รู้หรือไม่!? ที่อยู่อาศัยของท่านก็มีประกันภัยที่คอยให้ความคุ้มครองเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง หากมีภัยที่ก่อให้เกิดความเสียหายใหญ่ ๆ ทำให้ที่อยู่อาศัยของท่านเสียหายขึ้นมา อาจจะทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเป็นเงินก้อนใหญ่ ประกันอัคคีภัยบ้าน จึงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่จะช่วยคุ้มครองการเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเช่นนี้
โดยในบทความนี้ ธอส. จะพาคุณมารู้จักกับ ประกันอัคคีภัยบ้าน ซึ่งจะช่วยคุ้มครองที่พักอาศัยของคุณจากการเกิดเหตุ ไฟไหม้และวินาศภัย ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง เรามาดูกันเลยว่าประกันอัคคีภัยนี้มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง!
- ประกันอัคคีภัยบ้านคืออะไร
- ประกันอัคคีภัยบ้านสำคัญอย่างไร
- ประกันอัคคีภัยบ้านและทรัพย์สินมีกี่ประเภท
- ประกันอัคคีภัยจำเป็นหรือไม่?
- อัตราเบี้ยประกันของประกันอัคคีภัย
- ประกันอัคคีภัยให้ความคุ้มครองกรณีใดบ้าง?
- วิธีคำนวณค่าประกันอัคคีภัยบ้าน
- 5 เหตุผลสำคัญที่ควรทำประกันอัคคีภัยบ้าน
- ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกประกันอัคคีภัย
- ชำระเบี้ยประกันอัคคีภัยบ้านผ่านแอปฯ GHB ALL
- คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประกันอัคคีภัยบ้าน
ประกันอัคคีภัยบ้านคืออะไร
ประกันอัคคีภัยบ้าน หรือที่บางคนเรียกว่า ประกันไฟไหม้บ้าน คือหนึ่งในประกันวินาศภัยที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้และภัยอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับที่อยู่อาศัย โดยครอบคลุมทั้งความเสียหายที่เกิดจากธรรมชาติ เช่น ไฟป่า และเหตุสุดวิสัยจากมนุษย์ อย่างไฟฟ้าลัดวงจร หรือเพลิงไหม้จากแก๊สหุงต้มในครัวเรือน
ประกันอัคคีภัยบ้านสำคัญอย่างไร
หลายคนอาจเกิดความสงสัยว่าประกันอัคคีภัยบ้านต้องทําไหมหรือประกันอัคคีภัยบ้านบังคับไหม โดยประกันอัคคีภัยบ้าน มีความสำคัญที่ครอบคลุมรอบด้าน ทั้งสำหรับเจ้าของบ้านและสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อ ดังนี้
- สำหรับผู้ที่กำลังผ่อนบ้าน การทำประกันอัคคีภัยบ้านเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับการขอสินเชื่อบ้านจากสถาบันการเงิน เพื่อลดความเสี่ยงของทั้งผู้กู้และผู้ให้กู้ โดยจะต้องทำประกันต่อเนื่องไปจนกว่าการผ่อนชำระสินเชื่อจะสิ้นสุดลง
- สำหรับเจ้าของบ้าน แม้ว่าตามกฎหมาย เจ้าของบ้านที่ไม่ได้อยู่ระหว่างการผ่อนชำระสินเชื่อไม่จำเป็นต้องทำประกันอัคคีภัยบ้าน แต่การทำประกันก็เป็นการลดความเสี่ยงจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเหตุเพลิงไหม้จากธรรมชาติ ไฟไหม้ที่ลุกลามจากบ้านเพื่อนบ้าน หรือเหตุสุดวิสัยอื่น ๆ
การตัดสินใจทำประกันอัคคีภัยบ้าน จะช่วยให้เจ้าของบ้านมีเงินมารองรับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือสร้างบ้านใหม่ทั้งหมดด้วยตัวเอง
ประกันอัคคีภัยบ้านและทรัพย์สินมีกี่ประเภท
หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกับประกันอัคคีภัยบ้าน รวมถึงความสำคัญของประกันภัยชนิดนี้กันไปแล้ว โดยประกันอัคคีภัยบ้านและทรัพย์สิน สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท เพื่อตอบสนองความเสี่ยงภัยของผู้เอาประกันภัยที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. ประกันอัคคีภัยบ้าน สำหรับที่อยู่อาศัย
