แบบต่อเติมข้างบ้าน อยากเริ่มต่อเติมต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง

/
/
แบบต่อเติมข้างบ้าน อยากเริ่มต่อเติมต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง

มาดูกันเลยว่าพื้นที่ข้างบ้านของคุณสามารถปรับปรุงหรือต่อเติมให้เป็นพื้นที่แบบไหนได้บ้าง และก่อนเริ่มต่อเติมข้างบ้านจะต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง

การต่อเติมข้างบ้าน เป็นสิ่งที่เจ้าของบ้านหลายๆ หลังอยากทำ เนื่องจากบ้านส่วนใหญ่จะมีพื้นที่โล่งข้างบ้านที่ไม่ค่อยได้ใช้งานอยู่ ซึ่งถ้าหากมีการต่อเติมข้างบ้านให้เป็นห้อง หรือพื้นที่สำหรับใช้ประโยชน์ได้ ก็จะทำให้พื้นที่ใช้สอยของบ้านเพิ่มมากขึ้น

แต่ในการต่อเติมข้างบ้านที่นอกจากจะมีแบบที่อยากทำในใจแล้ว ก็จะมีปัจจัยหลายข้อที่ต้องรู้ก่อนเพื่อไม่ให้การต่อเติมข้างบ้านสร้างปัญหาใหญ่ตามมาภายหลัง 

มาดูกันเลยว่าพื้นที่ข้างบ้านของคุณสามารถปรับปรุง หรือต่อเติมให้เป็นพื้นที่ใช้สอยแบบไหนได้บ้าง และก่อนเริ่มต่อเติมข้างบ้านจะต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง

รู้จักกับการต่อเติมข้างบ้าน

การต่อเติมข้างบ้าน เป็นการต่อเติมเพื่อเพิ่มหรือขยายขอบเขต ในบริเวณด้านข้างตัวบ้าน เช่น สวนข้างบ้าน พื้นที่โล่ง พื้นระเบียง ให้เป็นเฉลียงข้างบ้าน หรือสร้างเป็นห้องปิดที่มีผนัง ที่ทำให้บ้านมีพื้นที่ในการใช้สอยเพิ่มมากขึ้น

แนะนำแบบต่อเติมข้างบ้านที่ได้รับความนิยม 

1. พื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน

แบบการต่อเติมข้างบ้านให้เป็นพื้นที่นั่งเล่น สามารถทำได้ทั้งที่เป็นแบบกลางแจ้ง หรือต่อเติมให้เป็นห้องแบบปิดเลยก็ได้

แบบการต่อเติมข้างบ้านให้เป็นพื้นที่นั่งเล่น
ขอบคุณรูปภาพจาก casadevalentina.com

สำหรับการต่อเติมพื้นที่นั่งเล่นข้างบ้านแบบกลางแจ้ง เพื่อให้คนในบ้านสามารถออกมานั่งเล่นผ่อนคลาย หรือใช้ทำกิจกรรมร่วมกัน หรือใช้รองรับแขก โดยจะใช้การต่อเติมพื้นให้ยกขึ้นมาจากพื้นดิน สำหรับการวางเฟอร์นิเจอร์ เช่น โซฟา เก้าอี้ โต๊ะขนาดใหญ่ และต่อเติมหลังคา สำหรับกันแดดกันฝน ให้สามารถใช้พื้นที่นี้ได้ตลอดทั้งวัน

ส่วนการต่อเติมข้างบ้านให้เป็นห้องนั่งเล่นแบบปิด จะเป็นการต่อเติมผนังและหลังคาเพิ่มเข้ามาจากโครงสร้างบ้านเดิม เพื่อให้ตัวบ้านมีพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจเพิ่มขึ้น โดยอาจเลือกใช้วัสดุกระจกที่ปล่อยให้แสงธรรมชาติส่องได้ตลอดทั้งวัน และยังช่วยให้พื้นที่ที่ต่อเติมขึ้นมาดู ปลอดโปร่งสบายตามากขึ้

