รวมเรื่องสำคัญของการเอาบ้านเข้าธนาคาร

/
/
รวมเรื่องสำคัญของการเอาบ้านเข้าธนาคาร

รวมทุกเรื่องสำคัญของการเอาบ้านเข้าธนาคาร ทั้งข้อดี ขั้นตอนการดำเนินการ ข้อควรระวัง ตลอดไปจนถึงการเลือกธนาคารที่เหมาะสมในการเอาบ้านเข้าธนาคาร

การเอาบ้านเข้าธนาคารเป็นหนึ่งในวิธีที่หลายคนอาจยังไม่คุ้นเคยมากนัก แต่สามารถเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีบ้านเป็นของตัวเองและต้องการเงินทุนก้อนใหญ่ บทความนี้จะอธิบายทุกเรื่องสำคัญของการเอาบ้านเข้าธนาคาร ทั้งข้อดี เอกสารที่ต้องใช้ ขั้นตอนการดำเนินการ ข้อควรระวัง ตลอดไปจนถึงการเลือกธนาคารที่เหมาะสมในการเอาบ้านเข้าธนาคาร

การเอาบ้านเข้าธนาคารคืออะไร

การเอาบ้านเข้าธนาคาร หรือที่เรียกอีกอย่างว่า “สินเชื่อบ้านแลกเงิน” คือการนำบ้านที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเราเอง (ไม่มีภาระผูกพันหรือหนี้สิน) ไปเป็นหลักประกันกับธนาคารเพื่อขอสินเชื่อ โดยเจ้าของบ้านจะได้รับเงินก้อนจากธนาคารและผ่อนชำระคืนพร้อมดอกเบี้ยตามระยะเวลาที่ตกลงกัน ซึ่งจะแตกต่างจากการซื้อบ้านใหม่หรือการรีไฟแนนซ์ เพราะเป็นการใช้ทรัพย์สินที่เราเป็นเจ้าของอยู่แล้วมาเป็นหลักประกันเพื่อรับเงินก้อน โดยไม่ต้องซื้อทรัพย์สินใหม่หรือเปลี่ยนแปลงสัญญาเงินกู้เดิม

การเอาบ้านเข้าธนาคารเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเงินทุนเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น การลงทุนในธุรกิจ การศึกษาต่อ หรือการรวมหนี้จากแหล่งอื่นที่มีดอกเบี้ยสูงกว่า

เอาบ้านเข้าธนาคารมีข้อดีอย่างไร

เอาบ้านเข้าธนาคารมีข้อดีอย่างไร

การเอาบ้านเข้าธนาคาร หรือการทำสินเชื่อบ้านแลกเงิน เป็นทางเลือกทางการเงินที่น่าสนใจสำหรับเจ้าของบ้านที่ต้องการเงินทุนก้อนใหญ่ โดยวิธีนี้มีข้อดีหลายอย่างที่เหมาะสมกับผู้ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากมูลค่าบ้านของตัวเอง

1. ดอกเบี้ยถูก

หนึ่งในข้อดีที่สำคัญที่สุดของการเอาบ้านไปเข้าธนาคารคือ อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินเชื่อประเภทอื่น ๆ เนื่องจากบ้านเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นทุกปี ธนาคารจึงมองว่าเป็นหลักประกันที่มั่นคง ส่งผลให้สามารถเสนออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินเชื่อประเภทอื่น ๆ ได้

ตัวอย่างเช่น สินเชื่อส่วนบุคคลอาจมีดอกเบี้ยสูงถึง 15-28% ต่อปี การเอาบ้านเข้าธนาคารอาจได้รับดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ประมาณ 3.95% ต่อปีเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับสินเชื่อประเภทอื่น

2. วงเงินสูง

อีกหนึ่งข้อดีที่สำคัญของการเอาบ้านไปเข้าธนาคารคือ การได้รับวงเงินสินเชื่อที่สูง เนื่องจากบ้านมักมีมูลค่าสูง ธนาคารจึงสามารถอนุมัติวงเงินสินเชื่อที่สูงตามไปด้วย โดยทั่วไปแล้วธนาคารอาจให้วงเงินสูงถึง 70-95% ของราคาประเมินบ้าน วงเงินที่สูงนี้เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการเงินทุนก้อนใหญ่ เช่น การลงทุนในธุรกิจ การซื้อทรัพย์สินมูลค่าสูง หรือการรวมหนี้จากหลายแหล่ง

3. ผ่อนสบาย

การเอาบ้านเข้าธนาคารมักมาพร้อมกับระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนาน โดยทั่วไปอาจสูงถึง 20-30 ปี ซึ่งยาวกว่าสินเชื่อประเภทอื่น ๆ อย่างมาก ระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนานนี้ส่งผลให้ยอดผ่อนต่อเดือนต่ำลง ทำให้ผู้กู้มีภาระในการผ่อนชำระที่น้อยลงและจัดการได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ในอนาคตที่คุณมีความสามารถในการชำระหนี้มากขึ้น ก็สามารถเลือกที่จะจ่ายเพิ่มหรือปิดบัญชีก่อนกำหนดได้ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการจัดการภาระหนี้

