การวางแผนการเงิน (Financial Planning) คือ กระบวนการตั้งเป้าหมายทางการเงินและสร้างแผนการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นความมั่นคงในปัจจุบัน การสร้างความมั่งคั่งในอนาคต หรือการมีอิสรภาพทางการเงิน ซึ่งทั้งหมดนี้เริ่มต้นได้ด้วยการวางแผนที่ดี
ความสำคัญของการวางแผนการเงิน
การวางแผนการเงินเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของสถานะการเงินทั้งหมด ทำให้สามารถบริหารจัดการรายรับ-รายจ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาหนี้สินที่ไม่จำเป็น และเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน นอกจากนี้ยังเป็นรากฐานในการต่อยอดสร้างความมั่งคั่งผ่านการออมและการลงทุน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายใหญ่ในชีวิต เช่น การมีบ้าน การศึกษาบุตร หรือการเกษียณอย่างมีความสุข การวางแผนจึงเปรียบเสมือนแผนที่นำทางสู่ความสำเร็จทางการเงิน
ขั้นตอนวางแผนการเงิน
การเริ่มต้นที่ดีต้องมีลำดับขั้นตอนที่ชัดเจน เพื่อให้การวางแผนเป็นไปอย่างราบรื่นและเห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ขั้นตอนการวางแผนทางการเงินที่ไม่ซับซ้อนและทุกคนสามารถทำตามได้ จะช่วยให้เรามองเห็นทิศทางและสามารถลงมือปฏิบัติได้ทันที โดยมีขั้นตอนหลักดังนี้
- ประเมินสถานะการเงินปัจจุบัน: สำรวจทรัพย์สิน หนี้สิน รายรับ และรายจ่ายทั้งหมด เพื่อให้ทราบว่าสถานะการเงินของเราในตอนนี้เป็นอย่างไร
- กำหนดเป้าหมายทางการเงิน: ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เช่น เก็บเงินดาวน์บ้านใน 3 ปี หรือมีเงินเกษียณ 10 ล้านบาท
- จัดทำแผนการเงิน: กำหนดวิธีการที่จะทำให้บรรลุเป้าหมาย เช่น จะออมเงินเดือนละเท่าไหร่ จะลงทุนในสินทรัพย์ใดบ้าง หรือจะลดรายจ่ายส่วนไหนลง
- ปฏิบัติตามแผนอย่างมีวินัย: ลงมือทำตามแผนที่วางไว้อย่างสม่ำเสมอ เพราะแผนที่ดีจะไม่มีความหมายหากขาดการลงมือทำ
- ทบทวนและปรับปรุงแผน: ตรวจสอบความคืบหน้าของแผนเป็นประจำ อย่างน้อยปีละครั้ง และปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ชีวิตที่อาจเปลี่ยนแปลงไป
10 เทคนิคที่ใช้ในการวางแผนการเงิน
นอกจากการทำตามขั้นตอนพื้นฐานแล้ว การมีเทคนิคที่ดีจะช่วยให้การวางแผนการเงินของเรามีประสิทธิภาพและเข้าใกล้ความสำเร็จได้ง่ายขึ้น เทคนิคเหล่านี้เป็นแนวทางปฏิบัติที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเงินได้อย่างยั่งยืน และทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ได้ทันทีเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต
1. ตั้งเป้าหมายทางการเงิน
การมีเป้าหมายที่ชัดเจนเป็นจุดเริ่มต้นของการวางแผนที่มีประสิทธิภาพ เราควรแบ่งเป้าหมายออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะสั้น (1-3 ปี) เช่น การเก็บเงินสำรองฉุกเฉิน, ระยะกลาง (3-7 ปี) เช่น การเก็บเงินดาวน์บ้านหรือรถยนต์ และระยะยาว (7 ปีขึ้นไป) เช่น การวางแผนเกษียณหรือกองทุนการศึกษาบุตร การกำหนดเป้าหมายเช่นนี้จะช่วยให้เรามีทิศทางในการออมและลงทุนที่ชัดเจน และมีกำลังใจในการปฏิบัติตามแผน
2. ใช้หลัก SMART Goals
เพื่อให้เป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นจริงได้ง่ายขึ้น ควรใช้หลัก SMART เข้ามาช่วย ได้แก่ Specific (เฉพาะเจาะจง), Measurable (วัดผลได้), Achievable (บรรลุผลได้), Relevant (สมเหตุสมผล) และ Time-bound (มีกรอบเวลาชัดเจน) เช่น แทนที่จะตั้งเป้าว่า “จะเก็บเงิน” ให้เปลี่ยนเป็น “จะเก็บเงิน 100,000 บาท เพื่อเป็นเงินดาวน์บ้านภายใน 2 ปี” ซึ่งจะทำให้เป้าหมายจับต้องได้และมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
3. ออมทันทีหลังได้รายรับ
เทคนิคนี้เป็นวิธีสร้างวินัยการออมที่ได้ผลที่สุด โดยทันทีที่ได้รับเงินเดือนหรือรายรับเข้ามา ให้หักเงินส่วนหนึ่งเพื่อการออมหรือลงทุนทันที ก่อนที่จะนำไปใช้จ่ายในส่วนอื่น วิธีนี้จะช่วยการันตีว่าเรามีเงินออมในทุก ๆ เดือน และช่วยลดโอกาสในการนำเงินไปใช้จ่ายกับสิ่งที่ไม่จำเป็น เพราะเราได้จัดสรรเงินสำหรับอนาคตไว้เป็นอันดับแรกแล้ว