ประกันอัคคีภัยบ้าน ประเภทนี้ให้ความคุ้มครองสิ่งปลูกสร้าง (ไม่รวมฐานราก) ซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัย เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด ตึกแถวสำหรับอยู่อาศัย ห้องชุดสำหรับอยู่อาศัยในแฟลต อาคารชุด หรือคอนโดมิเนียม
นอกจากนี้ ยังครอบคลุมถึงทรัพย์สินภายในสิ่งปลูกสร้างนั้น เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องตกแต่ง เครื่องใช้ภายในบ้านและอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน เครื่องดนตรี เครื่องเสียง เครื่องครัว เครื่องนุ่งห่ม หรือทรัพย์สินอื่น ๆ เพื่อการอยู่อาศัย
ประกันอัคคีภัยบ้าน สำหรับที่อยู่อาศัยให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดจาก
- ไฟไหม้
- ฟ้าผ่า (รวมถึงความเสียหายต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เกิดจากการลัดวงจรจากฟ้าผ่า)
- ระเบิด
- ภัยจากการเฉี่ยว หรือการชนของยานพาหนะหรือสัตว์พาหนะ เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย
- ภัยจากอากาศยาน และ/หรือวัตถุที่ตกจากอากาศยาน รวมถึงจรวดซึ่งขับเคลื่อนด้วยตัวเองและยานอวกาศ (ยกเว้นจรวดที่เป็นอาวุธ)
- ภัยเนื่องจากน้ำ อันเกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุจากการปล่อย การรั่วไหล หรือการล้นออกมาของน้ำหรือไอน้ำจากท่อน้ำ ถังน้ำ ระบบทำความร้อน ระบบทำความเย็น ระบบปรับอากาศ เครื่องสูบน้ำ และรวมถึงน้ำฝนที่ไหลผ่านเข้าไปภายในอาคารจากการเสียหายของหลังคา หน้าต่าง ประตู วงกบประตูหน้าต่าง ช่องลม ช่องรับแสงสว่าง ท่อน้ำหรือรางน้ำ
- ภัยจากลมพายุ
- ภัยจากน้ำท่วม
- ภัยจากแผ่นดินไหว หรือภูเขาไฟระเบิด หรือคลื่นใต้น้ำ หรือสึนามิ ที่มีสาเหตุจากธรรมชาติ
- ภัยจากลูกเห็บ
สำหรับภัยธรรมชาติตั้งแต่ข้อ 7-10 บริษัทประกันจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง โดยทุกภัยรวมกันแล้วไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี นอกจากนี้ ประกันอัคคีภัยบ้าน ยังขยายความคุ้มครองถึงค่าเช่าที่อยู่อาศัยชั่วคราว ในกรณีที่สิ่งปลูกสร้างที่เอาประกันภัยได้รับความเสียหายจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้
2. ประกันอัคคีภัยสำหรับสถานประกอบธุรกิจ
ประกันอัคคีภัย สำหรับสถานประกอบธุรกิจให้ความคุ้มครองอาคารและสิ่งปลูกสร้าง (ไม่รวมฐานราก) ที่ใช้เป็นที่ประกอบกิจการต่าง ๆ เช่น ร้านค้า โรงภาพยนตร์ ศูนย์การค้า โกดัง หรือโรงงานอุตสาหกรรม
ความคุ้มครองยังรวมถึงทรัพย์สินใด ๆ ที่เอาประกันภัยไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องตกแต่งติดตั้ง อุปกรณ์สำนักงาน เครื่องใช้ไฟฟ้า สต๊อกสินค้า หรือเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตสินค้า
ประกันอัคคีภัย สำหรับสถานประกอบธุรกิจให้ความคุ้มครองความเสียหายเนื่องจาก
- ไฟไหม้ (แต่ไม่รวมถึงการระเบิดอันเป็นผลมาจากไฟไหม้ เว้นแต่แรงระเบิดของแก๊สใช้สำหรับทำแสงสว่างหรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัย)
- ฟ้าผ่า
- การระเบิดของแก๊สที่ใช้สำหรับทำแสงสว่างหรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้น (ยกเว้นการระเบิดของแก๊สเนื่องจากภัยแผ่นดินไหว)
นอกจากนี้ ผู้เอาประกันภัยยังสามารถขอซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมสำหรับความเสียหายจากภัยอื่น ๆ ได้ เช่น ภัยแผ่นดินไหว ภัยน้ำท่วม ภัยจากลูกเห็บ ภัยนัดหยุดงาน การจลาจลและการกระทำอันมีเจตนาร้าย หรือภัยต่อเครื่องไฟฟ้า
3. ประกันภัยความเสี่ยงทรัพย์สิน
การประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สินมีพื้นฐานมาจากการประกันอัคคีภัย แต่ให้ความคุ้มครองที่กว้างกว่า โดยครอบคลุมความเสียหายอันเป็นผลมาจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นโดยฉับพลันจากปัจจัยภายนอก ซึ่งผู้เอาประกันภัยมิได้เจตนาหรือมุ่งหวัง
ข้อตกลงคุ้มครองของการประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สินเป็นการกำหนดแบบสรรพภัย คือ กรมธรรม์ประกันภัยจะให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งมิได้ถูกระบุยกเว้นไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย จึงอาจเห็นว่ามีการเขียนข้อยกเว้นไว้มากกว่าในการประกันภัยอื่น ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าสิ่งใดจะไม่ได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย
ประกันอัคคีภัยจำเป็นหรือไม่?
ประกันอัคคีภัย คือ ประกันภัยภาคบังคับ ที่ต้องจัดให้ทำสำหรับลูกค้าที่ขอสินเชื่อและนำหลักประกันมาจดจำนองไว้กับสถาบันการเงิน เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องมีอย่างแน่นอน!
เนื่องจากเป็นประกันภาคบังคับ ทางธนาคารจึงจะแจ้งแก่ลูกค้าให้ทราบในทันทีที่ดำเนินการขอสินเชื่อ โดยประกันอัคคีภัยจะเริ่มให้ความคุ้มครองในวันที่ทำนิติกรรม โดยให้ความคุ้มครองตัวอาคารสิ่งปลูกสร้าง จากการเกิดวินาศภัย ที่เกิดจากเหตุสุดวิสัย เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร การระเบิดของแก๊สหุงต้ม ภัยเนื่องจากน้ำ (ไม่รวมน้ำท่วม) หรือภัยธรรมชาติต่างๆ
โดยกรมธรรม์ประกันนั้น จะให้ความคุ้มครองระยะสั้นราว 1-3 ปี ผู้กู้ หรือผู้ถือกรรมสิทธิ์ จึงต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันในทุกๆ รอบระยะเวลานี้
อัตราเบี้ยประกันของประกันอัคคีภัย
อัตราค่าเบี้ยประกันของประกันอัคคีภัยนั้นไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกันภัย แต่โดยมากจะใช้เงื่อนไขต่างๆ ในการกำหนดราคา ดังนี้
- ลักษณะการใช้สถานที่
- ลักษณะของสิ่งปลูกสร้างประเภทอาคาร (กำหนดตามวัสดุที่ใช้สำหรับโครงสร้าง ผนัง พื้นของอาคาร) และสถานที่ตั้ง
- ลักษณะภัยของสถานที่เอาประกันภัย (ภัยโดดเดี่ยว/ภัยไม่โดดเดี่ยว)
ประกันอัคคีภัยให้ความคุ้มครองกรณีใดบ้าง?
สำหรับคำถามว่าประกันอัคคีภัยคุ้มครองอะไรบ้าง โดยประกันอัคคีภัยจะให้ความคุ้มครองในที่พักอาศัยประเภทบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ อาคารตึกแถว แฟลตหรือคอนโดมิเนียม โดยจะให้ความคุ้มครองกรณีเพลิงไหม้จากเหตุการณ์ดังนี้
- ไฟไหม้
- ฟ้าผ่า รวมถึงความเสียหายต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เกิดการลัดวงจรเนื่องจากฟ้าผ่า
- ภัยระเบิด
- ภัยจากยวดยานพาหนะ
- ภัยจากอากาศยาน หรือวัตถุที่ตกจากอากาศยาน
- ภัยเนื่องจากน้ำ (ไม่รวมน้ำท่วม)
โดยหากเกิดเหตุเพลิงไหม้ จะให้การชดเชยในทรัพย์สินต่างๆ ดังนี้
- ตัวอาคารที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย (ไม่รวมรากฐาน)
- ห้องชุด อาคารชุด แฟลต หรือคอนโดมิเนียม
- ทรัพย์สินที่อยู่ภายในสิ่งปลูกสร้าง เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า ฯลฯ
- ทรัพย์สินอื่นที่มีมูลค่าสูงเช่น คอมพิวเตอร์ เครื่องจักร ฯลฯ
หมายเหตุ: นอกจากประกันอัคคีภัยแล้ว ยังมีประกันภัยบ้านอื่นๆ อีกมากมายที่ให้ความคุ้มครองแตกต่างกัน สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บทความ >>> “ประกันภัยบ้าน” สิ่งจำเป็นที่หลายคนมองข้าม
กรณีใดที่ประกันอัคคีภัยไม่ให้ความคุ้มครอง?