เอกสารในการเอาบ้านเข้าธนาคาร

การเอาบ้านไปเข้าธนาคารต้องใช้เอกสารหลายอย่างเพื่อประกอบการพิจารณา ซึ่งโดยทั่วไปจะมีความคล้ายกับการขอสินเชื่อบ้านประเภทอื่น ๆ โดยเอกสารที่จำเป็นมักจะแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ ดังนี้

เอกสารยืนยันตัวตน

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี)
  • สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)

เอกสารยืนยันหลักประกัน

  • สำเนาโฉนดที่ดินด้านหน้าและหลัง
  • ภาพถ่ายบ้านที่เป็นหลักประกัน

เอกสารยืนยันรายได้ (กรณีพนักงานประจำ)

  • รายการเดินบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน
  • หนังสือรับรองเงินเดือนหรือสลิปเงินเดือน
  • ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (ถ้ามี)

เอกสารยืนยันรายได้ (กรณีเจ้าของกิจการ)

  • รายการเดินบัญชีเงินฝากส่วนตัวหรือบัญชีกิจการย้อนหลัง 6 เดือน
  • สำเนาทะเบียนการค้าหรือหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล
  • ภาพถ่ายและแผนที่ตั้งกิจการ
  • สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (ถ้ามี)

ขั้นตอนของการเอาบ้านเข้าธนาคาร

ขั้นตอนของการเอาบ้านเข้าธนาคาร

การเอาบ้านเข้าธนาคารอาจดูเหมือนเป็นกระบวนการที่มีความซับซ้อน แต่เมื่อแบ่งออกเป็นขั้นตอนแล้ว จะเห็นว่าไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่หลายคนคิด โดยขั้นตอนของการเอาบ้านเข้าธนาคารมีดังนี้

1. ยื่นเอกสารให้ธนาคาร

วิธีเอาบ้านเข้าธนาคารขั้นตอนแรก คือการยื่นเอกสารให้ธนาคารพิจารณา ซึ่งประกอบด้วยเอกสารต่าง ๆ ตามที่ได้กล่าวไว้ในหัวข้อก่อนหน้า การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและถูกต้องตั้งแต่แรกจะช่วยให้กระบวนการพิจารณาเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว ดังนั้น ควรตรวจสอบรายการเอกสารที่ต้องใช้กับธนาคารให้ชัดเจนก่อนการยื่นคำขอสินเชื่อ

2. ประเมินหลักประกัน

หลังจากที่ธนาคารได้รับเอกสารและพิจารณาเบื้องต้นแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการประเมินราคาหลักประกัน ซึ่งก็คือบ้านที่คุณนำมาขอสินเชื่อนั่นเอง ธนาคารจะส่งเจ้าหน้าที่หรือบริษัทประเมินราคาที่ได้รับการรับรองมาทำการประเมินมูลค่าบ้านของคุณ โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ทำเลที่ตั้ง สภาพบ้าน อายุของบ้าน และราคาตลาดในบริเวณใกล้เคียง

3. รอฟังผลอนุมัติ

ในขั้นตอนนี้ ธนาคารจะพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ประกอบกัน เช่น ราคาประเมินบ้าน ความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ ประวัติการชำระหนี้ที่ผ่านมา และนโยบายการปล่อยสินเชื่อของธนาคาร เมื่อธนาคารพิจารณาเสร็จสิ้น จะแจ้งผลการอนุมัติพร้อมทั้งวงเงินและเงื่อนไขสินเชื่อให้คุณทราบ ซึ่งอาจรวมถึงอัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อนชำระ และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ

4. ทำสัญญา

หากคุณตกลงกับเงื่อนไขสินเชื่อที่ธนาคารเสนอ ขั้นตอนสุดท้ายคือการทำสัญญา ซึ่งประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่

  • สัญญากู้ยืมเงิน เป็นสัญญาที่ระบุรายละเอียดของสินเชื่อ เช่น จำนวนเงินกู้ อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อนชำระ และเงื่อนไขอื่น ๆ
  • สัญญาจำนอง เป็นสัญญาที่ระบุว่าคุณนำบ้านมาเป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงิน โดยต้องไปจดทะเบียนจำนองที่สำนักงานที่ดิน

ในวันทำสัญญา คุณจะต้องนำเอกสารสำคัญต่าง ๆ มาด้วย เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน และโฉนดที่ดิน นอกจากนี้ คุณอาจต้องจ่ายค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เช่น ค่าจดทะเบียนจำนอง ค่าอากรแสตมป์ และค่าประเมินราคาหลักประกัน เมื่อทำสัญญาเสร็จสิ้น ธนาคารจะโอนเงินกู้เข้าบัญชีของคุณตามที่ได้ตกลงกันไว้ และคุณจะเริ่มมีภาระในการผ่อนชำระตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญา

ข้อควรระวังการเอาบ้านเข้าธนาคาร

  • ภาระผูกพันระยะยาว การเอาบ้านเข้าธนาคารมักมีระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนาน ซึ่งอาจเป็นภาระทางการเงินที่ต้องแบกรับเป็นเวลานาน คุณควรพิจารณาความมั่นคงทางรายได้ในระยะยาวก่อนตัดสินใจ
  • ความเสี่ยงในการสูญเสียบ้าน หากไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ธนาคารมีสิทธิ์ยึดบ้านที่เป็นหลักประกันได้ ดังนั้น ควรประเมินความสามารถในการชำระหนี้อย่างรอบคอบ
  • ค่าใช้จ่ายแฝง นอกจากดอกเบี้ยแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ต้องคำนึงถึง เช่น ค่าประเมินราคาหลักประกัน ค่าจดจำนอง ค่าธรรมเนียมการทำสัญญา ซึ่งอาจทำให้ต้นทุนรวมสูงขึ้น
  • ผลกระทบต่อเครดิต การเอาบ้านเข้าธนาคารจะปรากฏในประวัติเครดิตของคุณ ซึ่งอาจส่งผลต่อการขอสินเชื่อในอนาคต
  • ข้อจำกัดในการใช้หลักประกัน เมื่อนำบ้านไปจำนองกับธนาคารแล้ว คุณอาจมีข้อจำกัดในการใช้บ้านเป็นหลักประกันสำหรับสินเชื่ออื่น ๆ ในอนาคต
  • ความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย หากเลือกอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อัตราดอกเบี้ยอาจเพิ่มขึ้นในอนาคต ทำให้ภาระการผ่อนชำระสูงขึ้น
  • การใช้เงินอย่างมีวินัย เงินที่ได้จากการเอาบ้านเข้าธนาคารเป็นเงินก้อนใหญ่ คุณควรมีแผนการใช้เงินที่ชัดเจนและมีวินัยในการใช้จ่าย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทางการเงินในอนาคต

เอาบ้านเข้าธนาคารที่ธนาคารไหนดี

หากคุณกำลังมองหาสถาบันการเงินที่ดีที่สุดสำหรับการเอาบ้านเข้าธนาคาร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) หรือ G H Bank คือคำตอบที่ใช่และคุ้มค่า ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่แข่งขันได้ วงเงินสูงสุดถึง 95% ของราคาประเมิน และระยะเวลาผ่อนชำระนานถึง 30 ปี G H Bank ช่วยให้คุณได้รับเงินก้อนใหญ่พร้อมภาระผ่อนที่สบายกระเป๋า นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชันพิเศษและบริการที่ครบวงจรจากผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะ เอาบ้านเข้าธนาคารกับ G H Bank วันนี้ เพื่อรับประโยชน์สูงสุดและบรรลุเป้าหมายทางการเงินของคุณ

สรุปบทความเอาบ้านเข้าธนาคารที่ธนาคาร

สินเชื่อบ้านมือสอง ธอส.

การเอาบ้านเข้าธนาคาร หรือการทำสินเชื่อบ้านแลกเงิน เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับเจ้าของบ้านที่ต้องการเงินทุนก้อนใหญ่ โดยมีข้อดีหลัก ๆ คือ อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินเชื่อประเภทอื่น วงเงินสินเชื่อที่สูง และระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนาน ทำให้มีความยืดหยุ่นในการบริหารการเงิน

ท้ายที่สุด การเอาบ้านเข้าธนาคารสามารถเป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีประโยชน์ หากใช้อย่างรอบคอบและมีการวางแผนที่ดี แต่ก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบและความเสี่ยงที่ต้องตระหนักและบริหารจัดการอย่างเหมาะสม การตัดสินใจด้วยข้อมูลที่ครบถ้วนและการวางแผนการเงินที่รัดกุมจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเอาบ้านเข้าธนาคาร และสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับใครที่กำลังต้องการขอสินเชื่อบ้าน ธนาคารอาคารสงเคราะห์มีสินเชื่อที่หลากหลาย เพื่อออกแบบมาให้เหมาะสมกับเงื่อนไขของทุกคน พร้อมเปิดกว้างให้กับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยหลากหลายกลุ่ม

หากคุณสนใจขอสินเชื่อบ้านจาก ธอส. สามารถทำการกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำด้านสินเชื่อ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่

หรือติดต่อได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center :  0-2645-9000

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
-

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณ
อาจสนใจ

รวมทุกวิธีรีไฟแนนซ์บ้าน ดอกเบี้ยต่ำจาก ธอส. พร้อม 5 สินเชื่อบ้านดอกเบี้ยพิเศษ เริ่มต้น 1.79% ผ่อนเบาสบายเพียง 3,000 บาท/เดือน
รวมข้อมูลสำคัญที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจ ซื้อคอนโดดีไหม หรือซื้อบ้านดีไหม พร้อมเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียแบบละเอียด เพื่อให้เลือกได้ตรงใจ
รวมโครงการบ้าน 2568 และคอนโดใหม่ 2568 ทำเลศักยภาพ น่าลงทุน พร้อมรายละเอียดโครงการและราคาเริ่มต้น ครบจบในที่เดียว

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ค้นหาตาม Keyword เช่น การเงิน, การลงทุน, สินเชื่อ, บ้าน