิ่มเติมของผลิตภัณฑ์สลากออมทรัพย์ที่เปิดขายอยู่ ได้ที่ > https://www.ghbank.co.th/lotto/

6. ออมเงินกับประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์

การออมเงินกับประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้ทำให้ผู้ออมเงินได้รับทั้งความคุ้มค่าและการคุ้มครองในระยะยาว เมื่อถึงช่วงเวลาที่กำหนด ก็สามารถถอนเงินก้อนใหญ่ออกมาใช้ได้ในช่วงเกษียณ

สำหรับการออมเงินด้วยวิธีนี้ จะเป็นรูปแบบของการทำประกันชีวิตที่จะมีกำหนดให้คุณชำระเบี้ยเป็นงวดๆ เป็นระยะเวลาติดต่อกันตามข้อกำหนด ซึ่งเงินจากการชำระเบี้ยนี้เองจะเป็นเงินออมที่ไปสะสมจะเป็นเงินก้อนใหญ่ได้ในอนาคต และนอกจากเรื่องของการออมแล้ว เจ้าของกรมธรรม์ยังได้สิทธิ์ในการคุ้มครองชีวิตอีกด้วย 

7. ออมเงินจากการสร้างวินัยที่ดี

สูตรนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่วางแผนได้ง่าย แต่ทำได้ยากสำหรับหลายคน ด้วยการปรับวินัยของการใช้เงินในแต่ละเดือนใหม่ จากตอนแรกที่มีการหักเก็บ 10% ของเงินเดือนอย่างเดียว ก็สร้างวินัยทางการเงินใหม่ที่ทำให้ค่าใช้จ่ายต่อเดือนลดลง เช่น ช้อปปิงน้อยลง ลดมื้ออาหาราคาแพง ยกเลิกค่าสมาชิกรายเดือนที่ไม่ได้ใช้งานบ่อย 

ซึ่งถ้าหากว่ายิ่งลดค่าใช้จ่ายได้เยอะ ช่วงสิ้นเดือนคุณจะเหลือยอดเงินในบัญชีมากขึ้น และสามารถนำไปออมทบเข้าไปอีก จะช่วยให้การออมเงินของคุณสามารถไปถึงเป้าหมายได้เร็วยิ่งขึ้น

8. ออมเงินจากสูตร 50-20-30

สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าจะจัดสรรเงินออมของตัวเองอย่างไร จะมีสูตรการออมเงินแบบ 50-20-30 Budget Rule ที่คิดค้นขึ้นมาโดย Elizabeth Warren จากหนังสือ All Your Worth: The Ulitimate Liftime Money Plan 

สูตรนี้จะใช้วิธีการแบ่งเงินออกเป็น 3 ก้อน ที่ช่วยให้เงินออมและเงินที่นำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันไม่กระทบกัน โดยแบ่งออกเป็น

  • 50% เป็นเงินสำหรับการใช้จ่ายที่จำเป็นในแต่ละเดือน ทั้งค่าผ่อนบ้าน/ผ่อนรถ ค่าสาธารณูปโภค ค่าเดินทาง ค่าอาหารต่างๆ
  • 20% เป็นเงินออมสำรองฉุกเฉิน ในกรณีที่มีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น โดยให้เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย 6-12 เดือน หากขาดรายได้กระทันหัน
  • 30% เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสร้างความสุขให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นค่าช้อปปิง ท่องเที่ยว บุฟเฟต์   ซื้อของสะสม หรืออื่นๆ

9. ออมเงินด้วยการซื้อกองทุนรวม

ในยุคนี้ที่มีความเร่งรีบและยุ่งยาก ทำให้หลายๆ คนที่อยากลงทุนเพื่อต่อยอดเงินออมให้มีมากขึ้น แต่ไม่มีเวลามาตามกระแสของหุ้น 

การซื้อกองทุนรวม (Mutual Fund) ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ต้องติดตามกระแสอยู่ตลอด เพราะจะมีผู้จัดการกองทุนเป็นคนบริหารจัดการให้ทั้งหมด ด้วยการนำเงินไปลงทุนกับกองทุนต่างๆ ที่มีนโยบายการลงทุนแตกต่างกันออกไป เช่น หุ้นในประเทศ หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ รวมถึงสินทรัพย์อื่นๆ

สำหรับผลตอบแทนของการซื้อกองทุนรวมจะขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่แตกต่างกันตามประเภทของกองทุน หากต้องการลงทุนในกองทุนรวมควรศึกษาข้อมูล และทดสอบความเสี่ยงที่รับได้ก่อนตัดสินใจ

10. ออมเงินด้วยการลงทุน ETF

อีกหนึ่งทางเลือกของการออม ด้วยการลงทุนใน ETF (Exchange Traded Fund) ที่เป็นการรวมจุดเด่นของหุ้นและกองทุนดัชนีเอาไว้ด้วยกัน ผลตอบแทนของ ETF จะมาจากให้ผลตอบแทนที่ใกล้เคียงของดัชนีหรือราคาสินทรัพย์ที่กองทุนใช้อ้างอิง เช่น ดัชนีหุ้นในประเทศ หุ้นต่างประเทศ หุ้นรายกลุ่มอุตสาหกรรม และอื่นๆ ซึ่งจะมีความคล้ายกับการลงทุนในกองทุนรวมเลย

แต่สำหรับการลงทุนใน ETF จะมีจุดเด่นที่มีมืออาชีพเป็นผู้ดูแลและบริหารการลงทุนให้ พร้อมทั้งยังสามารถปรับพอร์ตและซื้อขายได้เรียลไทม์เหมือนกับการซื้อหุ้น

ธอส. สนับสนุนให้คนยุคใหม่บริหารการเงิน เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

ธอส. เป็นธนาคารที่สนับสนุนให้คนไทยมีบ้าน ซึ่งในการออมเงินซื้อที่อยู่อาศัยถือว่าเป็นเงินก้อนใหญ่มาก หากต้องเก็บออมให้ครบตามราคาก็อาจต้องใช้เวลายาวนานหลัก 10 ปี ซึ่งวิธีการขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยกับธนาคารช่วยให้คุณลดระยะเวลาในการออมเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย และมีโอกาสได้ออมเงินเพื่อเป้าหมายอื่นในชีวิต

สนใจออมเงินกับ ธอส.

หากคุณสนใจผลิตภัณฑ์บัญชีเงินฝาก ของ ธอส. สามารถทำการกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่

เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านการออมเงินที่คอยให้คำแนะนำ พร้อมเปรียบเทียบและหยิบยื่นข้อเสนอที่ดีที่สุดให้กับคุณ ติดต่อเราได้ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ

หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ www.ghbank.co.th 

ติดต่อ G H BANK Call Center : 02 645 9000

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
-

บริการของเรา

สนใจผลิตภัณฑ์ธนาคาร

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณ
อาจสนใจ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ค้นหาตาม Keyword เช่น การเงิน, การลงทุน, สินเชื่อ, บ้าน