10 เทคนิคการวางแผนการเงิน ที่ช่วยให้ชีวิตมั่นคงในระยะยาว

/
/
10 เทคนิคการวางแผนการเงิน ที่ช่วยให้ชีวิตมั่นคงในระยะยาว

การวางแผนการเงิน (Financial Planning) คือ กระบวนการตั้งเป้าหมายทางการเงินและสร้างแผนการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นความมั่นคงในปัจจุบัน การสร้างความมั่งคั่งในอนาคต หรือการมีอิสรภาพทางการเงิน ซึ่งทั้งหมดนี้เริ่มต้นได้ด้วยการวางแผนที่ดี

ความสำคัญของการวางแผนการเงิน

การวางแผนการเงินเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของสถานะการเงินทั้งหมด ทำให้สามารถบริหารจัดการรายรับ-รายจ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาหนี้สินที่ไม่จำเป็น และเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน นอกจากนี้ยังเป็นรากฐานในการต่อยอดสร้างความมั่งคั่งผ่านการออมและการลงทุน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายใหญ่ในชีวิต เช่น การมีบ้าน การศึกษาบุตร หรือการเกษียณอย่างมีความสุข การวางแผนจึงเปรียบเสมือนแผนที่นำทางสู่ความสำเร็จทางการเงิน

ขั้นตอนวางแผนการเงิน

การเริ่มต้นที่ดีต้องมีลำดับขั้นตอนที่ชัดเจน เพื่อให้การวางแผนเป็นไปอย่างราบรื่นและเห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ขั้นตอนการวางแผนทางการเงินที่ไม่ซับซ้อนและทุกคนสามารถทำตามได้ จะช่วยให้เรามองเห็นทิศทางและสามารถลงมือปฏิบัติได้ทันที โดยมีขั้นตอนหลักดังนี้

  • ประเมินสถานะการเงินปัจจุบัน: สำรวจทรัพย์สิน หนี้สิน รายรับ และรายจ่ายทั้งหมด เพื่อให้ทราบว่าสถานะการเงินของเราในตอนนี้เป็นอย่างไร
  • กำหนดเป้าหมายทางการเงิน: ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เช่น เก็บเงินดาวน์บ้านใน 3 ปี หรือมีเงินเกษียณ 10 ล้านบาท
  • จัดทำแผนการเงิน: กำหนดวิธีการที่จะทำให้บรรลุเป้าหมาย เช่น จะออมเงินเดือนละเท่าไหร่ จะลงทุนในสินทรัพย์ใดบ้าง หรือจะลดรายจ่ายส่วนไหนลง
  • ปฏิบัติตามแผนอย่างมีวินัย: ลงมือทำตามแผนที่วางไว้อย่างสม่ำเสมอ เพราะแผนที่ดีจะไม่มีความหมายหากขาดการลงมือทำ
  • ทบทวนและปรับปรุงแผน: ตรวจสอบความคืบหน้าของแผนเป็นประจำ อย่างน้อยปีละครั้ง และปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ชีวิตที่อาจเปลี่ยนแปลงไป

10 เทคนิคที่ใช้ในการวางแผนการเงิน

นอกจากการทำตามขั้นตอนพื้นฐานแล้ว การมีเทคนิคที่ดีจะช่วยให้การวางแผนการเงินของเรามีประสิทธิภาพและเข้าใกล้ความสำเร็จได้ง่ายขึ้น เทคนิคเหล่านี้เป็นแนวทางปฏิบัติที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเงินได้อย่างยั่งยืน และทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ได้ทันทีเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต

1. ตั้งเป้าหมายทางการเงิน 

การมีเป้าหมายที่ชัดเจนเป็นจุดเริ่มต้นของการวางแผนที่มีประสิทธิภาพ เราควรแบ่งเป้าหมายออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะสั้น (1-3 ปี) เช่น การเก็บเงินสำรองฉุกเฉิน, ระยะกลาง (3-7 ปี) เช่น การเก็บเงินดาวน์บ้านหรือรถยนต์ และระยะยาว (7 ปีขึ้นไป) เช่น การวางแผนเกษียณหรือกองทุนการศึกษาบุตร การกำหนดเป้าหมายเช่นนี้จะช่วยให้เรามีทิศทางในการออมและลงทุนที่ชัดเจน และมีกำลังใจในการปฏิบัติตามแผน