2. พื้นที่รับประทานอาหาร

สำหรับแบบต่อเติมข้างบ้านให้เป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ก็สามารถทำได้ทั้งที่เป็นกลางแจ้งมีหลังคา และต่อเติมเป็นห้องปิดที่เชื่อมกับตัวบ้านได้

ขอบคุณรูปภาพจาก parati.com

โดยการต่อเติมข้างบ้านให้เป็นพื้นที่รับประทานอาหารแบบกลางแจ้ง ด้วยการต่อเติมพื้นและหลังคาข้างบ้าน จะช่วยให้มีบรรยากาศของการทานอาหารที่ปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบ เช่น การกินเลี้ยงสังสรรค์ การทำอาหารกลางแจ้ง 

แต่ในส่วนการออกแบบพื้นที่ก็จะต้องดูความเหมาะสมให้ดี โดยหากมีเพื่อนบ้านที่ติดกัน การประกอบอาหารกลางแจ้งก็อาจจะต้องเลี่ยงไป และถ้าอยากให้เป็นพื้นที่สังสรรค์ก็อาจจะต้องก่อสร้างให้เป็นห้องปิด เพื่อไม่ให้มีเสียงรบกวนไปบริเวณใกล้เคียง

3. ห้องสำหรับทำงาน หรืองานอดิเรก

อีกหนึ่งแบบต่อเติมข้างบ้าน ที่ช่วยให้มีพื้นที่ของการทำงานหรือทำงานอดิเรกแยกออกจากพื้นที่อยู่อาศัยได้ ซึ่งนอกจากจะเป็นการเพิ่มมุมส่วนตัวให้สามารถมีสมาธิกับงานที่ทำอยู่แล้ว ยังเป็นการเพิ่มพื้นที่ให้มีความคล่องตัวในการทำงาน และการจัดเก็บข้าวของต่างๆ ได้อย่างเป็นสัดส่วนด้วย

ขอบคุณรูปภาพจาก homeanddecor.com

สำหรับการออกแบบการต่อเติมข้างบ้านให้เป็นห้องทำงาน จะเป็นการก่อผนังขึ้นมาให้เป็นอีกห้องหนึ่งที่เชื่อมต่อกับตัวบ้านได้ และภายในห้องจะใช้เฟอร์นิเจอร์ที่รองรับการทำงานได้อย่างคล่องตัว ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะทำงาน ตู้แบบลอยตัว ชั้นวางของ รวมไปถึงมุมพักผ่อนเล็กๆ สำหรับผ่อนคลายความเหนื่อยล้า ที่สามารถมองออกไปยังสวนนอกบ้านได้

ส่วนการออกแบบการต่อเติมข้างบ้านให้เป็นห้องสำหรับทำงานอดิเรก เช่น ทำสวน วาดภาพ ทำงานฝีมือ ก็สามารถก่อผนังให้เป็นห้องที่เชื่อมกับตัวบ้าน มีช่องแสงธรรมชาติ และทำเป็นมุมหันเข้าผนังสำหรับนั่งทำงาน พร้อมกับออกแบบตู้เก็บของที่มีลิ้นชัก หรือช่องวางของที่มีจำนวนมาก สำหรับเก็บของให้เป็นระเบียบ

4. ห้องสำหรับเลี้ยงสัตว์ระบบปิด

สำหรับบ้านที่เลี้ยงสัตว์ภายในบ้านแบบระบบปิด ก็สามารถต่อเติมข้างบ้านให้เป็นห้องสำหรับสัตว์เลี้ยงได้ ซึ่งจะช่วยให้สัตว์เลี้ยงได้มีพื้นที่อยู่อาศัยแยกออกจากตัวบ้าน ที่สามารถควบคุมได้ทั้งเรื่องกลิ่นและการหมุนเวียนอากาศ

