สรุป! ดอกเบี้ยบ้านลดหย่อนภาษี คิดยังไง ได้เท่าไหร่ในปี 2568-2569

/
/
สรุป! ดอกเบี้ยบ้านลดหย่อนภาษี คิดยังไง ได้เท่าไหร่ในปี 2568-2569

สรุปวิธีคิดดอกเบี้ยบ้านลดหย่อนภาษีปี 2568-2569 ลดหย่อนได้ตามจริงสูงสุด 100,000 บาท กรณีกู้ร่วมให้หารเฉลี่ยตามจำนวนผู้กู้ บทความนี้รวมวิธีคำนวณและเงื่อนไข

การมีบ้านเป็นของตัวเองนับเป็นก้าวสำคัญ และหนึ่งในสิทธิประโยชน์ที่คนมีบ้านไม่ควรมองข้ามคือการ ลดหย่อนดอกเบี้ยบ้าน หลายคนยังมีคำถามว่าดอกเบี้ยบ้านลดหย่อนภาษี คิดยังไงและดอกเบี้ยบ้านลดหย่อนได้เท่าไหร่ในปี 2568-2569 นี้ บทความนี้จะสรุปทุกขั้นตอนและวิธีคำนวณที่เข้าใจง่าย เพื่อให้เราเตรียมตัวยื่นภาษีได้อย่างถูกต้อง

เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ

ดอกเบี้ยบ้าน คืออะไร

ก่อนจะไปถึงขั้นตอนว่าดอกเบี้ยบ้าน ลดหย่อนภาษี คิดยังไง เราควรทำความเข้าใจก่อนว่า “ดอกเบี้ยบ้าน” ที่เราจ่ายให้ธนาคารนั้นคืออะไร โดยทั่วไปดอกเบี้ยคือต้นทุนการกู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นบ้านใหม่ บ้านมือสอง หรือทรัพย์ธนาคารที่รอขาย ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลักที่มีวิธีคิดแตกต่างกัน 

ดอกเบี้ยบ้านคงที่

อัตราดอกเบี้ยประเภทนี้จะถูกกำหนดไว้เป็นตัวเลขแน่นอนตามระยะเวลาในสัญญา เช่น 3 ปี หรือ 5 ปี ทำให้เราทราบยอดผ่อนชำระที่ชัดเจน อัตราดอกเบี้ยมักอยู่ที่ประมาณ 3-6% ต่อปีในช่วงแรก ข้อดีคือช่วยให้วางแผนการเงินได้ง่าย ไม่ต้องกังวลกับความผันผวน แต่ข้อเสียคือ หากอัตราดอกเบี้ยในตลาดปรับลดลง เราอาจจะยังต้องจ่ายในอัตราเดิมที่สูงกว่า

ดอกเบี้ยบ้านลอยตัว

สำหรับอัตราดอกเบี้ยลอยตัว จะมีการปรับเปลี่ยนขึ้นหรือลงตามประกาศของธนาคาร โดยอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยเช่น MRR หรือ MLR เช่น MRR-2% ข้อดีคือหากอัตราดอกเบี้ยตลาดลดลง ภาระการผ่อนของเราก็จะลดลงด้วย แต่ข้อเสียคือความไม่แน่นอน หากอัตราดอกเบี้ยปรับสูงขึ้น ค่างวดของเราก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจกระทบต่อการวางแผนการเงินในระยะยาว

ดอกเบี้ยบ้านลดหย่อนภาษี คิดยังไง

มาถึงส่วนสำคัญที่หลายคนรอคอย คือวิธีคำนวณว่าดอกเบี้ยบ้านลดหย่อนภาษีนั้นทำอย่างไร กรมสรรพากรได้กำหนดหลักเกณฑ์และเพดานวงเงินไว้ชัดเจน ซึ่งผู้กู้แต่ละประเภท ทั้งกู้เดี่ยว กู้ร่วม หรือกู้หลายหลัง จะมีวิธีคำนวณสิทธิที่แตกต่างกันไป

วงเงินลดหย่อนสูงสุดที่กฎหมายกำหนด

สำหรับคำถามว่าดอกเบี้ยบ้านลดหย่อนได้เท่าไหร่กฎหมายอนุญาตให้นำดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามจำนวนที่เราจ่ายจริงตลอดทั้งปีภาษีนั้น ๆ อย่างไรก็ตาม กรมสรรพากรกำหนดเพดานสูงสุดไว้ โดยสามารถ ลดหย่อนดอกเบี้ยบ้าน ได้ไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคน ต่อปีภาษี