2. ใช้หลัก SMART Goals 

เพื่อให้เป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นจริงได้ง่ายขึ้น ควรใช้หลัก SMART เข้ามาช่วย ได้แก่ Specific (เฉพาะเจาะจง), Measurable (วัดผลได้), Achievable (บรรลุผลได้), Relevant (สมเหตุสมผล) และ Time-bound (มีกรอบเวลาชัดเจน) เช่น แทนที่จะตั้งเป้าว่า “จะเก็บเงิน” ให้เปลี่ยนเป็น “จะเก็บเงิน 100,000 บาท เพื่อเป็นเงินดาวน์บ้านภายใน 2 ปี” ซึ่งจะทำให้เป้าหมายจับต้องได้และมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

3. ออมทันทีหลังได้รายรับ

 เทคนิคนี้เป็นวิธีสร้างวินัยการออมที่ได้ผลที่สุด โดยทันทีที่ได้รับเงินเดือนหรือรายรับเข้ามา ให้หักเงินส่วนหนึ่งเพื่อการออมหรือลงทุนทันที ก่อนที่จะนำไปใช้จ่ายในส่วนอื่น วิธีนี้จะช่วยการันตีว่าเรามีเงินออมในทุก ๆ เดือน และช่วยลดโอกาสในการนำเงินไปใช้จ่ายกับสิ่งที่ไม่จำเป็น เพราะเราได้จัดสรรเงินสำหรับอนาคตไว้เป็นอันดับแรกแล้ว

4. สร้างรายได้มากกว่าหนึ่งทาง 

การพึ่งพารายได้จากแหล่งเดียวมีความเสี่ยงสูงในยุคปัจจุบัน การมองหาช่องทางสร้างรายได้เสริม ไม่ว่าจะเป็นการทำงานพิเศษ การขายของออนไลน์ การเป็นฟรีแลนซ์ หรือการสร้างรายได้จากทรัพย์สิน (Passive Income) เช่น ค่าเช่าหรือเงินปันผล จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน ลดความเสี่ยงหากรายได้หลักขาดหายไป และยังช่วยเร่งให้เราไปถึงเป้าหมายทางการเงินที่วางไว้ได้เร็วขึ้นอีกด้วย

5. ปรับแนวคิดด้านการเงิน 

ความมั่งคั่งเริ่มต้นที่แนวคิด (Mindset) เราต้องปรับมุมมองจากการเป็น “ผู้ใช้เงิน” มาสู่การเป็น “ผู้บริหารเงิน” และ “นักลงทุน” หมั่นศึกษาหาความรู้ทางการเงินอย่างสม่ำเสมอ ทำความเข้าใจเรื่องการลงทุน ความเสี่ยง และคุณค่าของเงินในระยะยาว เมื่อเรามีทัศนคติที่ถูกต้องต่อเงิน การตัดสินใจทางการเงินในทุก ๆ เรื่องก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น และนำไปสู่ความมั่นคงทางการเงินได้อย่างแท้จริง

6. ฝากเงินในบัญชีดอกเบี้ยสูง 

เงินออมที่เก็บไว้ในบัญชีออมทรัพย์ทั่วไปอาจให้ผลตอบแทนที่ต่ำมากจนตามไม่ทันเงินเฟ้อ เราจึงควรนำเงินออมส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะเงินสำรองฉุกเฉิน ไปเก็บไว้ในบัญชีเงินฝากประจำหรือบัญชีออมทรัพย์ดิจิทัลที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่า แม้ผลตอบแทนอาจไม่สูงเท่าการลงทุน แต่ก็เป็นวิธีพักเงินที่ปลอดภัยและช่วยให้เงินของเราเติบโตขึ้นได้ดีกว่าการปล่อยไว้เฉย ๆ เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนการวางแผนทางการเงินที่สำคัญ