แม้ว่าประกันอัคคีภัยจะให้ความคุ้มครองการเกิดเหตุเพลิงไหม้ แต่ก็มีบางกรณีที่เป็นข้อยกเว้นเช่นกัน ได้แก่
- เหตุเพลิงไหม้ที่ผู้เอาประกันมีส่วนรู้เห็น หรือมีส่วนร่วมด้วย
- ความเสียหายจากการเผาทรัพย์สินโดยคำสั่งของเจ้าพนักงานที่มีอำนาจหน้าที่
- ภัยจากสงคราม การก่อการร้าย การจราจล การรุกราน การก่อความวุ่นวายทางการเมือง การก่อวินาศกรรม การนัดหยุดงาน
- ระเบิดนิวเคลียร์ การแผ่ของสารกัมมันตรังสี หรือจากกากนิวเคลียร์
นอกจากนี้ ยังมีทรัพย์สินบางประเภทที่อยู่นอกเหนือความคุ้มครองของประกันอัคคีภัยบ้าน ได้แก่
- สินค้าที่อยู่ในการดูแลรักษาของผู้เอาประกันภัย หรือในฐานะผู้ดูแลรักษา
- เงินแท่ง เงินรูปพรรณ ทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ อัญมณี หรือของมีค่า
- โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ อันมีมูลค่ารวมกันเกินกว่า 10,000 บาท
- เอกสารสำคัญต่างๆ แบบแปลน แผนผัง ภาพเขียน รูปออกแบบ สมุดบัญชี รวมถึงเงินตรา และธนบัตร
- เครื่องใช้ไฟฟ้า แผงวงจรไฟฟ้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สายไฟหรือหลอดไฟฟ้า ที่ได้รับความสียหายเนื่องจากการเดินเครื่องเกินกำลัง
- วัตถุระเบิด
- ยานพาหนะทุกชนิด ไม่ว่า ทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศ
วิธีคำนวณค่าประกันอัคคีภัยบ้าน
เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะทำประกันอัคคีภัยบ้าน สิ่งสำคัญจะต้องรู้ว่าประกันอัคคีภัยบ้านราคาเท่าไหร่ที่จะครอบคลุมความเสียหายต่อตัวบ้านและทรัพย์สิน ซึ่งการคำนวณค่าประกันอัคคีภัยบ้านเบื้องต้นสามารถทำได้ด้วยตนเอง โดยใช้สูตรดังนี้
คำนวณมูลค่าของบ้าน มูลค่าของบ้าน (บาท) = พื้นที่ใช้สอยชั้นล่าง (ตร.ม.) x จำนวนชั้น x ราคาค่าก่อสร้างต่อตารางเมตร (บาท)
คำนวณมูลค่าทรัพย์สิน มูลค่าของทรัพย์สิน = (มูลค่าของบ้าน x 20%) + มูลค่าทรัพย์สินอื่นๆ (บาท)
คำนวณเบี้ยประกัน เบี้ยประกันโดยประมาณ = (มูลค่าของบ้าน + มูลค่าของทรัพย์สิน) x 0.1%
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการคำนวณเบื้องต้นเท่านั้น อัตราเบี้ยประกันที่แท้จริงอาจแตกต่างกันไปตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกัน และปัจจัยอื่น ๆ เช่น ทำเลที่ตั้ง ประเภทของสิ่งปลูกสร้าง และความคุ้มครองเพิ่มเติมที่เลือก ซึ่งสามารถสอบถามเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ และศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนตัดสินใจเลือกทำประกันอัคคีภัยบ้าน
5 เหตุผลสำคัญที่ควรทำประกันอัคคีภัยบ้าน
มาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายคนคงเห็นความสำคัญของการทำประกันอัคคีภัยบ้านแล้ว ที่ไม่ได้มีไว้เพียงเพื่อความอุ่นใจเท่านั้น แต่ยังเป็นการเพิ่มความคุ้มครองให้กับทรัพย์สินในสถานการณ์คับขันที่ไม่อาจรู้ล่วงหน้าได้ มาดูกันว่า 5 เหตุผลสำคัญที่ควรทำประกันอัคคีภัยบ้าน มีอะไรบ้าง
1. คุ้มครองจากภัยพิบัติธรรมชาติและอุบัติเหตุ