กรณีผู้กู้คนเดียว

หากเราเป็นผู้กู้เพียงคนเดียว การคำนวณจะตรงไปตรงมา โดยสามารถนำยอดดอกเบี้ยที่จ่ายจริงทั้งปีมาใช้สิทธิลดหย่อนได้ทั้งหมด แต่ต้องไม่เกินเพดาน 100,000 บาท ตัวอย่างเช่น หากปีนั้นเราจ่ายดอกเบี้ยบ้าน 80,000 บาท ก็ลดหย่อนได้ 80,000 บาท แต่หากจ่ายดอกเบี้ย 130,000 บาท ก็จะใช้สิทธิได้สูงสุดเพียง 100,000 บาท

กรณีผู้กู้ร่วม

ในกรณีที่มีผู้กู้ร่วม สิทธิลดหย่อน 100,000 บาท จะต้องถูกแบ่งเฉลี่ยตามจำนวนผู้กู้ร่วม ไม่ใช่คนละ 100,000 บาท ตัวอย่างเช่น กู้ร่วม 2 คน จ่ายดอกเบี้ย 100,000 บาท จะลดหย่อนได้คนละ 50,000 บาท หากจ่ายดอกเบี้ย 150,000 บาท สิทธิรวมต้องไม่เกิน 100,000 บาท จึงยังคงลดหย่อนได้คนละ 50,000 บาท

กรณีกู้ซื้อบ้านหลายหลัง

สำหรับผู้ที่มีสัญญากู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัยหลายสัญญา หรือผ่อนบ้านหลายหลังก็ตาม สิทธิในการลดหย่อนดอกเบี้ยบ้านจะถูกนับรวมกันทั้งหมด ซึ่งจะแตกต่างจากมาตรการภาษีบ้านหลังแรก โดยแม้เราจะจ่ายดอกเบี้ยบ้านทุกหลังรวมกันเกิน 100,000 บาท (เช่น หลังแรก 60,000 บาท หลังที่สอง 70,000 บาท) เพดานสูงสุดที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ก็ยังคงอยู่ที่ 100,000 บาทต่อปีภาษี

เงื่อนไขและหลักเกณฑ์การใช้สิทธิลดหย่อนภาษี

การใช้สิทธิ ลดหย่อนดอกเบี้ยบ้าน มีรายละเอียดและเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติตาม ไม่ใช่แค่การจ่ายดอกเบี้ยแล้วจะใช้สิทธิได้ทันที เราจำเป็นต้องตรวจสอบคุณสมบัติของสัญญาเงินกู้ และเตรียมเอกสารให้พร้อม เพื่อให้การยื่นภาษีเป็นไปอย่างถูกต้องและราบรื่น

เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมยื่นภาษี

การเตรียมเอกสารหลักฐานให้ครบถ้วนเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการยื่นขอลดหย่อนภาษี กรมสรรพากรอาจมีการเรียกตรวจสอบเอกสารเหล่านี้ เราจึงควรจัดเตรียมไว้ให้พร้อมก่อนยื่นแบบแสดงรายการภาษีเสมอ โดยเอกสารหลักที่ต้องใช้ มีดังนี้

  • หนังสือรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืม เอกสารสำคัญที่แสดงยอดดอกเบี้ยที่เราจ่ายไปจริงตลอดทั้งปีภาษี ซึ่งสามารถขอได้จากสถาบันการเงินผู้ให้กู้
  • สำเนาสัญญากู้ยืมเงิน ใช้เป็นหลักฐานยืนยันว่าเป็นการกู้ยืมเพื่อซื้อ สร้าง หรือต่อเติมที่อยู่อาศัยตามวัตถุประสงค์ที่กฎหมายกำหนด
  • เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ เช่น สำเนาโฉนดที่ดิน หรือสำเนาสัญญาซื้อขาย (ท.ด.13) เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของในที่อยู่อาศัยนั้น 
  • เอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่กู้มาเพื่อต่อเติมหรือซ่อมแซม อาจต้องใช้หลักฐานเพิ่มเติม เช่น สัญญาจ้าง หรือใบเสร็จค่าวัสดุ 

ขั้นตอนการดำเนินการเพื่อแจ้งสิทธิลดหย่อน

เมื่อเอกสารหลักฐานพร้อมแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการแจ้งสิทธิในระหว่างการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี (ภ.ง.ด. 90 หรือ 91) ซึ่งปัจจุบันสามารถดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างสะดวก โดยมีขั้นตอนที่ควรตรวจสอบดังนี้