4. สร้างรายได้มากกว่าหนึ่งทาง
การพึ่งพารายได้จากแหล่งเดียวมีความเสี่ยงสูงในยุคปัจจุบัน การมองหาช่องทางสร้างรายได้เสริม ไม่ว่าจะเป็นการทำงานพิเศษ การขายของออนไลน์ การเป็นฟรีแลนซ์ หรือการสร้างรายได้จากทรัพย์สิน (Passive Income) เช่น ค่าเช่าหรือเงินปันผล จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน ลดความเสี่ยงหากรายได้หลักขาดหายไป และยังช่วยเร่งให้เราไปถึงเป้าหมายทางการเงินที่วางไว้ได้เร็วขึ้นอีกด้วย
5. ปรับแนวคิดด้านการเงิน
ความมั่งคั่งเริ่มต้นที่แนวคิด (Mindset) เราต้องปรับมุมมองจากการเป็น “ผู้ใช้เงิน” มาสู่การเป็น “ผู้บริหารเงิน” และ “นักลงทุน” หมั่นศึกษาหาความรู้ทางการเงินอย่างสม่ำเสมอ ทำความเข้าใจเรื่องการลงทุน ความเสี่ยง และคุณค่าของเงินในระยะยาว เมื่อเรามีทัศนคติที่ถูกต้องต่อเงิน การตัดสินใจทางการเงินในทุก ๆ เรื่องก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น และนำไปสู่ความมั่นคงทางการเงินได้อย่างแท้จริง
6. ฝากเงินในบัญชีดอกเบี้ยสูง
เงินออมที่เก็บไว้ในบัญชีออมทรัพย์ทั่วไปอาจให้ผลตอบแทนที่ต่ำมากจนตามไม่ทันเงินเฟ้อ เราจึงควรนำเงินออมส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะเงินสำรองฉุกเฉิน ไปเก็บไว้ในบัญชีเงินฝากประจำหรือบัญชีออมทรัพย์ดิจิทัลที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่า แม้ผลตอบแทนอาจไม่สูงเท่าการลงทุน แต่ก็เป็นวิธีพักเงินที่ปลอดภัยและช่วยให้เงินของเราเติบโตขึ้นได้ดีกว่าการปล่อยไว้เฉย ๆ เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนการวางแผนทางการเงินที่สำคัญ
7. เตรียมเงินให้พร้อมรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
เหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น การเจ็บป่วย อุบัติเหตุ หรือการตกงาน สามารถส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสถานะทางการเงินได้ การเตรียมเงินสำรองฉุกเฉิน (Emergency Fund) ในจำนวน 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือนจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เงินก้อนนี้ควรเก็บไว้ในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง เช่น บัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง เพื่อให้เราสามารถนำออกมาใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องไปกู้ยืมหรือรบกวนเงินลงทุนส่วนอื่น
8. แบ่งเงินเป็นสัดส่วนแบบ 50-30-20
สูตรการจัดสรรเงินแบบ 50-30-20 เป็นหลักการที่เข้าใจง่ายและนำไปใช้ได้จริง โดยแบ่งรายได้สุทธิออกเป็น 3 ส่วน คือ 50% สำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็น (Needs) เช่น ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าอาหาร, 30% สำหรับค่าใช้จ่ายตามความต้องการ (Wants) เช่น ชอปปิง ท่องเที่ยว และ 20% สำหรับการออมและชำระหนี้ (Savings & Debt Repayment) วิธีนี้จะช่วยให้เราควบคุมการใช้จ่ายและมีเงินออมอย่างเป็นระบบ
9. นำเงินไปลงทุน
การออมเงินเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว เพราะมูลค่าของเงินจะลดลงตามอัตราเงินเฟ้อ การนำเงินออมไปลงทุนต่อยอดจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้เงินทำงานและสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินเฟ้อ เราสามารถเลือกลงทุนได้หลากหลายรูปแบบตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เช่น กองทุนรวม หุ้น อสังหาริมทรัพย์ หรือสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งจะช่วยเร่งการเติบโตของพอร์ตการลงทุนของเรา
10. บริหารหนี้อย่างเป็นระบบ
