ทำความเข้าใจ DSR คืออะไร ทำไมถึงมีผลกับการขอกู้บ้าน

/
/
ทำความเข้าใจ DSR คืออะไร ทำไมถึงมีผลกับการขอกู้บ้าน

การมีบ้านเป็นของตัวเองคือความฝันของใครหลายคน แต่เส้นทางสู่การเป็นเจ้าของบ้านจำเป็นต้องมีการวางแผนทางการเงินที่ดี หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สถาบันการเงินใช้พิจารณาอนุมัติสินเชื่อคือตัวเลขทางการเงินที่เรียกว่า DSR หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยและสงสัยว่า DSR คืออะไร และเหตุใดตัวเลขนี้จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของการพิจารณาสินเชื่อบ้าน บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจในทุกมิติ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนยื่นกู้

DSR คืออะไร

DSR (Debt Service Ratio) คือ อัตราส่วนที่แสดงภาระหนี้สินทั้งหมดต่อเดือนเทียบกับรายได้รวมต่อเดือนของเรา พูดง่าย ๆ คือเป็นการวัดความสามารถในการชำระหนี้คืนของแต่ละบุคคล สถาบันการเงินจะใช้ค่า DSR เป็นเกณฑ์สำคัญในการประเมินว่า หากอนุมัติสินเชื่อให้แล้ว เราจะยังมีเงินเหลือพอสำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและสามารถผ่อนชำระหนี้ได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ ซึ่งโดยทั่วไปภาระหนี้ไม่ควรเกิน 40% ของรายได้

DSR มีผลต่อการขอสินเชื่อบ้านอย่างไร

ค่า DSR มีผลโดยตรงต่อการพิจารณาอนุมัติวงเงินกู้บ้าน หากเรามีค่า DSR สูง แสดงว่าเรามีภาระหนี้สินต่อเดือนเป็นสัดส่วนที่มากเมื่อเทียบกับรายได้ ซึ่งสถาบันการเงินจะมองว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะผิดนัดชำระหนี้ในอนาคต อาจส่งผลให้ได้รับอนุมัติวงเงินกู้ที่น้อยลงหรือไม่ได้รับการอนุมัติเลย ในทางกลับกันหากมีค่า DSR ต่ำ ย่อมแสดงถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีสภาพคล่องสูง ทำให้โอกาสในการอนุมัติสินเชื่อบ้านในวงเงินที่ต้องการมีมากขึ้น

ตัวอย่างการคำนวณ DSR แบบเข้าใจง่าย

เราสามารถประเมินสถานะทางการเงินเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง เพื่อดูว่าภาระหนี้ในปัจจุบันสูงเกินไปหรือไม่ การคำนวณ Debt Service Ratio ไม่ใช่เรื่องซับซ้อน และสามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านสูตรคำนวณ ดังนี้

  • สูตรการคำนวณ (ภาระหนี้สินรวมต่อเดือน / รายได้รวมต่อเดือน) x 100 = DSR (%)
  • ตัวอย่าง ปัจจุบันเรามีภาระผ่อนรถและบัตรเครดิตรวมเดือนละ 20,000 บาท และมีรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 35,000 บาท
  • วิธีคำนวณ DSR (20,000 / 35,000) x 100 = 57.14%
  • สรุป จากตัวอย่างจะเห็นว่าค่า DSR อยู่ที่ 57.14% ซึ่งหมายความว่าเรามีภาระหนี้สินเกินกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้ ถือเป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง
การคำนวณ DSR

สถาบันการเงินดูข้อมูลอะไรบ้าง

ในการประเมินค่า DSR สถาบันการเงินจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลด้านรายได้และภาระหนี้สินทั้งหมดของเราอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ค่าที่สะท้อนความสามารถในการชำระหนี้ที่แท้จริง โดยจะพิจารณาจากเอกสารและข้อมูลต่าง ๆ ดังนี้