  • เตรียมเอกสาร รวบรวมเอกสารที่จำเป็น โดยเฉพาะหนังสือรับรองดอกเบี้ยจากธนาคาร
  • ยื่นแบบแสดงรายการภาษี ดำเนินการยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90/91 ภายในระยะเวลาที่กำหนด (มกราคม-มีนาคม หรือเมษายนสำหรับยื่นออนไลน์)
  • กรอกข้อมูลลดหย่อน ระบุจำนวนเงินดอกเบี้ยที่จ่ายจริง (แต่ไม่เกิน 100,000 บาท) ในหมวดค่าลดหย่อนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
  • ตรวจสอบความถูกต้อง ทบทวนข้อมูลทั้งหมดก่อนยืนยันการยื่นแบบ
  • เก็บหลักฐาน บันทึกและเก็บหลักฐานการยื่นแบบและเอกสารประกอบไว้ เพื่อการอ้างอิงหรือการตรวจสอบในภายหลัง

เทคนิคการวางแผนลดหย่อนภาษีด้วยดอกเบี้ยบ้าน

ลดหย่อนภาษีด้วยดอกเบี้ยบ้าน

การ ลดหย่อนดอกเบี้ยบ้าน ไม่ใช่แค่การกรอกตัวเลขตอนสิ้นปี แต่เราสามารถวางแผนเชิงรุกตั้งแต่ขั้นตอนการขอสินเชื่อได้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งในแง่การผ่อนชำระและสิทธิประโยชน์ทางภาษี

การเลือกประเภทสินเชื่อที่เหมาะสม

การเลือกประเภทดอกเบี้ยมีผลต่อการวางแผนภาษี หากเราเลือกดอกเบี้ยคงที่ในช่วงปีแรก ๆ จะทำให้เราคำนวณยอดดอกเบี้ยที่จะใช้ ลดหย่อนดอกเบี้ยบ้าน ได้แม่นยำ ช่วยในการวางแผนการเงินส่วนอื่นได้ง่าย ในขณะที่ดอกเบี้ยลอยตัวอาจทำให้ยอดลดหย่อนผันผวนไปตามภาวะตลาด การพิจารณาความสามารถในการรับความเสี่ยงของเราจึงเป็นสิ่งสำคัญ

การกำหนดระยะเวลาผ่อนชำระ

ระยะเวลาผ่อนชำระที่นานขึ้น อาจหมายถึงค่างวดต่อเดือนที่น้อยลง แต่ก็จะทำให้สัดส่วนดอกเบี้ยในช่วงแรกสูงขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อการนำไปลดหย่อนภาษีได้เต็มเพดาน 100,000 บาท ในทางกลับกัน การผ่อนระยะสั้น แม้จะหมดหนี้เร็ว แต่ยอดดอกเบี้ยต่อปีอาจน้อยกว่า 100,000 บาท ทำให้ใช้สิทธิได้ไม่เต็มที่นัก

การชำระเงินต้นเพิ่ม

การชำระเงินต้นเพิ่ม (โปะบ้าน) เป็นวิธีที่ดีในการลดหนี้และประหยัดดอกเบี้ยในระยะยาว แต่ก็มีผลโดยตรงต่อยอดดอกเบี้ยที่จะนำไปลดหย่อนภาษีในอนาคต หากเราโปะบ้านมาก ยอดเงินต้นจะลดลงเร็ว ทำให้ดอกเบี้ยในปีถัด ๆ ไปน้อยลง สิทธิในการ ลดหย่อนดอกเบี้ยบ้าน ก็จะลดลงตามไปด้วย โดยเราสามารถลงทุนหรือเก็บออมในเงินฝากดอกเบี้ยสูงเพื่อสร้างผลตอบแทนเพื่อมาชำระเงินต้นเพิ่มได้ 

FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษีดอกเบี้ยบ้าน

ในการวางแผน ลดหย่อนดอกเบี้ยบ้าน มักมีคำถามและข้อสงสัยเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในประเด็นที่ซับซ้อน เช่น การรีไฟแนนซ์ หรือสินเชื่อประเภทอื่น ธอส. ได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเหล่านี้ พร้อมคำตอบที่ชัดเจน เพื่อให้เราสามารถใช้สิทธิดอกเบี้ยบ้านลดหย่อนภาษีได้อย่างถูกต้อง