การหลีกเลี่ยงภัยพิบัติจึงเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ประกันอัคคีภัยบ้านจึงเป็นตัวเลือกสำคัญในการคุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติและอุบัติเหตุต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยจากไฟไหม้ ภัยจากฟ้าผ่า ภัยจากน้ำ หรือภัยพิบัติธรรมชาติอื่น ๆ รวมทั้งความเสียหายจากอุบัติเหตุต่าง ๆ การทำประกันอัคคีภัยบ้านจึงเป็นเสมือนการสร้างเกราะป้องกันให้กับบ้านของคุณ ให้พร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา
2. อุ่นใจเรื่องที่อยู่อาศัย
การสูญเสียบ้านไม่เพียงแต่เป็นความเสียหายทางวัตถุเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบทางจิตใจอย่างมาก ประกันอัคคีภัยบ้านจะช่วยให้คุณอุ่นใจได้ว่าจะมีที่พักพิงแม้ในยามวิกฤต เพราะคุ้มครองเรื่องที่พักฉุกเฉิน คุ้มครองค่าเช่าบ้านชั่วคราว การทำประกันอัคคีภัยบ้านจึงไม่เพียงแต่ปกป้องตัวบ้านเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าจะมีที่พักพิงที่อบอุ่นและปลอดภัยสำหรับคุณและครอบครัวเสมอ
3. ช่วยแบ่งเบาค่าเสียหาย
เมื่อเกิดความเสียหายกับบ้าน ไม่เพียงแต่ค่าซ่อมแซมหรือสร้างใหม่เท่านั้นที่เป็นภาระ แต่ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ตามมาอีกมากมาย ประกันอัคคีภัยบ้าน สามารถช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นค่าซ่อมแซมหรือสร้างบ้านใหม่ ค่าทดแทนทรัพย์สินภายในบ้าน ค่ารื้อถอนและขนย้ายซากทรัพย์ ค่าใช้จ่ายในการดับเพลิง หรือค่าที่พักอาศัยชั่วคราว
การทำประกันอัคคีภัยบ้านจึงเป็นเสมือนการวางแผนทางการเงินอย่างชาญฉลาด ช่วยให้คุณไม่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายมหาศาลเพียงลำพังเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แม้ว่าการจ่ายเบี้ยประกันอาจดูเหมือนเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่เมื่อเทียบกับความคุ้มครองและความอุ่นใจที่ได้รับ ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง
4. เพิ่มความมั่นคงให้ชีวิต
การทำประกันอัคคีภัยบ้านจึงไม่ใช่เพียงการป้องกันความเสียหายทางกายภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับชีวิตของคุณและครอบครัว ช่วยให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจและมีความสุขมากขึ้น
5. มีผู้ช่วยตลอดเวลา
การทำประกันอัคคีภัยบ้านไม่ได้ให้เพียงความคุ้มครองทางการเงินเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับบริการเสริมที่จะช่วยให้คุณรู้สึกเหมือนมีผู้ช่วยคอยดูแลบ้านของคุณตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งการบริการด้านประปา บริการด้านไฟฟ้า บริการซ่อมเครื่องทำน้ำร้อน บริการซ่อมตู้เย็น หรือบริการกำจัดสัตว์ดุร้าย จึงเหมือนกับการมีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลบ้านของคุณตลอดเวลา ช่วยให้คุณรู้สึกอุ่นใจและพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกประกันอัคคีภัย
ประกันอัคคีภัยนั้นมีให้เลือกมากมายหลายบริษัท โดยในขั้นตอนการเลือกทำประกัน นั้น ธอส. อยากให้คุณพิจารณาเงื่อนไขต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจ ดังนี้