โดยการออกแบบต่อเติมข้างบ้านสำหรับเลี้ยงสัตว์ระบบปิด สามารถสร้างเป็นห้องกระจกที่สัตว์เลี้ยงสามารถมองออกไปภายนอกได้ตลอดเวลา รวมไปถึงมีช่องแสงที่ช่วยให้สัตว์เลี้ยงได้ผ่อนคลาย แต่ถ้าหากบริเวณข้างบ้านมีเพื่อนบ้านอยู่ ก็ต้องออกแบบช่องหน้าต่าง และช่องระบายอากาศให้เหมาะสม ไม่รบกวนเพื่อนบ้านทั้งเรื่องกลิ่นและเสียงด้วย

5. ห้องเก็บของ

อีกหนึ่งห้องที่หลายบ้านอยากมีเพิ่มสำหรับเก็บข้าวของที่ไม่ได้ใช้งานบ่อย หรือจัดทำพื้นที่สำหรับสต๊อกสินค้าก่อนส่งขาย เพื่อให้ภายในบ้านยังคงเป็นระเบียบเรียบร้อย และมีพื้นที่ใช้สอยได้อย่างปกติ

สำหรับการออกแบบต่อเติมข้างบ้านเพื่อทำเป็นห้องเก็บของ สามารถทำได้โดยการต่อเติมผนังและหลังคา เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าวของที่เก็บด้านในเสียหาย ซึ่งห้องนี้ ถ้าหากไม่ได้ใช้งานบ่อย  ก็ไม่จำเป็นต้องทำภายในให้เชื่อมกับตัวบ้านก็ได้ แต่ก็ควรทำประตูเข้าออกให้มิดชิดแน่นหนา และมีหน้าต่างเล็กๆ สำหรับระบายอากาศ

อยากต่อเติมข้างบ้านต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง?

การต่อเติมข้างบ้านเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้กับตัวบ้าน มีสิ่งจะต้องคำนึงถึงก่อนการวางแผนเริ่มงานก่อสร้าง เพื่อไม่ให้ผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร หรือเกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาในภายหลังด้วย

โดยสิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการวางแผนต่อเติมข้างบ้าน ได้แก่

1. ระยะห่างระหว่างตัวบ้านและที่ดินบ้านใกล้เคียง

ก่อนที่จะเริ่มต่อเติมข้างบ้าน สิ่งแรกที่จะต้องดูนั่นคือเรื่องของระยะห่างระหว่างโครงสร้างที่จะต่อเติม กับที่แนวเขตดินบ้านติดกันว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาภายหลังจากการก่อสร้างไปแล้ว

โดยระยะห่างระหว่างตัวบ้านและที่ดินของบ้านที่ติดกัน มีข้อกำหนดดังนี้

  • การต่อเติมข้างบ้านแบบเป็นผนังทึบไม่มีช่องแสง จะต้องห่างจากแนวเขตที่ดินบ้านที่อยู่ติดกันไม่น้อยกว่า 50 เซนติเมตร 
  • การต่อเติมข้างบ้านแบบมีประตู หน้าต่าง กระจกใส ช่องลมระบายอากาศ ช่องแสง จะต้องห่างจากแนวเขตที่ดินบ้านที่อยู่ติดกันไม่น้อยกว่า 2 เมตร
  • การต่อเติมหลังคาหรือกันสาด จะต้องห่างจากแนวเขตที่ดินบ้านที่อยู่ติดกันไม่น้อยกว่า 50 เซนติเมตร

แต่ถ้าหากต้องการต่อเติมให้ชิดกับแนวเขตที่ดินบ้านที่อยู่ติดกัน ก็สามารถเจรจากับเพื่อนบ้านฝั่งที่จะต่อเติม และหากเพื่อนบ้านยินยอมก็จะต้องทำหนังสือยินยอมให้เป็นลายลักษณ์อักษรให้เรียบร้อย จึงจะสามารถต่อเติมให้ชิดกับแนวเขตที่ดินบ้านที่อยู่ติดกันได้

