การเป็นเจ้าของที่ดินไม่ได้จำกัดอยู่แค่คนเดียว หลายครอบครัวต้องการถือครองทรัพย์สินร่วมกัน การมีโฉนดที่ดินมีชื่อร่วมกันสองคนจึงเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจ ซึ่งในทางกฎหมายสามารถทำได้ แต่ก็มีขั้นตอนและเงื่อนไขที่ต้องศึกษาให้ดีเสียก่อน เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลสำคัญทั้งหมดไว้ให้แล้ว ทั้งเรื่องการเพิ่มชื่อบุคคลที่ต้องการ และรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อให้เราวางแผนได้อย่างรอบคอบ
อยากให้โฉนดที่ดินมีชื่อร่วมกันสองคน เพิ่มชื่อใครได้บ้าง
การเพิ่มชื่อในโฉนดที่ดินเพื่อถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันนั้นสามารถทำได้ตามกฎหมาย โดยไม่ได้จำกัดแค่คนในครอบครัวเท่านั้น แต่การมีโฉนดที่ดินมีชื่อร่วมกันสองคนจะต้องเป็นการเพิ่มชื่อบุคคลที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดหรือทางกฎหมายกับเจ้าของเดิม ซึ่งสามารถเพิ่มชื่อบุคคลดังต่อไปนี้ได้
- ผู้สืบสันดานโดยตรง ได้แก่ บุตร, หลาน, เหลน และลื้อ
- คู่สมรสที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
- บิดามารดาของเจ้าของที่ดิน
- พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน
- พี่น้องร่วมบิดาหรือร่วมมารดาเดียวกัน
- ปู่ ย่า ตา ยายของเจ้าของที่ดิน
- ลุง ป้า น้า อา
ค่าใช้จ่ายในการเพิ่มชื่อในโฉนดที่ดิน
เรื่องค่าใช้จ่ายในการเพิ่มชื่อบุคคลในโฉนดที่ดินนั้น เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องนำมาพิจารณา โดยอัตราค่าธรรมเนียมและภาษีจะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ขึ้นอยู่กับสองปัจจัยหลัก คือ สถานะของเจ้าของที่ดินเดิม (ยังมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตแล้ว) และความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของเดิมกับผู้ที่ต้องการเพิ่มชื่อเข้ามา
กรณีที่เจ้าของที่ดินยังมีชีวิตอยู่
- พ่อหรือแม่ยกให้ลูกชอบด้วยกฎหมาย ค่าธรรมเนียมการโอน 0.5% ของราคาประเมิน ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 5% จากราคาประเมิน เฉพาะส่วนที่เกิน 20 ล้านบาท ค่าอากรแสตมป์ 0.5% (ของราคาประเมิน) และไม่เสียค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ
- พ่อยกให้ลูกที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย (พ่อแม่ไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรสกัน หรือไม่ได้จดทะเบียนรับรองบุตร) ค่าธรรมเนียมการโอน 0.5% ของราคาประเมิน ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามขั้นบันได จากราคาประเมิน หักค่าใช้จ่ายได้ 50% ค่าอากรแสตมป์ 0.5% (ของราคาประเมิน) และค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% จากราคาประเมิน
- ยกให้กับญาติคนอื่นที่ไม่ใช่ลูก ค่าธรรมเนียมการโอน 2% จากราคาประเมิน ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามขั้นบันได จากราคาประเมิน หักค่าใช้จ่ายได้ 50% ค่าอากรแสตมป์ 0.5% (ของราคาประเมิน) และค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% จากราคาประเมิน
กรณีเจ้าของที่ดินเสียชีวิตแล้ว
- กรณีไม่มีการโอนให้ก่อนเสียชีวิต หากเป็นทายาทส่วนที่เกินมูลค่า 100 ล้านบาท จะคิดอัตราภาษี 5% หากเป็นบุคคลธรรมดา ส่วนเกินมูลค่า 100 ล้านบาท จะคิดอัตราภาษี 10%
- กรณีโอนทรัพย์สินให้ผู้รับก่อนเสียชีวิต หากเป็นทายาทส่วนที่เกินมูลค่า 20 ล้านบาท จะคิดอัตราภาษี 5% หากเป็นบุคคลธรรมดา ส่วนเกินมูลค่า 100 ล้านบาท จะคิดอัตราภาษี 5%
- กรณีเพิ่มชื่อในโฉนดที่ดินในรูปแบบมรดกจะต้องเสียค่าธรรมเนียม ค่าคำขอแปลงละ 5 บาท ค่าประกาศมรดก แปลงละ 10 บาท ค่าจดทะเบียนผู้จัดการมรดก แปลงละ 50 บาท ค่าจดทะเบียนโอนมรดก 2% ตามราคาประเมินทุนทรัพย์ ในกรณีโอนมรดกระหว่างผู้บุพการีกับผู้สืบสันดาน หรือระหว่างคู่สมรส เรียกตามราคาประเมินทุนทรัพย์ 0.5%
