ปี 2567 นี้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแบบเต็มรูปแบบ หรือ Super Aged Society กล่าวคือ มีอัตราผู้สูงอายุตั้งแต่ 70 ปี ขึ้นไปมากกว่า 20% แต่คำถาม คือ เราพร้อมที่จะดูแลผู้สูงอายุในบ้านกันแล้วหรือยัง?
ชีวิตในแต่ละช่วงวัยมีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน ทำให้สิ่งแวดล้อมรอบตัวเปลี่ยนตามไปด้วย นอกจากวัยเด็กที่ต้องระวังในเรื่องของอุบัติเหตุ อาหารการกินแล้ว วัยสูงอายุก็มีความสำคัญที่ต้องระมัดระวังเช่นกัน โดยเฉพาะบ้านที่ท่านจะใช้เวลาอยู่มากที่สุด ฉะนั้นเราต้องเตรียมความพร้อมสำหรับดูแลผู้สูงอายุภายในบ้านกันว่า บ้านที่ดีสำหรับผู้สูงอายุควรเป็นอย่างไร?
บ้านสำหรับผู้สูงอายุที่ดีควรเป็นอย่างไร
หลายๆ ครอบครัวอาจกำลังมองหาบ้านสำหรับผู้สูงอายุกันอยู่ แต่ไม่รู้ว่าบ้านที่ดีควรเป็นอย่างไร เรามีเกณฑ์การคัดเลือกบ้านที่ดีสำหรับผู้สูงอายุมาฝากกัน รวมทั้งทริกการเลือกบ้านที่ปลอดภัยเหมาะกับผู้สูงอายุ มีสิ่งหลักๆ ที่ต้องคำนึงถึงอยู่ 3 อย่าง ดังนี้
1.บ้านที่มีความสะดวก และปลอดภัย
การออกแบบดีไซน์และฟังก์ชั่นที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สูงอายุ เช่น ห้องน้ำ ห้องนอน ห้องโถง ทางเดิน จนกระทั่งอุปกรณ์ต่างๆ ที่สามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ท่านได้ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นได้เสมอ และสามารถรองรับความปลอดภัยในการใช้ชีวิตได้
2. บ้านที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก
ถึงแม้อายุจะมากขึ้น แต่ยังต้องการกิจกรรมที่ผ่อนคลายการใช้ชีวิตเช่นกัน การอุดอู้อยู่แต่ในบ้าน ก็อาจจะเป็นสิ่งที่น่าเบื่อเกินไปสำหรับผู้สูงอายุ ดังนั้นบ้านสำหรับผู้สูงอายุที่ดี ควรมีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ให้ผ่านได้คลายเครียด และได้มีการขยับเขยื้อนร่างกายได้
3. บ้านที่มีสภาพแวดล้อมที่ดี
จะมองไปทางไหนก็เจอแต่กำแพงทั้ง 4 ด้าน แบบนั้นคงไม่ใช่บ้านที่ดีนัก ลูกๆ หลานๆ อาจจะกังวลว่าท่านจะล้ม หรือเกิดอุบัติเหตุจึงจัดพื้นทีที่มีแต่ผนังล้อมทุกด้านไว้ แต่สุขภาพจิตที่ดีก็นำมาซึ่งความสุข และร่างกายที่แข็งแรง บ้านสำหรับผู้สูงอายุจึงจำเป็นต้องมีความโปร่งโล่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวกและมีแสงสว่างส่องเข้าถึง บริเวณรอบนอกบ้านสามารถนอกเห็นพื้นที่สีเขียวเติมได้ เพื่อเพิ่มความสดชื่นและช่วยให้ผู้สูงอายุมีความสุขมากยิ่งขึ้น
เช็กลิสต์ 10 สิ่งที่ต้องคำนึงเมื่อมีผู้สูงอายุอยู่ในบ้าน
บ้านที่อยู่แล้วปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ นอกจากจะมีความปลอดภัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมทั้งพื้นที่ผ่อนคลายแล้ว ภายในบ้านก็มี 10 สิ่งที่บ้านสำหรับผู้สูงอายุที่ควรคำนึงถึง มาเช็กลิสต์ไปพร้อมกัน ดังนี้
1. ประตู
