การกู้ซื้อบ้านถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่มีผลผูกพันระยะยาว การทำความเข้าใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะส่งผลโดยตรงต่อภาระการผ่อนชำระในแต่ละเดือนและจำนวนดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายตลอดอายุสัญญา บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย MLR MOR MRR คืออะไร และมีความแตกต่างกันอย่างไรให้ละเอียดและเข้าใจมากขึ้นกว่าเดิม
ดอกเบี้ย MLR MOR MRR คืออะไร มีความแตกต่างกันอย่างไร
อัตราดอกเบี้ย MLR MOR MRR เป็นอัตราอ้างอิงที่ธนาคารใช้เป็นฐานในการคิดดอกเบี้ยเงินกู้ประเภทต่าง ๆ โดยจะมีลักษณะเป็นดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Rate) ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาวะตลาดและต้นทุนทางการเงินของธนาคาร แต่ละประเภทมีความแตกต่างกันตามกลุ่มลูกค้าและวัตถุประสงค์การกู้ยืม
1. ดอกเบี้ย MLR คืออะไร
ดอกเบี้ย MLR (Minimum Loan Rate) หรือดอกเบี้ยบ้าน MLR คืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำที่ธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ที่มีประวัติการเงินดีและมีหลักทรัพย์ค้ำประกันเพียงพอ นิยมใช้กับสินเชื่อระยะยาวที่มีกำหนดเวลาชัดเจน เช่น สินเชื่อที่อยู่อาศัย โดยทั่วไปอัตรา MLR จะต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยประเภทอื่น เนื่องจากมีความเสี่ยงต่ำและมีหลักประกันที่มั่นคง
2. ดอกเบี้ย MOR คืออะไร
ดอกเบี้ย MOR (Minimum Overdraft Rate) คืออัตราดอกเบี้ยเงินเบิกเกินบัญชีขั้นต่ำสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ใช้สำหรับวงเงินเบิกเกินบัญชี (Overdraft) ซึ่งเป็นสินเชื่อที่มีความยืดหยุ่นสูง ลูกค้าสามารถเบิกใช้และชำระคืนได้ตลอดเวลา ธนาคารจะพิจารณาอย่างเข้มงวดทั้งประวัติทางการเงิน คุณสมบัติผู้กู้ และหลักประกัน
3. ดอกเบี้ย MRR คืออะไร
ดอกเบี้ย MRR (Minimum Retail Rate) หรือดอกเบี้ยบ้าน MRR คืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำสำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี ที่ไม่มีประวัติเสียหายทางการเงิน นิยมใช้กับสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อที่อยู่อาศัยบางประเภท อัตรา MRR ปัจจุบันมักสูงกว่า MLR เล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มลูกค้ารายย่อยมีความเสี่ยงสูงกว่าลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่
วิธีคิดดอกเบี้ยเงินกู้
การคิดดอกเบี้ยเงินกู้มี 2 วิธีหลัก ๆ ด้วยกัน ซึ่งส่งผลต่อภาระการผ่อนชำระที่แตกต่างกัน การเข้าใจวิธีคิดดอกเบี้ยจะช่วยให้วางแผนการเงินได้ดียิ่งขึ้น โดยวิธีคิดดอกเบี้ยเงินกู้ 2 แบบ ได้แก่
1. ดอกเบี้ยเงินกู้แบบเงินต้นคงที่ (Flat Rate)
วิธีนี้จะคำนวณดอกเบี้ยจากเงินต้นทั้งก้อนตั้งแต่เริ่มสัญญา โดยนำมาหารเฉลี่ยตามจำนวนงวดที่ผ่อน ทำให้ค่างวดเท่ากันทุกเดือน แม้จะชำระเงินต้นไปแล้วเท่าใด ดอกเบี้ยก็ยังคงเท่าเดิม เหมาะสำหรับการผ่อนระยะสั้นถึงปานกลาง ไม่นิยมใช้กับสินเชื่อบ้าน
ดอกเบี้ยทั้งหมด = เงินต้น x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x ระยะเวลา(ปี)
ตัวอย่าง: กู้เงิน 1,000,000 บาท ดอกเบี้ย 6% ระยะเวลา 4 ปี
ดอกเบี้ยทั้งหมด = 1,000,000 x 6% x 4 = 240,000 บาท
ค่างวดต่อเดือน = (1,000,000 + 240,000) ÷ 48 = 25,833.33 บาท
2. ดอกเบี้ยเงินกู้แบบลดต้นลดดอก (Effective Rate)
วิธีนี้จะคำนวณดอกเบี้ยจากเงินต้นคงเหลือจริง เมื่อชำระค่างวด ส่วนหนึ่งจะนำไปตัดเงินต้น ทำให้ฐานในการคิดดอกเบี้ยงวดถัดไปลดลง วิธีนี้เป็นประโยชน์ต่อผู้กู้มากกว่า เพราะยิ่งชำระเงินต้นมาก ดอกเบี้ยก็จะยิ่งลดลง เหมาะสำหรับสินเชื่อระยะยาวอย่างสินเชื่อบ้าน
ดอกเบี้ยต่องวด = (เงินต้นคงเหลือ x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนวันในงวด) ÷ 365
เงินต้นที่ต้องจ่ายในงวด = ค่างวด – ดอกเบี้ยต่องวด
รวมสิ่งสำคัญต้องรู้เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
- อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามประกาศของธนาคาร
- ส่วนลดดอกเบี้ยมักระบุในรูปแบบ MLR-X% หรือ MRR-X%
- อัตราดอกเบี้ยพิเศษช่วงแรก (Honeymoon Period) มักมีระยะเวลาจำกัด
- การชำระเงินต้นก่อนกำหนดอาจมีค่าธรรมเนียม
- ควรพิจารณาอัตราดอกเบี้ยทั้งช่วงแรกและช่วงปกติ
- ศึกษาเงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยให้ละเอียด
- ตรวจสอบค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
สรุปบทความดอกเบี้ย MLR MOR MRR คืออะไร
การเข้าใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย MLR MOR MRR เป็นพื้นฐานสำคัญในการตัดสินใจเลือกสินเชื่อบ้าน เพราะจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเงินระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาสินเชื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พร้อมเป็นที่ปรึกษาด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร
ด้วยประสบการณ์ในการให้บริการสินเชื่อที่อยู่อาศัยมายาวนานกว่า 70 ปี ธอส. เข้าใจความต้องการของผู้กู้อย่างลึกซึ้ง จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของทุกกลุ่มลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านใหม่ บ้านมือสอง สินเชื่อเพื่อปลูกสร้างบ้าน หรือสินเชื่อเพื่อ Refinance จากสถาบันการเงินอื่น
สำหรับใครที่กำลังต้องการขอสินเชื่อบ้าน ธนาคารอาคารสงเคราะห์มีสินเชื่อที่หลากหลาย เพื่อออกแบบมาให้เหมาะสมกับเงื่อนไขของทุกคน พร้อมเปิดกว้างให้กับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยหลากหลายกลุ่ม
หากคุณสนใจขอสินเชื่อบ้านจาก ธอส. สามารถทำการกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำด้านสินเชื่อ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่
หรือติดต่อได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center : 0-2645-9000
ที่มา : https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/1979