เทรนด์การอยู่อาศัยของคนยุคใหม่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ Co-Living Space ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่า Co-Living Space คือ รูปแบบการใช้ชีวิตแบบไหนกันแน่ และแตกต่างจากการเช่าหอพักหรืออพาร์ตเมนต์ทั่วไปอย่างไร บทความนี้ ธอส. จะพาไปทำความเข้าใจในทุกมิติ เพื่อให้เราตัดสินใจเลือกที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้อย่างแท้จริง ก่อนตัดสินใจเลือกที่พักในฝัน
Co-Living Space คืออะไร
Co-Living Space คือ รูปแบบการอยู่อาศัยที่ผสมผสานระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่ส่วนกลาง โดยผู้พักอาศัยจะมีห้องนอนเป็นของตัวเอง แต่จะใช้สิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ร่วมกัน เช่น ห้องครัว ห้องนั่งเล่น หรือ Co-Working Space แนวคิดนี้เน้นการสร้าง Community ส่งเสริมให้เกิดการปฏิสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และทำกิจกรรมร่วมกัน ถือเป็นวิวัฒนาการของการเช่าที่พักที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการสังคมและประสบการณ์มากกว่าแค่ที่พักอาศัย
Co-Living Space มีลักษณะอย่างไร
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ลักษณะเด่นของ Co-Living Space สามารถแบ่งออกได้เป็นองค์ประกอบหลัก ๆ ที่ทำให้การอยู่อาศัยรูปแบบนี้มีเอกลักษณ์และแตกต่างจากการเช่าที่พักแบบเดิม ๆ โดยเป็นการออกแบบที่มุ่งเน้นทั้งความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นอย่างลงตัว
- พื้นที่ส่วนตัว (Private Zone) โดยทั่วไปคือห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัว เป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อนและทำธุระส่วนตัว มีความเป็นสัดส่วนชัดเจน เพื่อให้ผู้พักอาศัยยังคงมีความเป็นส่วนตัวสูงสุด
- พื้นที่ส่วนกลาง (Communal Zone) เป็นหัวใจสำคัญที่ทุกคนใช้ร่วมกัน ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการปฏิสัมพันธ์ เช่น ห้องครัวพร้อมอุปกรณ์ครบครัน โซนนั่งเล่นพักผ่อน พื้นที่ทำงาน Co-Working Space และฟิตเนส
- การสร้างสังคม (Community Building) ผู้ให้บริการมักจัดกิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างผู้พักอาศัย เช่น เวิร์กชอป ปาร์ตี้ หรือกิจกรรมนันทนาการ เพื่อสร้างเครือข่ายทางสังคมและมิตรภาพใหม่ ๆ
ข้อดีในการอยู่อาศัยแบบ Co-Living Space
การเลือกอยู่อาศัยใน Co-Living Space มีข้อดีหลายประการที่ดึงดูดใจคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นและสังคมใหม่ ๆ การอาศัยอยู่ร่วมกันในพื้นที่ส่วนกลางและมีห้องนอนส่วนตัวนี้ มีข้อได้เปรียบที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองได้อย่างน่าสนใจ
- ประหยัดและควบคุมงบง่าย ค่าเช่ามักรวมค่าใช้จ่ายส่วนกลางไว้หมดแล้ว เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ อินเทอร์เน็ต ทำให้เราบริหารจัดการเงินได้ง่ายขึ้นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายแฝง
- สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เข้าถึงส่วนกลางคุณภาพสูงได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นฟิตเนส สระว่ายน้ำ หรือ Co-Working Space โดยไม่ต้องจ่ายค่าสมาชิกเพิ่มเติม
- สร้างเครือข่ายและสังคม เป็นโอกาสในการพบปะผู้คนหลากหลายอาชีพ อาจต่อยอดสู่มิตรภาพหรือคอนเนคชันทางธุรกิจในอนาคตได้อย่างง่ายดาย
- สัญญาเช่ายืดหยุ่น มีตัวเลือกสัญญาระยะสั้น ทำให้มีความคล่องตัวสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่ต้องการผูกมัดระยะยาว หรือต้องย้ายที่อยู่บ่อยครั้ง
ข้อจำกัดในการอยู่อาศัย Co-Living Space
แม้จะมีข้อดีน่าสนใจ แต่การอยู่อาศัยใน Co-Living Space ก็มีข้อจำกัดบางประการที่ควรพิจารณาเช่นกัน เพื่อให้เราได้ประเมินว่าไลฟ์สไตล์ของเรานั้นเหมาะสมกับรูปแบบการใช้ชีวิตที่ต้องแบ่งปันพื้นที่กับผู้อื่นหรือไม่ ก่อนตัดสินใจขั้นสุดท้าย
- ความเป็นส่วนตัวลดลง การใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกับผู้อื่นอาจทำให้รู้สึกขาดความเป็นส่วนตัวเมื่อเทียบกับการมีที่พักอาศัยเป็นของตัวเองทั้งหมด
- ความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น ความแตกต่างด้านไลฟ์สไตล์ นิสัย หรือระดับความสะอาดของแต่ละบุคคล อาจนำไปสู่ความขัดแย้งเล็กน้อยกับเพื่อนร่วมบ้านได้
- กฎระเบียบการอยู่ร่วมกัน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย จึงมีกฎเกณฑ์ที่ผู้พักอาศัยทุกคนต้องปฏิบัติตาม ซึ่งอาจทำให้บางคนรู้สึกว่าขาดอิสระไปบ้าง
- พื้นที่จัดเก็บของจำกัด โดยทั่วไปห้องนอนจะมีพื้นที่ใช้สอยที่ออกแบบมาอย่างจำกัด อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีข้าวของส่วนตัวเป็นจำนวนมาก

Co-Living Space เหมาะกับใคร
Co-Living Space เหมาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มนักศึกษาจบใหม่ First Jobber ฟรีแลนซ์ หรือผู้ที่ย้ายเมืองมาทำงาน ที่ต้องการที่พักพร้อมอยู่ มีความยืดหยุ่นสูง และต้องการสร้างสังคมใหม่ ๆ รวมถึงกลุ่ม Digital Nomad ที่ต้องการพื้นที่ทำงานและที่พักในที่เดียว นอกจากนี้ ยังตอบโจทย์ผู้ที่เบื่อความเหงาจากการอยู่คนเดียวและมองหาประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ได้พบปะผู้คนมากกว่าแค่การเช่าห้องพักธรรมดา
สรุป การใช้งาน Co-Living Space
การเลือก Co-Living Space เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการอยู่อาศัยในยุคปัจจุบัน ที่ให้ทั้งความสะดวกสบาย สังคม และความยืดหยุ่น สิ่งสำคัญคือการพิจารณาทั้งข้อดีและข้อจำกัดเพื่อหาที่พักที่ใช่ที่สุดสำหรับไลฟ์สไตล์ของเรา และเมื่อถึงวันที่เราพร้อมจะขยับขยายไปสู่การมีบ้านเป็นของตัวเอง ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พร้อมเป็นที่ปรึกษาและสนับสนุนทุกความฝันเรื่องบ้านให้เป็นจริง
หากคุณสนใจขอสินเชื่อบ้านจาก ธอส. สามารถทำการกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำด้านสินเชื่อ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่
หรือติดต่อได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center : 0-2645-9000