7. เตรียมเงินให้พร้อมรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน 

เหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น การเจ็บป่วย อุบัติเหตุ หรือการตกงาน สามารถส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสถานะทางการเงินได้ การเตรียมเงินสำรองฉุกเฉิน (Emergency Fund) ในจำนวน 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือนจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เงินก้อนนี้ควรเก็บไว้ในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง เช่น บัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง เพื่อให้เราสามารถนำออกมาใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องไปกู้ยืมหรือรบกวนเงินลงทุนส่วนอื่น

8. แบ่งเงินเป็นสัดส่วนแบบ 50-30-20 

สูตรการจัดสรรเงินแบบ 50-30-20 เป็นหลักการที่เข้าใจง่ายและนำไปใช้ได้จริง โดยแบ่งรายได้สุทธิออกเป็น 3 ส่วน คือ 50% สำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็น (Needs) เช่น ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าอาหาร, 30% สำหรับค่าใช้จ่ายตามความต้องการ (Wants) เช่น ชอปปิง ท่องเที่ยว และ 20% สำหรับการออมและชำระหนี้ (Savings & Debt Repayment) วิธีนี้จะช่วยให้เราควบคุมการใช้จ่ายและมีเงินออมอย่างเป็นระบบ

9. นำเงินไปลงทุน 

การออมเงินเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว เพราะมูลค่าของเงินจะลดลงตามอัตราเงินเฟ้อ การนำเงินออมไปลงทุนต่อยอดจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้เงินทำงานและสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินเฟ้อ เราสามารถเลือกลงทุนได้หลากหลายรูปแบบตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เช่น กองทุนรวม หุ้น อสังหาริมทรัพย์ หรือสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งจะช่วยเร่งการเติบโตของพอร์ตการลงทุนของเรา

10. บริหารหนี้อย่างเป็นระบบ 

หนี้สิน โดยเฉพาะหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง เช่น หนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคล เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการสร้างความมั่งคั่ง เราจึงต้องบริหารจัดการหนี้อย่างจริงจัง โดยการรวบรวมรายการหนี้ทั้งหมดและวางแผนชำระคืนโดยเน้นไปที่หนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงสุดก่อน (Snowball หรือ Avalanche Method) การมีวินัยในการชำระหนี้และหลีกเลี่ยงการสร้างหนี้ที่ไม่จำเป็นจะช่วยปลดล็อกภาระและทำให้มีเงินเหลือไปลงทุนมากขึ้น

ข้อควรระวังในการวางแผนการเงิน

การวางแผนเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็มีข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ การตระหนักถึงข้อควรระวังเหล่านี้จะช่วยให้แผนการเงินของเราไม่สะดุดกลางทางและสามารถปรับตัวรับมือกับความท้าทายต่างๆ ได้ดีขึ้น เพื่อให้การเดินทางสู่เป้าหมายทางการเงินเป็นไปอย่างราบรื่น

  • ตั้งเป้าหมายที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง การตั้งเป้าหมายที่สูงเกินไปโดยไม่พิจารณารายได้และความสามารถของตนเอง อาจทำให้เกิดความท้อแท้และล้มเลิกได้ง่าย
  • ขาดการติดตามและทบทวนแผน สถานการณ์ชีวิตและเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การไม่ทบทวนแผนอาจทำให้แผนที่วางไว้ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน
  • ลงทุนโดยใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล การตัดสินใจซื้อหรือขายตามความกลัวหรือความโลภ มักนำไปสู่ความผิดพลาดและผลขาดทุนในระยะยาว
  • มองข้ามเรื่องเงินเฟ้อ การเก็บเงินสดไว้เพียงอย่างเดียวโดยไม่นำไปลงทุน จะทำให้มูลค่าที่แท้จริงของเงินลดลงเมื่อเวลาผ่านไป
  • ไม่มีแผนสำรองสำหรับเหตุฉุกเฉิน การละเลยการเตรียมเงินสำรองฉุกเฉิน อาจทำให้แผนการเงินทั้งหมดพังลงได้เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน

คำแนะนำในการวางแผนการเงิน

เพื่อให้การวางแผนการเงินประสบความสำเร็จและสร้างความมั่นคงได้อย่างยั่งยืน นอกจากเทคนิคและข้อควรระวังแล้ว ยังมีคำแนะนำเพิ่มเติมที่จะเป็นเหมือนตัวช่วยสำคัญ ทำให้เรามีกำลังใจและวินัยในการปฏิบัติตามแผนได้อย่างต่อเนื่องตลอดเส้นทาง

  • เริ่มต้นทันที อย่ารอให้พร้อม เพราะไม่มีเวลาไหนดีไปกว่าการเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ แม้จะเริ่มด้วยเงินจำนวนน้อยก็ตาม
  • ทำอย่างสม่ำเสมอ  วินัยและความสม่ำเสมอเป็นกุญแจสำคัญ การออมและลงทุนอย่างต่อเนื่องจะทำให้พลังของดอกเบี้ยทบต้นทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
  • ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม โลกการเงินเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การเปิดรับความรู้ใหม่ ๆ จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้นและค้นพบโอกาสใหม่ ๆ
  • ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันมากมายที่ช่วยในการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายและติดตามการลงทุน ซึ่งช่วยให้การวางแผนการเงินสะดวกขึ้น
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หากไม่มั่นใจสามารถขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนการเงิน เพื่อให้ได้แผนที่เหมาะสมกับเป้าหมายและความเสี่ยงของเรามากที่สุด

สรุป การวางแผนการเงิน 

สำหรับมนุษย์เงินเดือนการวางแผนการเงินคือเข็มทิศนำทางสู่ความมั่นคง การเริ่มต้นจากการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน การมีวินัยในการออมทันทีที่เงินเดือนออก การจัดสรรเงินอย่างเป็นระบบ และการบริหารหนี้ที่ดี คือหัวใจสำคัญที่จะเปลี่ยนจากคนทำงานธรรมดาให้กลายเป็นผู้ที่มีอิสรภาพทางการเงินได้ในอนาคต การมีบ้านซึ่งเป็นเป้าหมายใหญ่ก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝันหากเราเริ่มวางแผนตั้งแต่วันนี้ สำหรับผู้ที่วางแผนการเงินด้วยการฝากเงินในบัญชีดอกเบี้ยสูง สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์เงินฝากเพิ่มเติม เพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่สนใจ>>> ได้ที่นี่ หรือติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่สาขาของธนาคารที่สะดวก  

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
-

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณ
อาจสนใจ

รวม 10 ปัญหาบ้านที่พบบ่อย ทั้งกระเบื้องระเบิด ท่อน้ำรั่ว วอลล์เปเปอร์ลอก น้ำซึมขอบหน้าต่าง ฝ้าเพดานเป็นรอย และอื่น ๆ ที่ต้องรีบแก้ไขก่อนบานปลาย
Co-Living Space คือ ที่อยู่อาศัยแบบมีห้องนอนส่วนตัวและใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน เหมาะกับคนรุ่นใหม่ พร้อมสำรวจข้อดี ข้อจำกัด และลักษณะเฉพาะก่อนตัดสินใจ
วางแผนโอนมรดกที่ดินให้คุ้มค่าด้วยการประเมินทรัพย์สิน วางแผนภาษี ทำพินัยกรรม และเลือกวิธีโอนที่เหมาะสม เพื่อลดค่าใช้จ่ายและส่งต่อให้ทายาทอย่างราบรื่น

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ค้นหาตาม Keyword เช่น การเงิน, การลงทุน, สินเชื่อ, บ้าน