มาถึงเรื่องที่หลายคนมองข้าม นั่นก็คือประตูในห้องต่างๆ ต้องมีความกว้างพอ เพื่อรองรับรถเข็นให้สามารถเข็นเข้าได้ โดยทั่วไป ประตูปกติจะมีความกว้างอยู่ที่ 70 ซม. แต่ประตูบ้านสำหรับผู้สูงอายุต้องมีความกว้างอย่างน้อย 90 ซม. ขึ้นไป และต้องไม่เปิดยากจนเกินไป ควรเป็นแบบเลื่อนเพื่อความสะดวกในการเปิด-ปิด และน้ำหนักเบา ต้องไม่เปิดยากจนเกินไป รวมถึงการติดตั้งที่ปลอดภัย ไม่ชำรุดเสียหายได้ง่าย ถึงแม้ท่านเป็นผู้สูงอายุก็อยากจะเดินเหินสะดวกเหมือนวัยหนุ่มสาวเช่นกัน
2. เฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ
หากพูดถึงเรื่องเฟอร์นิเจอร์ในบ้านผู้สูงอายุต้องระมัดระวังอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเหลี่ยมคมของขอบโต๊ะ เก้าอี้ ความสูงเตียง เพื่อความสะดวกไม่ให้ท่านต้องก้มมากนักเพราะผู้สูงอายุหน้ามืดได้ง่าย หากมีเฟอร์นิเจอร์ที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดอันตรายได้ รวมถึงน้ำหนักที่ต้องเบา จับถนัดมือ รวมถึงปลั๊กไฟควรอยู่ระดับอก จะได้ไม่ต้องให้ท่านก้มลงจนเกิดอาการหน้ามืดขึ้นมา
3. แผ่นกันลื่นในห้องน้ำ
อุบัติเหตุภายในห้องน้ำเกิดขึ้นได้บ่อยที่สุด เพราะเป็นพื้นที่ที่มีความเปียก มีโอกาสล้มได้ง่ายกว่าพื้นที่อื่นภายในบ้าน ห้องน้ำในบ้านผู้สูงอายุจึงควรแบ่งแยกโซนอย่างชัดเจน ระหว่างโซนอาบน้ำ และโซนสุขภัณฑ์ เพื่อป้องกันน้ำที่กระเด็นมาที่พื้นที่ส่วนอื่นจนเกิดอันตรายได้ และในโซนเปียกควรติดตั้งแผ่นกันลื่นในห้องน้ำ เพื่อเป็นตัวช่วยยึดเกาะพื้น ป้องกันไม่ให้ลื่นในห้องน้ำ
4. ทางลาด
บ้านใดที่มีผู้สูงอายุที่ต้องใช้รถเข็น อย่าลืมเตรียมทางลาดสำหรับการเคลื่อนไหวของรถเข็น เริ่มตั้งแต่ ทางเข้าบ้านก่อน หรือจะรวมถึงพื้นที่ที่เชื่อมระหว่างห้องเช่นห้องน้ำไปห้องครัว ห้องนั่งเล่นไปห้องน้ำ เพราะผู้สูงวัยบางท่าน ไม่อยากให้ลูกหลานลำบากจึงเลือกเคลื่อนไหวบนรถเข็นด้วยตัวเอง หากพื้นที่ไม่เตรียมพร้อมสำหรับรถเข็น จะยิ่งเกิดอันตรายได้ง่าย ที่สำคัญคือหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา ผู้สูงวัยจะลุกตัวได้ยากเพราะจะถูกรถเข็นทับจนเหตุการณ์อันตรายกว่าเดิม การเตรียมทางลาดสำหรับท่าน ก็ช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้
5. ราวจับพยุงตัว
เพราะการเคลื่อนไหวที่ไม่สะดวกนักเหมือนวัยอื่น การจะเคลื่อนที่แต่ละครั้งจึงต้องใช้เวลา ยิ่งบ้านใดมีผู้สูงอายุตั้งแต่อายุ 70 ปีขึ้นไป ยิ่งต้องให้ความสำคัญในเรื่องของราวจับในภายในบ้าน เช่น ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องดูทีวี ควรมีราวจับให้ผู้สูงอายุเดินไปไหนได้สะดวก เพราะปกติท่านเลือกที่จะจับตามโต๊ะกำแพงต่างๆ ซึ่งไม่เพียงพอต่อการทรงตัวเท่าไรนัก หากหน้ามืดขึ้นมา จะเป็นเรื่องใหญ่ ราวจับพยุงตัวจึงช่วยให้ท่านเคลื่อนไหวสะดวกขึ้น
6. พื้นที่กิจกรรม