หนี้สิน โดยเฉพาะหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง เช่น หนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคล เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการสร้างความมั่งคั่ง เราจึงต้องบริหารจัดการหนี้อย่างจริงจัง โดยการรวบรวมรายการหนี้ทั้งหมดและวางแผนชำระคืนโดยเน้นไปที่หนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงสุดก่อน (Snowball หรือ Avalanche Method) การมีวินัยในการชำระหนี้และหลีกเลี่ยงการสร้างหนี้ที่ไม่จำเป็นจะช่วยปลดล็อกภาระและทำให้มีเงินเหลือไปลงทุนมากขึ้น
ข้อควรระวังในการวางแผนการเงิน
การวางแผนเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็มีข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ การตระหนักถึงข้อควรระวังเหล่านี้จะช่วยให้แผนการเงินของเราไม่สะดุดกลางทางและสามารถปรับตัวรับมือกับความท้าทายต่างๆ ได้ดีขึ้น เพื่อให้การเดินทางสู่เป้าหมายทางการเงินเป็นไปอย่างราบรื่น
- ตั้งเป้าหมายที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง การตั้งเป้าหมายที่สูงเกินไปโดยไม่พิจารณารายได้และความสามารถของตนเอง อาจทำให้เกิดความท้อแท้และล้มเลิกได้ง่าย
- ขาดการติดตามและทบทวนแผน สถานการณ์ชีวิตและเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การไม่ทบทวนแผนอาจทำให้แผนที่วางไว้ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน
- ลงทุนโดยใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล การตัดสินใจซื้อหรือขายตามความกลัวหรือความโลภ มักนำไปสู่ความผิดพลาดและผลขาดทุนในระยะยาว
- มองข้ามเรื่องเงินเฟ้อ การเก็บเงินสดไว้เพียงอย่างเดียวโดยไม่นำไปลงทุน จะทำให้มูลค่าที่แท้จริงของเงินลดลงเมื่อเวลาผ่านไป
- ไม่มีแผนสำรองสำหรับเหตุฉุกเฉิน การละเลยการเตรียมเงินสำรองฉุกเฉิน อาจทำให้แผนการเงินทั้งหมดพังลงได้เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน
คำแนะนำในการวางแผนการเงิน
เพื่อให้การวางแผนการเงินประสบความสำเร็จและสร้างความมั่นคงได้อย่างยั่งยืน นอกจากเทคนิคและข้อควรระวังแล้ว ยังมีคำแนะนำเพิ่มเติมที่จะเป็นเหมือนตัวช่วยสำคัญ ทำให้เรามีกำลังใจและวินัยในการปฏิบัติตามแผนได้อย่างต่อเนื่องตลอดเส้นทาง
- เริ่มต้นทันที อย่ารอให้พร้อม เพราะไม่มีเวลาไหนดีไปกว่าการเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ แม้จะเริ่มด้วยเงินจำนวนน้อยก็ตาม
- ทำอย่างสม่ำเสมอ วินัยและความสม่ำเสมอเป็นกุญแจสำคัญ การออมและลงทุนอย่างต่อเนื่องจะทำให้พลังของดอกเบี้ยทบต้นทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม โลกการเงินเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การเปิดรับความรู้ใหม่ ๆ จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้นและค้นพบโอกาสใหม่ ๆ
- ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันมากมายที่ช่วยในการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายและติดตามการลงทุน ซึ่งช่วยให้การวางแผนการเงินสะดวกขึ้น
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หากไม่มั่นใจสามารถขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนการเงิน เพื่อให้ได้แผนที่เหมาะสมกับเป้าหมายและความเสี่ยงของเรามากที่สุด

สรุป การวางแผนการเงิน
สำหรับมนุษย์เงินเดือนการวางแผนการเงินคือเข็มทิศนำทางสู่ความมั่นคง การเริ่มต้นจากการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน การมีวินัยในการออมทันทีที่เงินเดือนออก การจัดสรรเงินอย่างเป็นระบบ และการบริหารหนี้ที่ดี คือหัวใจสำคัญที่จะเปลี่ยนจากคนทำงานธรรมดาให้กลายเป็นผู้ที่มีอิสรภาพทางการเงินได้ในอนาคต การมีบ้านซึ่งเป็นเป้าหมายใหญ่ก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝันหากเราเริ่มวางแผนตั้งแต่วันนี้ สำหรับผู้ที่วางแผนการเงินด้วยการฝากเงินในบัญชีดอกเบี้ยสูง สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์เงินฝากเพิ่มเติม เพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่สนใจ>>> ได้ที่นี่ หรือติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่สาขาของธนาคารที่สะดวก