2. ผลกระทบต่อโครงสร้าง

ในการต่อเติมข้างบ้านจะเป็นการก่อสร้างโครงสร้างใหม่ ให้เข้ากับโครงสร้างบ้านเดิม ซึ่งปัญหาเรื่องการทรุดตัวจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากโครงสร้างบ้านเดิมจะอยู่บนเสาเข็มที่ตอกไปแล้ว 

แต่เมื่อมีการต่อเติมผนังที่เป็นโครงสร้างเพิ่มขึ้นมา ปัญหาที่พบได้บ่อยจะเป็นเรื่อง การทรุดตัว แตกร้าว เกิดรอยแยกของผนังออกจากอาคารเดิม รอยต่อหลังคาเกิดการรั่วซึม 

ซึ่งถ้าหากจะป้องกันไม่ให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นสามารถทำได้ด้วยการตอกเสาเข็มเพิ่ม สำหรับโครงสร้างใหม่ และต้องวางแผนป้องกันล่วงหน้าเอาไว้ให้ดีในบริเวณที่เชื่อมกันระหว่างส่วนที่ต่อเติมและโครงสร้างเดิม เพื่อป้องกันปัญหารั่วซึมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

3. ขนาดของการต่อเติม

ในการต่อเติมบ้านไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ข้างบ้าน หน้าบ้าน หรือหลังบ้าน จะไม่สามารถต่อเติมแบบปิดทึบทั้งหมดจนเต็มที่ดินได้ เนื่องจากมีกฎหมายเกี่ยวกับการร่นระยะอาคารและที่เว้นว่างอยู่ ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2543 เพื่อความปลอดภัยเมื่อเกิดอัคคีภัย ง่ายต่อการก่อสร้างหรือซ่อมแซม รวมไปถึงสร้างสุขอนามัยให้กับการอยู่อาศัยที่ดีด้วย

โดยระยะร่น จะวัดตำแหน่งจากถนนสาธารณะไปจนถึงแนวอาคาร ส่วนที่เว้นว่างจะวัดจากเขตที่ดินจนถึงแนวอาคารทั้งจากด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง ซึ่งถ้าหากเป็นที่อยู่อาศัยตามกฏหมายแล้ว จะต้องมีพื้นที่ว่างภายนอกอาคารไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของพื้นที่ชั้นที่กว้างที่สุด

4. ความยิมยอมของเพื่อนบ้าน

ถึงแม้ว่าการวางแผนต่อเติมข้างบ้านของคุณจะขออนุญาตอย่างถูกกฎหมาย และคำนวณพื้นที่มาอย่างดีแล้ว ว่าจะไม่กระทบกับเพื่อนบ้านรั้วติดกัน แต่เพื่อให้เกิดความสบายใจทั้งกับบ้านเราและเพื่อนบ้าน ก็ควรจะแจ้งกับเพื่อนบ้านไปก่อนว่าเราจะทำการต่อเติมบ้าน ในวันไหน ช่วงเวลาไหน และเสร็จสิ้นเมื่อไร

เพราะถ้าหากไม่มีการแจ้งให้เพื่อนบ้านได้รับทราบก่อน และมีการต่อเติมที่ส่งผลกระทบทั้งเรื่องเสียง ฝุ่น หรือมลภาวะต่างๆ ก็อาจจะเสี่ยงที่เราจะถูกฟ้องร้องได้

5. การขออนุญาตต่อเติมบ้าน

ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ในการก่อสร้าง ดัดแปลง ต่อเติมบ้านจะต้องขออนุญาตต่อเติมให้ถูกกฎหมาย 

