การกู้ซื้อบ้านดอกเบี้ยต่ำทำได้จริงไหม สำหรับมือใหม่ที่อยากหาสินเชื่อกู้ซื้อบ้านในอัตราดอกเบี้ยที่ตรงกับความต้องการของตัวเอง
‘บ้าน’ ถือเป็นทรัพย์สินชิ้นใหญ่ที่ใคร ๆ ก็ใฝ่ฝันอยากจะมีไว้ในครอบครอง แต่ด้วยราคาที่สูงและใช้เวลาผ่อนกันนานหลายสิบปี ทำให้มีขั้นตอนในการตัดสินใจซื้อที่ค่อนข้างนาน และหลายคนอาจใช้เวลาเป็นปีๆ ในการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อบ้านหนึ่งหลังเลยทีเดียว
โดยข้อมูลที่คนอยากมีบ้านมักให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ที่ช่วยในการตัดสินใจซื้อคือ ยอดการผ่อนชำระที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน รวมไปถึงเรื่องของ ‘ดอกเบี้ย’ ที่ถ้าสามารถกู้ซื้อบ้านในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำได้ด้วย ก็เปรียบเสมือนเป็นแต้มต่อที่ช่วยทำให้สามารถชำระหนี้ได้หมดไวขึ้น
แต่การกู้ซื้อบ้านดอกเบี้ยต่ำจะสามารถทำได้จริงไหม บทความฉบับนี้มีคำตอบให้สำหรับมือใหม่ที่อยากหาสินเชื่อกู้ซื้อบ้านในอัตราดอกเบี้ยที่ตรงกับความต้องการของตัวเองได้ด้วยวิธีการง่าย ๆ เหล่านี้
ทำความเข้าใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย
ก่อนที่จะมองหาวิธีการกู้ซื้อบ้านดอกเบี้ยต่ำ มีสิ่งที่ควรทำความเข้าใจเพื่อนำมาใช้ในการตัดสินใจเลือกธนาคารที่จะกู้ได้อย่างเหมาะสม นั่นก็คือเรื่องของ ‘อัตราดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้าน’ ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท ได้แก่
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ (Fixed Rate)
เป็นอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกำหนดไว้เป็นตัวเลขเฉพาะและคงที่ จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงขึ้น-ลงตามความผันผวนของธนาคารหรือต้นทุน โดยธนาคารหรือแหล่งเงินกู้จะกำหนดตัวเลขมาเลยว่า จะต้องเสียอัตราดอกเบี้ยต่อปีกี่เปอร์เซ็นต์ตามเงื่อนไขสัญญา และจะคิดคงที่ตามนี้ในจำนวนปีตามแต่ช่วงเวลาที่กำหนด
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัว (Floating Rate)
เป็นอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับขึ้นหรือลงตามต้นทุนหรือผลประกอบการของธนาคาร โดยจะมีการประกาศจากธนาคารออกมาเป็นระยะๆ ตามประกาศอ้างอิงอัตราดอกเบี้ยจากธนาคาร ซึ่งผู้ที่ยื่นกู้ซื้อบ้านแต่ละคนจะได้รับอัตราดอกเบี้ยลอยตัวที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความสามารถในการชำระหนี้ ส่วนต่างระหว่างรายได้และรายจ่าย หรือมูลค่าสินทรัพย์ค้ำประกัน ฯลฯ
ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านที่มักใช้อ้างอิงในอัตราเงินกู้แบบลอยตัว คือ ดอกเบี้ย MLR และ MRR ที่มีรายละเอียด ดังนี้
- MLR (Minimum Retail Rate) : เป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำที่เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีที่มีประวัติการเงินดี และมีหลักทรัพย์ในการค้ำประกันเพียงพอ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้กับเงินกู้ที่มีระยะเวลากำหนดที่แน่นอน เช่น สินเชื่อเพื่อการประกอบธุรกิจต่างๆ ฯลฯ
- MRR (Minimum Retail Rate) : เป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี (บุคคลทั่วไป) เช่น สินเชื่อที่อยู่อาศัย, สินเชื่อบัตรเครดิต, สินเชื่อส่วนบุคคล เป็นต้น
โดยส่วนใหญ่ของการกู้ซื้อบ้าน ทางธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ให้ในช่วง 1-3 ปีแรก (ขึ้นอยู่กับโปรโมชันและตัวโครงการ) หลังจากนั้นจะเริ่มคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว ซึ่งการทำความเข้าใจในตัวอัตราดอกเบี้ยแต่ละแบบจะช่วยทำให้คุณสามารถนำอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารมาคำนวณและเปรียบเทียบกันได้ว่าควรเลือกกู้ซื้อบ้านจากที่ไหนดีถึงจะได้ดอกเบี้ยต่ำตามที่ต้องการนั่นเอง

เทคนิคการเปรียบเทียบดอกเบี้ยบ้าน
เริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจประเภทของอัตราดอกเบี้ย ซึ่งมีทั้งอัตราดอกเบี้ยคงที่ ที่จะคงที่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ช่วยให้วางแผนการเงินได้ง่าย อัตราดอกเบี้ยลอยตัว ที่จะเปลี่ยนแปลงตามสภาวะตลาด อาจถูกกว่าในระยะยาวแต่มีความเสี่ยงที่จะสูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยผสม ซึ่งเป็นการผสมระหว่างอัตราคงที่และลอยตัว
การใช้เครื่องมือเปรียบเทียบออนไลน์เป็นอีกวิธีที่มีประสิทธิภาพ มีเว็บไซต์และแอปพลิเคชันมากมายที่ให้บริการเปรียบเทียบดอกเบี้ยบ้าน เช่น เว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย เว็บไซต์เปรียบเทียบสินเชื่อต่าง ๆ และแอปพลิเคชันของสถาบันการเงิน ใช้เครื่องมือเหล่านี้เพื่อดูภาพรวมและเปรียบเทียบข้อเสนอต่างๆ อย่างรวดเร็ว
การคำนวณยอดผ่อนชำระรายเดือนและดอกเบี้ยรวมเป็นขั้นตอนสำคัญ ใช้เครื่องคำนวณสินเชื่อบ้านออนไลน์เพื่อคำนวณยอดผ่อนชำระรายเดือน ดอกเบี้ยรวมตลอดอายุสัญญา และสัดส่วนของเงินต้นและดอกเบี้ยในแต่ละงวด การคำนวณนี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของค่าใช้จ่ายทั้งหมดและเปรียบเทียบได้ชัดเจนขึ้น
นอกจากอัตราดอกเบี้ย ให้พิจารณาเงื่อนไขอื่นด้วย เช่น ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เงื่อนไขการชำระเงินล่วงหน้า ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด วงเงินกู้สูงสุด และบริการเสริมอื่นๆ เช่น ประกันบ้าน ประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินกู้ พร้อมตรวจสอบโปรโมชันและข้อเสนอพิเศษ ธนาคารมักมีโปรโมชันหรือข้อเสนอพิเศษเป็นระยะ
สุดท้าย อย่าลืมพิจารณาความยืดหยุ่นของสินเชื่อ บางครั้งอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าอาจมาพร้อมกับความยืดหยุ่นที่น้อยกว่า พิจารณาความสามารถในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขสินเชื่อในอนาคต ตัวเลือกในการรีไฟแนนซ์ และเงื่อนไขการพักชำระหนี้ในกรณีฉุกเฉิน
ประโยชน์ของการเปรียบเทียบดอกเบี้ยบ้าน
- ประหยัดเงินในระยะยาว แม้ความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.5% อาจทำให้คุณประหยัดได้หลายแสนบาทตลอดอายุสัญญา
- เข้าใจโครงสร้างสินเชื่อ การเปรียบเทียบช่วยให้คุณเข้าใจวิธีการคำนวณดอกเบี้ยและโครงสร้างการผ่อนชำระ
- ตัดสินใจอย่างมั่นใจ เมื่อคุณมีข้อมูลครบถ้วน คุณจะรู้สึกมั่นใจในการตัดสินใจมากขึ้น
- เตรียมพร้อมสำหรับการเจรจา ข้อมูลที่คุณรวบรวมจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการต่อรองกับธนาคาร
- วางแผนการเงินระยะยาว การเข้าใจภาระหนี้สินในอนาคตช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้ดีขึ้น
- หลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายแฝง การศึกษาเงื่อนไขอย่างละเอียดช่วยให้คุณระวังค่าใช้จ่ายที่อาจซ่อนอยู่
ประมาณความสามารถในการกู้ของตนเอง
หลังจากตรวจสอบเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณยังต้องเลือกกู้สินเชื่อบ้านให้เหมาะสมกับความสามารถในการกู้และความต้องการของคุณเอง เพราะในบางครั้งบ้านที่คุณต้องการจะซื้ออาจไม่สามารถกู้ซื้อบ้านในอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุดได้ แต่คุณสามารถเลือกอัตราดอกเบี้ยที่ดีที่สุดที่เราสามารถจะจ่ายได้ไหวแทนได้
คุณสามารถเริ่มต้นการประมาณได้จากการคำนวณสินเชื่อ เพื่อหาค่างวดที่จะต้องจ่ายตามอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคาร พร้อมกับเปรียบเทียบความคุ้มค่าและข้อเสนอของแต่ละธนาคารว่าเป็นไปตามความต้องการหรือไม่ เช่น เปอร์เซ็นต์วงเงินกู้ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย, ค่าธรรมเนียมต่างๆที่ต้องจ่าย, ระยะเวลาในการกู้, ส่วนลดเพิ่มเติม เป็นต้น
หลังจากนั้นให้นำข้อเสนอและตัวเลือกทั้งหมดมาคิดเป็นตัวเลข และประมาณถึงความสามารถในการกู้ของตนเองตลอดระยะเวลาการกู้ตามอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารกำหนดเพื่อประกอบการตัดสินใจ ก็จะช่วยทำให้คุณสามารถกู้ซื้อบ้านดอกเบี้ยต่ำในระดับที่คุณพึงพอใจได้มากที่สุด