- ควรเลือกบริษัทที่ให้ความคุ้มครอง หรือให้เงินชดเชยเป็นจำนวนอย่างต่ำ 70% ของราคาสินทรัพย์ เนื่องจากเหตุเพลิงไหม้นั้นสร้างความเสียหาย
- หายรุนแรงรอบตัวบ้าน จึงควรเลือกเพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายจากความเสียหายส่วนใหญ่ได้
- ควรอ่านเงื่อนไขกรมธรรม์ และทำการเปรียบเทียบกับเจ้าอื่น ๆ ให้ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของตัวเองให้มากที่สุด
- หากทำประกันมากกว่า 1 ที่ บริษัทประกันนั้นจะแบ่งความรับผิดชอบในการชดใช้ค่าเสียหายคนละครึ่ง ไม่ใช่ได้รับเงินชดเชย 2 เท่าแต่อย่างใด
ชำระเบี้ยประกันอัคคีภัยบ้านผ่านแอปฯ GHB ALL
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่ทำประกันอัคคีภัยบ้าน ธอส. สามารถทำการชำระเบี้ยประกันอัคคีภัยบ้านได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน GHB ALL
บริการใหม่ล่าสุดจาก GHB ALL เปิดให้ลูกค้าที่ครบกำหนดต่ออายุกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยบ้าน สามารถชำระค่าเบี้ยประกัน ได้ในระหว่างวันที่ 1-31 พฤษภาคมของทุกปี โดยมีวิธีชำระเบี้ยประกันอัคคีภัยบ้านได้ง่าย ๆ ดังนี้
- เปิดแอป GHB ALL
- เลือก “ชำระ”
- เลือก “ชำระค่าประกันอัคคีภัย”
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน GHB ALL ได้ที่
Android:
IOS:
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือติดตามข้อมูลข่าวสารของธนาคารได้ที่
โทร: 0-2645-9000
เว็บไซต์: www.ghbank.co.th
Facebook: ธนาคารอาคารสงเคราะห์
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประกันอัคคีภัยบ้าน
ทำประกันอัคคีภัยบ้านใช้เอกสารอะไรบ้าง
สำหรับเอกสารที่ใช้ประกอบการทำประกันอัคคีภัยบ้าน ได้แก่ สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประชาชนของเจ้าบ้าน (ในกรณีที่เป็นเจ้าของสิ่งปลูกสร้าง)
ประกันอัคคีภัยบ้านคุ้มครองกี่ปี
ระยะเวลาการคุ้มครองของประกันอัคคีภัยบ้าน ส่วนใหญ่แล้วจะมีทั้งแบบแผน ประกันอัคคีภัยบ้าน 2 ปี ประกันอัคคีภัยบ้าน 3 ปี หรือบางแผนที่ครอบคลุม 5 ปีขึ้นไป และจะต้องมีการต่อประกันเรื่อย ๆ จนกว่าจะผ่อนบ้านหมด
ประกันอัคคีภัยมีกี่ประเภท
โดยส่วนใหญ่แล้วประกันอัคคีภัยมีด้วยกัน 2 ประเภท คือ ประกันอัคคีภัยทั่วไป และประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย
มีประกันบ้านแล้ว ประกันอัคคีภัยบ้านยังจำเป็นอยู่ไหม?
หากมีประกันภัยบ้านแล้วการทำประกันอัคคีภัยบ้าน เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกบ้านควรมี เพราะเป็นการรองรับความเสี่ยงหากเกิดการโจรกรรม หรือไฟไหม้บ้าน รวมทั้งคุ้มครองไปจนถึงภัยธรรมชาติ
ซื้อบ้านต้องทำประกันอัคคีภัยไหม
เมื่อซื้อบ้านแล้วประกันอัคคีภัยยังมีความจำเป็นอย่างมาก เพราะการทำประกันอัคคีภัยเป้นมากกว่าแค่เรื่องไฟไหม้บ้าน แต่ยังให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากภัยธรรมชาติและอุบัติเหตุอื่น ๆ ต่อที่อยู่อาศัย