รีไฟแนนซ์บ้านยังใช้ดอกเบี้ยลดหย่อนภาษีได้หรือไม่

ยังคงสามารถใช้สิทธิ ลดหย่อนดอกเบี้ยบ้าน ได้ตามปกติ ตราบใดที่สัญญากู้ยืมใหม่ (รีไฟแนนซ์) ยังคงมีวัตถุประสงค์เพื่อที่อยู่อาศัยเดิม และวงเงินกู้ใหม่ไม่เกินกว่าหนี้เดิม หากวงเงินใหม่สูงกว่าเดิม (กู้เพิ่ม) ดอกเบี้ยในส่วนที่กู้เพิ่มนั้นจะไม่สามารถนำมาลดหย่อนได้ เราจึงต้องคำนวณสัดส่วนดอกเบี้ยที่ใช้ลดหย่อนได้จากยอดหนี้เดิมเท่านั้น

ดอกเบี้ยจากสินเชื่อบ้านแลกเงินลดหย่อนภาษีได้ไหม

ไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ เนื่องจากสินเชื่อประเภทบ้านแลกเงิน หรือสินเชื่ออเนกประสงค์ที่ใช้บ้านค้ำประกัน แม้จะมีหลักประกันเป็นที่อยู่อาศัย แต่วัตถุประสงค์ของการกู้ยืมไม่ได้ระบุว่าเป็นการกู้เพื่อ “ซื้อ สร้าง หรือซ่อมแซม” ที่อยู่อาศัย กรมสรรพากรถือว่าเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล จึงไม่เข้าเงื่อนไขการ ลดหย่อนดอกเบี้ยบ้าน

ผ่อนบ้านนานแค่ไหนถึงเริ่มใช้สิทธิได้

เราสามารถเริ่มใช้สิทธิ ลดหย่อนดอกเบี้ยบ้าน ได้ทันทีในปีภาษีแรกที่มีการจ่ายดอกเบี้ย โดยนับตามปีปฏิทินที่มีการจ่ายจริง ไม่ต้องรอให้ผ่อนครบปี ตัวอย่างเช่น หากเริ่มผ่อนบ้านและจ่ายดอกเบี้ยในเดือนตุลาคม 2568 เมื่อถึงช่วงยื่นภาษีต้นปี 2569 เราก็สามารถนำดอกเบี้ยที่จ่ายจริงใน 3 เดือนนั้น (ตุลาคม-ธันวาคม 2568) มาใช้ลดหย่อนภาษีของปี 2568 ได้เลย

สรุปการเตรียมตัวลดหย่อนภาษี ปี 2568-2569

การใช้สิทธิดอกเบี้ยบ้านลดหย่อนภาษีเป็นประโยชน์สำคัญที่ช่วยลดภาระให้คนมีบ้าน โดยสรุปคือลดหย่อนได้ตามจริงสูงสุด 100,000 บาท และต้องหารเฉลี่ยหากมีผู้กู้ร่วม การเตรียมตัวสำหรับปี 2568-2569 จึงควรเริ่มจากการขอเอกสารรับรองดอกเบี้ยจากธนาคาร ซึ่งลูกค้า ธอส. สามารถดำเนินการขอเอกสารได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน GHB ALL GEN เพื่อความสะดวกในการวางแผนภาษีของเรา

หากคุณสนใจขอสินเชื่อบ้านจาก ธอส. สามารถทำการกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำด้านสินเชื่อ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่

หรือติดต่อได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center : 0-2645-9000

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
-

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณ
อาจสนใจ

สัญญาเช่าบ้าน คือ หนังสือสัญญาเช่าบ้านที่ระบุเงื่อนไขการเช่า ผู้เช่าและผู้ให้เช่าต้องทำเอกสารสัญญาเช่า เพื่อความถูกต้องตามกฎหมาย ลดปัญหาขัดแย้งในอนาคต
สรุปวิธีคิดดอกเบี้ยบ้านลดหย่อนภาษีปี 2568-2569 ลดหย่อนได้ตามจริงสูงสุด 100,000 บาท กรณีกู้ร่วมให้หารเฉลี่ยตามจำนวนผู้กู้ บทความนี้รวมวิธีคำนวณและเงื่อนไข
10 ไอเดียต่อเติมบ้านแบบประหยัด เช่น ครัวนอกบ้าน มุมใต้บันได เพิ่มพื้นที่เก็บของ พร้อมวิธีคุมงบ เลือกวัสดุ และข้อกฎหมาย เพื่อให้ได้บ้านสวยในงบจำกัด

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ค้นหาตาม Keyword เช่น การเงิน, การลงทุน, สินเชื่อ, บ้าน