  • ข้อมูลด้านรายได้ ตรวจสอบจากเอกสารที่เชื่อถือได้ เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน รายการเดินบัญชีย้อนหลัง เพื่อดูรายได้ประจำและรายได้อื่น ๆ ที่เข้ามาสม่ำเสมอ
  • ข้อมูลภาระหนี้สิน ตรวจสอบภาระผ่อนชำระหนี้สินทุกประเภทที่มีอยู่ เช่น ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถยนต์ ยอดชำระขั้นต่ำของบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด รวมถึงสินเชื่อส่วนบุคคลอื่น ๆ จากข้อมูลเครดิตบูโรและเอกสารประกอบ

วิธีลดหนี้สินก่อนยื่นกู้บ้าน

การเตรียมตัวที่ดีที่สุดก่อนยื่นกู้บ้านคือการจัดการลดค่า DSR ของเราให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อได้อย่างมาก การลดภาระหนี้สินสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้

  • ปิดบัญชีหนี้ที่ไม่จำเป็น เริ่มจากการชำระหนี้ก้อนเล็ก ๆ หรือปิดบัตรเครดิตที่ไม่ได้ใช้งาน เพื่อลดจำนวนภาระหนี้ให้น้อยลง
  • ชำระหนี้ก้อนใหญ่ พยายามโปะหรือชำระหนี้ก้อนใหญ่ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง เช่น หนี้บัตรกดเงินสดหรือสินเชื่อส่วนบุคคลให้หมดไปก่อน
  • รวมหนี้ หากมีหนี้หลายก้อน การขอสินเชื่อรวมหนี้ (Debt Consolidation) อาจเป็นทางเลือกที่ดีในการจัดการภาระหนี้ให้เป็นก้อนเดียวและมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง
  • เพิ่มรายได้ หากเป็นไปได้ การหารายได้เสริมที่สามารถพิสูจน์แหล่งที่มาได้ จะช่วยให้สัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นและทำให้ค่า DSR ลดลงได้

สรุป ความสำคัญของ DSR ในการกู้บ้าน

DSR คือสิ่งที่ช่วยสะท้อนวินัยและสุขภาพทางการเงินของเรา ซึ่งสถาบันการเงินใช้เป็นปัจจัยหลักในการอนุมัติสินเชื่อบ้าน การทำความเข้าใจและเตรียมความพร้อมด้วยการจัดการ Debt Service Ratio ให้อยู่ในระดับต่ำจึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่สุดในการเดินทางสู่การเป็นเจ้าของบ้านในฝัน สำหรับผู้ที่กำลังการวางแผนผ่อนบ้าน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พร้อมเป็นที่ปรึกษาและสนับสนุนให้เรามีบ้านเป็นของตัวเองได้ง่ายขึ้น

หากคุณสนใจขอสินเชื่อบ้านจาก ธอส. สามารถทำการกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำด้านสินเชื่อ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่

หรือติดต่อได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center :  0-2645-9000 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
-

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณ
อาจสนใจ

รวม 10 ปัญหาบ้านที่พบบ่อย ทั้งกระเบื้องระเบิด ท่อน้ำรั่ว วอลล์เปเปอร์ลอก น้ำซึมขอบหน้าต่าง ฝ้าเพดานเป็นรอย และอื่น ๆ ที่ต้องรีบแก้ไขก่อนบานปลาย
Co-Living Space คือ ที่อยู่อาศัยแบบมีห้องนอนส่วนตัวและใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน เหมาะกับคนรุ่นใหม่ พร้อมสำรวจข้อดี ข้อจำกัด และลักษณะเฉพาะก่อนตัดสินใจ
วางแผนโอนมรดกที่ดินให้คุ้มค่าด้วยการประเมินทรัพย์สิน วางแผนภาษี ทำพินัยกรรม และเลือกวิธีโอนที่เหมาะสม เพื่อลดค่าใช้จ่ายและส่งต่อให้ทายาทอย่างราบรื่น

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ค้นหาตาม Keyword เช่น การเงิน, การลงทุน, สินเชื่อ, บ้าน