การวางแผนเกษียณ สไตล์มนุษย์เงินเดือนเป็นเรื่องที่หลายคนอาจมองข้าม แต่เป็นสิ่งสำคัญที่ควรเริ่มตั้งแต่วันนี้ เพราะยิ่งเริ่มเร็ว โอกาสที่จะมีเงินเพียงพอสำหรับชีวิตหลังเกษียณก็ยิ่งมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้นทุกวัน การวางแผนเกษียณ สไตล์มนุษย์เงินเดือนจึงไม่ใช่แค่การเก็บออม แต่ต้องรู้จักบริหารเงินและลงทุนอย่างชาญฉลาด บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับวิธีวางแผนเกษียณที่เหมาะสำหรับมนุษย์เงินเดือนโดยเฉพาะ
การวางแผนเกษียณคืออะไร เรื่องที่คนรุ่นใหม่ต้องรู้
การวางแผนเกษียณ สไตล์มนุษย์เงินเดือนคือการเตรียมความพร้อมด้านการเงินสำหรับชีวิตหลังออกจากงาน โดยเริ่มตั้งแต่วัยทำงาน เพื่อให้มีเงินเพียงพอสำหรับใช้จ่ายในยามที่ไม่มีรายได้ประจำ คนรุ่นใหม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากขึ้น เนื่องจากอายุขัยเฉลี่ยของคนไทยที่ยาวขึ้น ขณะที่ค่าครองชีพและค่ารักษาพยาบาลก็เพิ่มสูงขึ้นทุกปี นอกจากนี้ ระบบบำเหน็จบำนาญและสวัสดิการของรัฐอาจไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตในอนาคต
ทำไมถึงต้องวางแผนเกษียณ
การวางแผนเกษียณ สไตล์มนุษย์เงินเดือนมีความสำคัญมากขึ้นในปัจจุบัน ด้วยปัจจัยหลายประการที่ท้าทายความมั่นคงทางการเงินหลังวัยเกษียณ เริ่มจากค่าครองชีพที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อก็กัดกินมูลค่าของเงินออม ทำให้เงินที่เก็บไว้มีค่าลดลงเรื่อยๆ นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นตามวัย รวมถึงความไม่แน่นอนของระบบสวัสดิการและบำเหน็จบำนาญ ล้วนเป็นเหตุผลที่ทำให้มนุษย์เงินเดือนต้องวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ
7 วิธีวางแผนเกษียณ สไตล์มนุษย์เงินเดือน
สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ประจำ การวางแผนเกษียณ สไตล์มนุษย์เงินเดือนจำเป็นต้องทำอย่างเป็นระบบและสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว มาดูกันว่า 7 วิธีที่จะช่วยให้คุณวางแผนเกษียณได้อย่างมีประสิทธิภาพมีวิธีไหนที่น่าสนใจบ้าง
1. วางแผนเก็บเงินอย่างต่อเนื่อง
หัวใจสำคัญของการวางแผนเกษียณ สไตล์มนุษย์เงินเดือนคือความสม่ำเสมอในการเก็บออม ควรกำหนดจำนวนเงินที่จะเก็บในแต่ละเดือนให้ชัดเจน โดยแนะนำให้หักเงินออมทันทีที่ได้รับเงินเดือน อย่างน้อย 10-20% ของรายได้ หากทำได้ควรตั้งระบบหักเงินอัตโนมัติเพื่อให้แน่ใจว่าจะเก็บได้ตามเป้าหมาย นอกจากนี้ ควรแยกบัญชีเงินออมเพื่อเกษียณออกจากบัญชีใช้จ่ายปกติ เพื่อไม่ให้นำเงินออมมาใช้โดยไม่จำเป็น
2. คำนวณเงินที่ต้องใช้หลังเกษียณ
การคำนวณเงินที่จำเป็นต้องใช้หลังเกษียณเป็นขั้นตอนสำคัญในการวางแผนเกษียณ สไตล์มนุษย์เงินเดือน โดยทั่วไปควรประเมินค่าใช้จ่ายรายเดือนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังเกษียณ คูณด้วยจำนวนปีที่คาดว่าจะมีชีวิตอยู่หลังเกษียณ (โดยเฉลี่ยประมาณ 20-25 ปี) และบวกเพิ่มอีก 20-30% สำหรับค่าใช้จ่ายฉุกเฉินและค่ารักษาพยาบาล ตัวอย่างเช่น หากคาดว่าจะใช้เงินเดือนละ 30,000 บาท และต้องการเกษียณที่อายุ 60 ปี จะต้องมีเงินออมอย่างน้อย 8-10 ล้านบาท
3. เลือกช่องทางการลงทุน