เช่น การต่อเติมพื้นที่ข้างบ้านมากกว่า 5 ตารางเมตรขึ้นไป เจ้าของบ้านจะต้องทำหนังสือขออนุญาต และยื่นให้กับเจ้าพนักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาก่อน เพื่อป้องกันการถูกสั่งรื้อเพราะต่อเติมบ้านอย่างผิดกฎหมาย ที่จะต้องเสียทั้งเวลาและเงินในการรื้อถอน

โดยเอกสารในการขออนุญาตที่ต้องเตรียม มีดังนี้

  • แบบขออนุญาตก่อสร้าง (แผนผังบริเวณ แบบแปลน รายการประกอบแบบแปลน)
  • รายการคำนวณจากวิศวกร
  • หนังสือยินยอมจากเพื่อนบ้าน ในกรณีที่ต่อเติมข้างบ้านชิดกับแนวเขตที่ดินบ้านที่อยู่ติดกัน
  • สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาโฉนดที่ดิน
  • เอกสารจากเขต 

แต่ก็มีข้อกำหนดสำหรับการต่อเติมบ้านที่ไม่จำเป็นต้องขออนุญาต และยังถูกกฎหมาย ซึ่งได้แก่

  • การเพิ่มหรือลดพื้นที่ไม่เกิน 5 ตารางเมตร
  • การเพิ่มหรือลดพื้นที่หลังคาไม่เกิน 5 ตารางเมตร และไม่เพิ่มหรือลดจำนวนคานหรือเสา
  • การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างด้วยวัสดุเดิมขนาด ชนิดเดิม จำนวนเท่าเดิม 
  • การเปลี่ยนแปลงส่วนใดๆ ที่ไม่ใช่โครงสร้างเดิม และไม่เพิ่มน้ำหนักให้โครงสร้างเดิมเกิน 10%
  • การเปลี่ยนแปลง ต่อเติม เพิ่ม ลด เนื้อที่ส่วนต่างๆ ของบ้าน ที่ไม่เพิ่มน้ำหนักให้โครงสร้างเดิมเกิน 10%

แต่ถ้าหากคุณพบว่าในการต่อเติมข้างบ้านไม่เข้าเกณฑ์ตามข้อกำหนด ก็จะต้องทำเรื่องขออนุญาตต่อเติมให้ถูกกฎหมาย

ขอสินเชื่อเพื่อต่อเติมบ้านกับ ธอส.

เจ้าของบ้านที่กำลังวางแผนซ่อมแซม หรือต่อเติมข้างบ้าน ธอส. มีผลิตภัณฑ์สินเชื่อสำหรับต่อเติมบ้านโดยเฉพาะมาเสนอให้กับคุณกับ สินเชื่อบ้านสร้างสมใจ 

หรือคุณสามารถทำการกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำด้านสินเชื่อ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่

เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ที่คอยให้คำแนะนำ พร้อมเปรียบเทียบและหยิบยื่นข้อเสนอด้านสินเชื่อที่ดีที่สุดให้กับคุณ ติดต่อเราได้ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ

G H BANK Call Center: 02 645 9000

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
-

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณ
อาจสนใจ

เจาะลึก 9 สาเหตุที่ทำให้กู้บ้านไม่ผ่าน พร้อมวิธีแก้และเทคนิคการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนยื่นกู้ เพื่อให้คุณมีบ้านในฝันได้ง่ายขึ้น
รวมข้อมูลสินเชื่อต่อเติมบ้าน ธอส. 2567 ดอกเบี้ยเริ่ม 2.60% ผ่อนนาน 40 ปี พร้อมเงื่อนไขและคุณสมบัติผู้กู้ที่คุณต้องรู้
การออมเงินที่เหมาะสมสำหรับวัยเกษียณ เปรียบเทียบข้อดีระหว่างหวยเกษียณ เงินฝากประจำ และสลากออมทรัพย์ พร้อมคำแนะนำที่ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ค้นหาตาม Keyword เช่น การเงิน, การลงทุน, สินเชื่อ, บ้าน