หลักฐานที่ต้องใช้ในการเพิ่มชื่อในโฉนดที่ดินในรูปแบบมรดก
การดำเนินการขอรับโอนมรดกที่ดินเพื่อเพิ่มชื่อทายาทในโฉนด จำเป็นต้องเตรียมเอกสารหลักฐานให้ครบถ้วน เพื่อยื่นต่อเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดิน ซึ่งเอกสารสำคัญที่ต้องจัดเตรียมมีดังต่อไปนี้
- โฉนดที่ดินฉบับจริง หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์
- บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ขอรับมรดก
- ทะเบียนบ้านของผู้ขอรับมรดก
- ใบมรณบัตรของเจ้าของมรดก
- พินัยกรรม (หากเจ้าของมรดกได้ทำพินัยกรรมไว้)
- ทะเบียนสมรสหรือหลักฐานการสมรสตามกฎหมาย กรณีผู้รับมรดกเป็นคู่สมรส
- ทะเบียนสมรสของบิดามารดา หรือหลักฐานการรับรองบุตร กรณีบิดาเป็นผู้ขอรับมรดก
- หลักฐานการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม ในกรณีที่ผู้ขอรับมรดกเป็นบุตรบุญธรรม
- คำพิพากษาของศาลหรือสัญญาประนีประนอมยอมความ หากเคยมีกรณีพิพาทเกี่ยวกับมรดกแปลงดังกล่าว
- ใบมรณบัตรของทายาทอื่น ในกรณีที่มีทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกร่วมกันแต่ได้เสียชีวิตไปแล้ว
กรณีที่มีผู้จัดการมรดก
ในกรณีที่ศาลได้มีคำสั่งแต่งตั้งผู้จัดการมรดกไว้แล้ว การดำเนินการจะสะดวกยิ่งขึ้น โดยผู้จัดการมรดกจะต้องเป็นผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนโอนมรดกด้วยตนเอง เอกสารหลักฐานที่ต้องนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดิน ประกอบด้วย คำสั่งศาลหรือคำพิพากษาที่แต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดก ใบมรณบัตรของเจ้าของมรดก บัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้จัดการมรดก พร้อมด้วยโฉนดที่ดินฉบับจริง หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์
ขั้นตอนการเพิ่มชื่อในโฉนดที่ดิน
เมื่อเตรียมเอกสารและทำความเข้าใจเรื่องค่าใช้จ่ายแล้ว ขั้นตอนการดำเนินการที่สำนักงานที่ดินก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก โดยมีลำดับขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้
- เตรียมเอกสารให้พร้อม จัดเตรียมเอกสารของทั้งผู้โอนและผู้รับโอนให้ครบถ้วนตามกรณี (ให้โดยเสน่หา หรือรับมรดก)
- เดินทางไปสำนักงานที่ดิน ติดต่อสำนักงานที่ดินในเขตพื้นที่ที่โฉนดที่ดินนั้นตั้งอยู่
- ยื่นคำขอและตรวจสอบเอกสาร เจ้าหน้าที่จะรับเรื่องและทำการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์ของบุคคล
- ชำระค่าธรรมเนียมและภาษี เจ้าหน้าที่จะประเมินราคาที่ดินและคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมด จากนั้นเราจะต้องชำระเงินตามยอดดังกล่าว
- รับโฉนดที่ดินฉบับใหม่ เมื่อชำระเงินเรียบร้อย เจ้าหน้าที่จะทำการจดทะเบียนและสลักหลังโฉนด โดยจะระบุชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมทั้งหมด และมอบโฉนดฉบับใหม่ให้

สรุป การเพิ่มชื่อในโฉนดที่ดิน
การเพิ่มชื่อในโฉนดที่ดินเพื่อให้มีผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันนั้นสามารถทำได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่สิ่งสำคัญคือการเตรียมความพร้อมด้านเอกสาร และการวางแผนเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามความสัมพันธ์ของบุคคลและสถานะของเจ้าของที่ดินเดิม การมีโฉนดที่ดินมีชื่อร่วมกันสองคนหรือมากกว่านั้น จะช่วยสร้างความมั่นคงในการถือครองทรัพย์สินของครอบครัวได้อย่างดีเยี่ยม
หากคุณสนใจขอสินเชื่อบ้านจาก ธอส. สามารถทำการกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำด้านสินเชื่อ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่
หรือติดต่อได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center : 0-2645-9000