การลงทุนที่เหมาะสมเป็นกุญแจสำคัญของการวางแผนเกษียณ สไตล์มนุษย์เงินเดือน เพราะการฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการเอาชนะอัตราเงินเฟ้อ ควรกระจายการลงทุนในหลายช่องทาง เช่น กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พันธบัตรรัฐบาล หุ้นปันผล หรือสลากออมทรัพย์
4. ไม่ก่อหนี้สินเพิ่ม
การวางแผนเกษียณ สไตล์มนุษย์เงินเดือนจะประสบความสำเร็จได้ยาก หากยังมีภาระหนี้สินติดตัว การจัดการหนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำควบคู่กับการออม ควรวางแผนให้ปลดหนี้ทั้งหมดก่อนวัยเกษียณ โดยเฉพาะหนี้บ้านและหนี้รถยนต์ หากมีหนี้บัตรเครดิตควรรีบชำระให้หมด เพราะมีดอกเบี้ยสูง และหลีกเลี่ยงการก่อหนี้ใหม่ที่ไม่จำเป็น เพื่อให้เงินที่มีสามารถนำไปเก็บออมและลงทุนได้มากขึ้น
5. ปรับรูปแบบการฝากเงิน
การวางแผนเกษียณ สไตล์มนุษย์เงินเดือนต้องรู้จักเลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสม ไม่ควรฝากเงินทั้งหมดไว้ในบัญชีออมทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยต่ำ ควรแบ่งเงินไปฝากในรูปแบบต่าง ๆ เช่น บัญชีฝากประจำระยะยาว สลากออมทรัพย์ที่มีโอกาสถูกรางวัล บัญชีเงินฝากพิเศษที่ให้ดอกเบี้ยสูง หรือผลิตภัณฑ์เงินฝากที่มีประกันชีวิตแถม
6. กำหนดอายุที่จะเกษียณ
การกำหนดอายุเกษียณที่ชัดเจนเป็นส่วนสำคัญของการวางแผนเกษียณ สไตล์มนุษย์เงินเดือน เพราะจะช่วยให้วางแผนการเงินได้แม่นยำขึ้น ต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น สุขภาพและพันธุกรรม ลักษณะงานที่ทำ หรือเป้าหมายชีวิตส่วนตัว
7. กองทุนรวมเป็นคำตอบที่ช่วยได้
กองทุนรวมเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนเกษียณ สไตล์มนุษย์เงินเดือน เพราะช่วยให้เข้าถึงการลงทุนที่หลากหลายได้ง่ายขึ้น แม้มีเงินทุนไม่มาก โดยเฉพาะกองทุน RMF ที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี กองทุนผสมที่กระจายความเสี่ยง กองทุนหุ้นระยะยาวเพื่อสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น และกองทุนตราสารหนี้เพื่อรักษาเสถียรภาพของพอร์ต
สรุปวิธีวางแผนเกษียณ สไตล์มนุษย์เงินเดือน
การวางแผนเกษียณ สไตล์มนุษย์เงินเดือนเป็นเรื่องที่ต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ ไม่ควรรอให้อายุมากขึ้น เพราะยิ่งเริ่มช้า ยิ่งต้องเก็บเงินต่อเดือนมากขึ้น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เข้าใจความต้องการนี้ จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์สลากออมทรัพย์ ที่ช่วยสร้างวินัยการออมระยะยาว พร้อมมีโอกาสลุ้นรางวัลใหญ่ทุกเดือน ยิ่งออมมาก ยิ่งมีโอกาสลุ้นมาก ทั้งนี้ บุคคลธรรมดาได้รับการยกเว้นภาษีดอกเบี้ยและเงินรางวัล
สำหรับใครที่กำลังต้องการขอสินเชื่อบ้าน ธนาคารอาคารสงเคราะห์มีสินเชื่อที่หลากหลาย เพื่อออกแบบมาให้เหมาะสมกับเงื่อนไขของทุกคน พร้อมเปิดกว้างให้กับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยหลากหลายกลุ่ม
หากคุณสนใจขอสินเชื่อบ้านจาก ธอส. สามารถทำการกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำด้านสินเชื่อ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่
หรือติดต่อได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center : 0-2645-9000