ผู้สูงอายุก็มีงานอดิเรกเช่นเดียวกับวัยรุ่นอย่างเรา บ้านสำหรับผู้สูงอายุจึงต้องเตรียมพื้นที่ที่สามารถรองรับการทำกิจกรรมของท่านได้ด้วย เช่น พื้นที่อ่านหนังสือ พื้นที่ออกกำลังกายกาย พื้นที่ทำสวน ฯลฯ เช่น ห้องนั่งเล่น หรือโซนต่างๆ เพื่อไม่ให้ผู้สูงอายุรู้สึกเบื่อกับสิ่งเดิมๆ จนเกินไป ทั้งนี้ พื้นที่กิจกรรมควรต้องมีอากาศที่ปลอดโปร่ง ถ่ายเทสะดวก มีแสงลอดเข้ามาช่วยให้มองเห็นได้ชัดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่จะช่วยเพิ่มเวลาแห่งความสุขให้แก่ท่านอีกด้วย
7. ระบบไฟความสม่ำเสมอของแสงสว่าง
เพราะคุณภาพสายตาของผู้สูงอายุนั้น อาจจะไม่ดีเท่าวัยรุ่นหนุ่มสาว ส่งผลให้สามารถตอบรับแสงสว่างและปรับสายตาได้ช้ากว่า ทำให้การปรับสายตาในพื้นที่ที่สว่างไปอยู่ในพื้นที่ที่มืด จึงทำได้ไม่ดีนัก ดังนั้น ภายในบ้านควรมีแสงสว่างที่มีความสว่างใกล้เคียง และสม่ำเสมอกัน เพื่อความปลอดภัยในการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ
8. เครื่องวัดความดันโลหิต
เพื่อสังเกตและเฝ้าระวังอาการผิดปกติต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เครื่องวัดความดันจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรมีติดบ้านไว้ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เช่น ภาวะความดันสูง สามารถใช้เครื่องวัดความดันตรวจวัด และบันทึกค่าในแต่ละวันได้
9. ยาสามัญประจำบ้าน หรือยาประจำตัว
ยาสามัญประจำบ้าน หรือยาประจำตัวที่ได้รับมาตามคำสั่งแพทย์ ในกรณีที่อาการกำเริบ สามารถทานยาเพื่อบรรเทาอาการได้ ทั้งนี้ ควรทานยาที่ได้รับตามคำสั่งของแพทย์ เพื่อควบคุมและบรรเทาความรุนแรงของโรค
10. สัญญาณและปุ่มขอความช่วยเหลือ
ถึงแม้เราจะเตรียมความพร้อมมากแค่ไหน แต่อุบัติเหตุก็อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา บ้านสำหรับผู้สูงอายุจึงจำเป็นต้องมีการติดปุ่มขอความช่วยเหลือในบริเวณหลักของบ้าน รวมถึงพื้นที่ที่ผู้สูงอายุใช้เวลาบ่อยๆ จะช่วยให้การช่วยเหลือถึงได้ทันท่วงที เพราะผู้สูงอายุช้าไม่ได้ ยิ่งอุบัติเหตุที่เกิดได้ตลอด อันตรายที่สุดคือผู้สูงอายุลื่นแต่ไม่มีใครในบ้านทราบ จนไม่สามารถช่วยเหลือได้ทันท่วงที การมีปุ่มสัญญาณนี้จะช่วยป้องกันอันตรายได้อีกขั้นหนึ่ง
บ้านสำหรับผู้สูงอายุที่ดีเป็นอย่างไร?
จากที่กล่าวมาจะพบว่า แบบบ้านสำหรับผู้สูงอายุมีรายละเอียดปลีกย่อยค่อนข้างมาก ทั้งการอุปกรณ์ของใช้ สิ่งที่จำเป็น หรือการพื้นที่บ้านเพิ่มเติม แต่หากมองว่าเป็นการสร้างความปลอดภัยให้คนที่คุณรัก ประเด็นเหล่านั้นก็เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย
ตอนนี้ ธอส. มีผลิตภัณฑ์ขอสินเชื่อต่อเติมบ้านที่ดอกเบี้ยน้อย ผ่อนนาน ก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป รวมถึงโครงการแบบบ้านรักษ์โลกของ ธอส. ที่ทั้งดีไซน์สวยและยังดีต่อธรรมชาติ ช่วยให้คุณเพิ่มไอเดียในการต่อเติมบ้านได้อีกด้วย