เข้าใจวิธีการเลือกธนาคารสำหรับการกู้ซื้อบ้าน
การเลือกธนาคารในการกู้ซื้อบ้านเองก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยทำให้ได้ดอกเบี้ยต่ำและช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าคุณได้มากที่สุด โดยจะต้องเลือกกู้ซื้อบ้านกับธนาคารที่น่าเชื่อถือและมีความมั่นคงเพื่อประกอบการตัดสินใจ
พร้อมทั้งต้องทำการตรวจสอบดูความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยย้อนหลังของแต่ละธนาคารควบคู่ไปด้วยว่า มีความผันผวนมากหรือน้อยเท่าไหร่ ซึ่งคุณควรจะเลือกกู้กับธนาคารที่มีอัตราดอกเบี้ยย้อนหลังผันผวนน้อย เนื่องจากจะช่วยทำให้สามารถจัดการและวางแผนการชำระหนี้ได้ง่ายกว่า
นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกกู้จากธนาคารที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการมากที่สุด เช่น หากคุณเพิ่งเริ่มต้นทำงานได้ไม่นานก็อาจจะเน้นการเลือกกู้กับธนาคารที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นในช่วงแรก ต่อจากนั้นจะเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว เพราะคุณประเมินตนเองมาแล้วว่า ในช่วงแรกของการกู้รายได้ของคุณยังมีไม่มากนัก การเลือกอัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นจะทำให้คุณมีกำลังในการผ่อนที่ไม่ตึงตัวจนเกินไปในระยะยาว เป็นต้น
รอช่วงโปรโมชันจากทางธนาคาร
ในหนึ่งปีจะมีช่วงโปรโมชันที่ธนาคารออกมาช่วยประชาชนในการลดอัตราดอกเบี้ยลง เพื่อทำให้เราสามารถกู้ซื้อบ้านได้ง่าย และไม่มีภาระในการจ่ายดอกเบี้ยที่สูงมากนัก
ดังนั้น การรอช่วงโปรโมชันจากทางธนาคารก็นับเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ช่วยทำให้คุณสามารถกู้ซื้อบ้านในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าปกติได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยเวลาและความพยายามในการรอคอยโปรโมชันที่ถูกใจ และเหมาะสมกับความสามารถในการผ่อนชำระอีกสักระยะหนึ่งเลยทีเดียว
อย่าลืมรีไฟแนนซ์เมื่อถึงเวลา
สำหรับคนที่มีภาระในการผ่อนบ้านอยู่แล้วและในปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยบ้านเริ่มสูงขึ้นเกินกว่าที่จะจ่ายไหว การรีไฟแนนซ์ (Refinance) ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยแบ่งเบาภาระการจ่ายดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการทำเรื่องยื่นกู้ใหม่ในอัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่าเดิม ซึ่งจะช่วยทำให้มีเงินเหลือในการชำระเงินต้นได้เยอะขึ้น เนื่องจากสามารถลดรายจ่ายจากอัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนได้นั่นเอง
สรุป
เราสามารถกู้ซื้อบ้านดอกเบี้ยต่ำได้ เพียงแค่รู้จักเตรียมตัวตามเงื่อนไขสินเชื่อของธนาคาร รวมถึงเลือกสินเชื่อกู้ซื้อบ้านที่เอื้อต่อความสามารถในการผ่อนชำระสินเชื่อ และหาสินเชื่อที่ให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษให้แก่คุณได้ ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดนี้คุณสามารถเข้ารับการให้คำปรึกษากับทางธนาคารได้ทันที เพื่อสร้างความมั่นใจและวางแผนทางการเงินในการผ่อนชำระหนี้ในระยะยาวได้อย่างเหมาะสมมากขึ้นด้วย
หากคุณไม่อยากพลาดโอกาสความคุ้มค่าในการซื้อบ้าน และขอสินเชื่อเพื่อบ้านกับ ธอส. สามารถกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำด้านสินเชื่อ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่
เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ที่คอยให้คำแนะนำ พร้อมเปรียบเทียบและหยิบยื่นข้อเสนอด้านสินเชื่อที่ดีที่สุดให้กับคุณ ติดต่อเราได้ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ
หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ www.ghbank.co.th
ติดต่อ G H BANK Call Center : 02 645 9000