อัปเดตล่าสุด! แนะนำกองทุนลดหย่อนภาษี มีกองไหนบ้างที่น่าสนใจ

/
/
อัปเดตล่าสุด! แนะนำกองทุนลดหย่อนภาษี มีกองไหนบ้างที่น่าสนใจ

การมองหาตัวช่วยเพื่อประหยัดภาษีเป็นเรื่องสำคัญสำหรับหลายคน โดยเฉพาะการซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี ซึ่งในปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงและมีกองทุนใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาอย่างน่าสนใจ ทำให้เราต้องอัปเดตข้อมูลกันอย่างใกล้ชิด บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับกองทุนลดหย่อนภาษีประเภทต่าง ๆ พร้อมสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ เพื่อให้การวางแผนภาษีของเราเป็นไปอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด

กองทุนลดหย่อนภาษี คืออะไร

กองทุนลดหย่อนภาษี คือ กองทุนรวมประเภทหนึ่งที่ภาครัฐให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้ลงทุน เพื่อส่งเสริมการออมระยะยาวและการลงทุนในสินทรัพย์ตามนโยบายที่กำหนด โดยเงินที่เรานำไปลงทุนในกองทุนเหล่านี้สามารถนำไปหักออกจากเงินได้พึงประเมินก่อนคำนวณภาษี ทำให้เราเสียภาษีน้อยลง นับเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายการออมไปพร้อมกับการบริหารจัดการภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประเภทของกองทุนลดหย่อนภาษีที่ได้รับความนิยม

สำหรับปีภาษี 2568 มีกองทุนลดหย่อนภาษีหลายประเภทให้เราเลือกลงทุนตามเป้าหมายและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ตั้งแต่กองทุนที่คุ้นเคยกันดีเพื่อการเกษียณ ไปจนถึงกองทุนน้องใหม่ที่เน้นการลงทุนเพื่อความยั่งยืน ซึ่งแต่ละประเภทก็มีรายละเอียดและสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่น่าสนใจที่เราควรรู้จัก

กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนอื่น ๆ

กลุ่มกองทุนเพื่อการวางแผนเกษียณยังคงเป็นทางเลือกหลักในการลดหย่อนภาษี นำโดยกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี นอกจากนี้ยังมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ประกันชีวิตแบบบำนาญ รวมถึงกองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน ที่ยังคงให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเช่นเดิม เพื่อสนับสนุนการออมระยะยาวไว้ใช้จ่ายในวัยเกษียณ

กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG)

กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน หรือ Thai ESG เป็นกองทุนที่เพิ่งถูกเพิ่มเข้ามาเป็นทางเลือกในการลดหย่อนภาษีเมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจที่ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และมีธรรมาภิบาลที่ดี (ESG) ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนพร้อมกับมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย

กองทุน Thai ESGX

ล่าสุด คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้จัดตั้งกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ หรือ Thai ESGX เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 เพื่อกระตุ้นการลงทุนเพิ่มเติม โดยแบ่งแหล่งที่มาของเงินลงทุนและสิทธิประโยชน์ทางภาษีออกเป็น 2 ส่วนที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังนี้

  • ส่วนที่ใช้เงินลงทุนใหม่ เป็นการซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี Thai ESGX ด้วยเงินลงทุนใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป็นมาตรการพิเศษที่มีเงื่อนไขด้านระยะเวลาในการลงทุนที่จำกัด
  • ส่วนที่สับเปลี่ยนจากกองทุน LTF เปิดโอกาสให้ผู้ที่ยังคงมีเงินลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) สามารถโอนย้ายหน่วยลงทุนมายังกองทุน Thai ESGX ได้ เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติมจากเงินลงทุนเดิม

กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ยังลดหย่อนภาษีปี 2568 ได้อยู่ไหม

สำหรับกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมในการลดหย่อนภาษีนั้น สิทธิประโยชน์ดังกล่าวได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยปี 2567 เป็นปีสุดท้ายที่สามารถลงทุนเพื่อใช้สิทธิได้ ดังนั้น ตั้งแต่ปีภาษี 2568 เป็นต้นไป เราจะไม่สามารถนำเงินลงทุนในกองทุน SSF ที่ซื้อใหม่มาหักลดหย่อนภาษีได้อีกต่อไป แต่ยังคงต้องถือครองหน่วยลงทุนเดิมให้ครบตามเงื่อนไขที่กำหนด

สิทธิประโยชน์ในการนำเงินลงทุนมาหักลดหย่อนภาษี

การลงทุนในกองทุนแต่ละประเภทยังมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ในการหักลดหย่อนภาษีที่แตกต่างกันไป ทั้งในด้านของเพดานสูงสุดและเงื่อนไขการคำนวณวงเงิน การทำความเข้าใจในรายละเอียดเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถวางแผนการลงทุนและการซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

  • กองทุน RMF ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ต้องไม่เกิน 500,000 บาท โดยวงเงินนี้จะต้องนำไปนับรวมกับกองทุนอื่น ๆ ในกลุ่มเพื่อการเกษียณอายุด้วย เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กบข. เป็นต้น
  • กองทุน Thai ESG ให้สิทธิลดหย่อนสูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน หรือสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท สำหรับปีภาษี 2568 โดยจุดเด่นคือวงเงินนี้เป็นสิทธิพิเศษที่ไม่ต้องนำไปรวมคำนวณกับวงเงินของกลุ่มกองทุนเพื่อการเกษียณ
  • กองทุน Thai ESGX สิทธิประโยชน์แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ใช้เงินใหม่ซื้อลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 300,000 บาท โดยเป็นวงเงินแยกต่างหาก ไม่ต้องรวมกับกลุ่มกองทุนเกษียณ ส่วนที่สับเปลี่ยนจาก LTF สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้สูงสุดถึง 500,000 บาท โดยแบ่งเป็น 300,000 บาทในปีแรก และทยอยลดหย่อนอีก 200,000 บาทในปีถัด ๆ ไป (ปีละไม่เกิน 50,000 บาท) โดยการลงทุนทั้งสองส่วนต้องเกิดขึ้นภายในวันที่ 1 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568 เท่านั้น

การได้รับยกเว้นภาษี

นอกเหนือจากสิทธิลดหย่อนภาษี ณ ตอนที่ลงทุนแล้ว ผลประโยชน์หรือกำไรที่เราจะได้รับเมื่อขายคืนหน่วยลงทุนในอนาคตก็อาจได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเช่นกัน หากเราปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุนที่แต่ละกองทุนกำหนดไว้อย่างครบถ้วน

  • กองทุน RMF กำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุนจะได้รับการยกเว้นภาษีทั้งหมด เมื่อผู้ลงทุนถือครองหน่วยลงทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี (นับจากวันซื้อครั้งแรก) และทำการขายคืนเมื่อมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป นอกจากนี้ยังต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุนต่อเนื่อง คือ ซื้ออย่างน้อยปีละครั้งและไม่หยุดซื้อเกิน 1 ปีติดต่อกัน (เว้นแต่จะถือครบเงื่อนไขแล้ว)
  • กองทุน Thai ESG ผลประโยชน์จากการขายคืนหน่วยลงทุนจะได้รับสิทธิ์ยกเว้นภาษีเงินได้เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 100,000 บาท โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ ต้องถือครองหน่วยลงทุนนั้นมาเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 8 ปีเต็ม นับจากวันที่ซื้อ

ข้อควรพิจารณาในการลงทุนลดหย่อนภาษี

การเลือกซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีไม่ควรพิจารณาแค่สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ประกอบกัน เพื่อให้มั่นใจว่ากองทุนที่เลือกนั้นสอดคล้องกับเป้าหมายและความสามารถในการรับความเสี่ยงของเราอย่างแท้จริง โดยมีประเด็นหลักที่ควรพิจารณาดังนี้

  • ระยะเวลาการลงทุน กองทุนลดหย่อนภาษีแต่ละประเภทมีเงื่อนไขระยะเวลาการถือครองที่แตกต่างกัน เช่น RMF ต้องถือจนอายุ 55 ปี หรือ Thai ESG ต้องถือครบ 8 ปี เราจึงต้องมั่นใจว่าเป็นเงินเย็นที่สามารถลงทุนได้ตามระยะเวลาที่กำหนด
  • ความเสี่ยงในการลงทุน กองทุนต่าง ๆ มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย ตั้งแต่ความเสี่ยงต่ำไปจนถึงสูง เช่น ลงทุนในตราสารหนี้ หรือหุ้น เราจึงควรเลือกระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมกับตนเอง และกระจายการลงทุนเพื่อลดความผันผวน
  • เงื่อนไขการขายคืน การผิดเงื่อนไขการลงทุน เช่น ขายคืนก่อนกำหนด อาจทำให้ต้องคืนเงินภาษีที่เคยได้รับลดหย่อนไป พร้อมกับต้องเสียค่าปรับหรือเงินเพิ่ม จึงควรอ่านและทำความเข้าใจเงื่อนไขการขายคืนให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน
https://www.ghbank.co.th/information/product/channels-for-apply-loans/

สรุป กองทุนลดหย่อนภาษี

การวางแผนภาษีผ่านกองทุนรวมเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด โดยในปี 2568 นี้มีตัวเลือกที่น่าสนใจทั้ง RMF ลดหย่อนภาษีที่เป็นกองทุนหลัก และกองทุนใหม่อย่าง Thai ESG และ Thai ESGX ที่ให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม การศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขของแต่ละกองทุนจะช่วยให้เราเลือกลงทุนได้อย่างเหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด การมีวินัยในการออมและการลงทุนระยะยาว คือหัวใจสำคัญสู่ความมั่นคงทางการเงินในอนาคต

ซึ่งนอกจากการลงทุนกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษีแล้ว กรมสรรพากรยังให้ผู้ที่กู้สินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย สามารถนำดอกเบี้ยเงินกู้นั้น ๆ มาใช้ในการลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย หากคุณสนใจขอสินเชื่อบ้านจาก ธอส. สามารถทำการกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำด้านสินเชื่อ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่

หรือติดต่อได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center :  0-2645-9000

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
-

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณ
อาจสนใจ

รวม 10 ปัญหาบ้านที่พบบ่อย ทั้งกระเบื้องระเบิด ท่อน้ำรั่ว วอลล์เปเปอร์ลอก น้ำซึมขอบหน้าต่าง ฝ้าเพดานเป็นรอย และอื่น ๆ ที่ต้องรีบแก้ไขก่อนบานปลาย
Co-Living Space คือ ที่อยู่อาศัยแบบมีห้องนอนส่วนตัวและใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน เหมาะกับคนรุ่นใหม่ พร้อมสำรวจข้อดี ข้อจำกัด และลักษณะเฉพาะก่อนตัดสินใจ
วางแผนโอนมรดกที่ดินให้คุ้มค่าด้วยการประเมินทรัพย์สิน วางแผนภาษี ทำพินัยกรรม และเลือกวิธีโอนที่เหมาะสม เพื่อลดค่าใช้จ่ายและส่งต่อให้ทายาทอย่างราบรื่น

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก
เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก GH BANK

อัปเดตทุก เรื่องบ้าน

อัพเดตเรื่องบ้านก่อนใคร รู้ก่อนได้เปรียบ

ค้นหาตาม Keyword เช่น การเงิน, การลงทุน, สินเชื่อ, บ้าน